ออริจิ้น จับมือ Fulcrum Global บริษัทชั้นนำด้านการลงทุนอสังหาฯนานาชาติสัญชาติฮ่องกง เดินหน้าส่งโครงการแฟล็กชิพรุกตลาดต่างประเทศเต็มสูบ คาด 3 ปีโกยยอดขายต่างประเทศ 15,000 ล้านบาท นำร่องปีนี้ 4,000 ล้านบาท เล็งเปิดออฟฟิศ “ออริจิ้น ฮ่องกง” ช่วยขยายฐานลูกค้าต่างชาติ
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ พาร์คออริจิ้น (PARKORIGIN) ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge) นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill) เคนซิงตัน (Kensington) และโครงการแนวราบแบรนด์ บริทาเนีย (Britania) เปิดเผยว่า จากการมุ่งเดินหน้าสร้างอาณาจักรออริจิ้น หรือ The Empire of Origin ในปีนี้บริษัทยังมีแผนที่จะขยายตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง จึงได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางกลยุทธ์กับบริษัท ฟัลครัม โกลบอลจำกัด (Fulcrum Global) ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์นานาชาติสัญชาติฮ่องกง ให้เป็นผู้ลงทุน (Investor) และผู้บริหารงานขาย (Distributor) โครงการแฟล็กชิพของออริจิ้นในตลาดต่างประเทศแต่เพียงผู้เดียว
“ฟัลครัม มีผลงานที่ยอดเยี่ยมทั้งในฐานะผู้ลงทุนและผู้บริหารงานขาย โดยมีโครงการที่ประสบความสำเร็จจำนวนมากทั้งในไทย สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่น จากประสบการณ์การทำงานร่วมกัน เรามั่นใจว่าความร่วมมือครั้งนี้จะไม่เพียงแต่สร้างยอดขายได้ตามเป้าหมาย แต่จะช่วยสร้างชื่อเสียงของออริจิ้นให้แข็งแกร่งในสายตาชาวต่างชาติ ในฐานะบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสัญชาติไทย” นายพีระพงศ์ กล่าว
ด้าน น.ส.เบญญาภา เพิ่มพูลผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายธุรกิจต่างประเทศบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวว่า ออริจิ้น เริ่มต้นเข้าสู่ตลาดการขายอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศตั้งแต่ราวเดือน ก.ค. 2560 โดยใช้ระบบตัวแทนขายหลายราย สร้างยอดขายในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2560 ราว 1,200 ล้านบาท หลังจากสร้างความร่วมมือกับฟัลครัมแล้ว ฟัลครัมจะมีส่วนสำคัญในการนำฐานลูกค้าและความเข้าใจตลาดมาช่วยปรับปรุงกิจกรรมการขายในตลาดต่างประเทศ เช่น จีน ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย รวมถึงเป็นพันธมิตรสำคัญช่วยออริจิ้นเข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อเซ็กเมนท์ใหม่ๆ และตลาดใหม่ โดยเฉพาะตลาดยุโรป
“เมื่อเรามีพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในหลากหลายตลาด ทำให้ปีนี้เราตั้งเป้ายอดขายในตลาดต่างประเทศไว้ที่ 4,000 ล้านบาท และน่าจะเป็นส่วนสำคัญให้ยอดขายรวมปี 2561 ของออริจิ้นเติบโตกว่าเป้าหมายที่วางไว้เมื่อช่วงต้นปีขณะเดียวกัน เราคาดว่าจะมียอดขายในต่างประเทศในช่วง 3 ปีรวมกว่า 15,000 ล้านบาท” น.ส.เบญญาภา กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทยังมีแผนจะเปิดสำนักงานออริจิ้น สาขาฮ่องกงพร้อมทั้งห้องตัวอย่างกับทางฟัลครัม รวมถึงมีพนักงานประจำที่สามารถพูดภาษาท้องถิ่นในการให้บริการลูกค้าได้ด้วย เพื่อโปรโมทแบรนด์ของออริจิ้นในตลาดต่างประเทศและช่วยให้ผู้สนใจ มีความเข้าใจที่ดียิ่งขึ้นเกี่ยวกับโครงการของออริจิ้น โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาชมห้องตัวอย่างถึงประเทศไทย
ด้าน นายแฟรงค์ เหลียง (Mr.Frank Lueng) กรรมการผู้จัดการ ฟัลครัม โกลบอล กล่าวว่านับเป็นโอกาสอันน่าตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งสำหรับความร่วมมือที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างออริจิ้นและฟัลครัม หลังจากที่ฟัลครัมเคยประสบความสำเร็จในฐานะนักลงทุนที่เข้าซื้อคอนโดมิเนียมมากกว่า 450 ห้องของโครงการพาร์ค 24 และเคยร่วมเปิดตัวเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ “The Park at EM District”บริหารโดยดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด จนเป็นที่สนใจอย่างมากสำหรับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการถือครองอสังหาริมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนมั่นคงและมีการบริหารจัดการที่ดี
นอกเหนือจากการเข้าลงทุนโดยตรงแล้ว ฟัลครัม ยังเคยร่วมงานกับออริจิ้น ในการโปรโมทโครงการต่างๆ หลายโครงการในตลาดต่างประเทศ เช่น โครงการไนท์บริดจ์ ไพรม์ อ่อนนุช โครงการไนท์บริดจ์ สเปซ พระราม 9 โครงการเคนซิงตัน สุขุมวิท-เทพารักษ์ โดยมียอดขายรวมกว่า 1,500 ล้านบาท
“ตลาดคอนโดมิเนียมในประเทศไทยถือเป็นตลาดที่น่าดึงดูดมากในสายตาผู้ซื้อชาวต่างชาติ ที่ผ่านมา มีการประเมินว่าในปี 2560 มีตลาดสำหรับผู้ซื้อชาวต่างชาติในอสังหาริมทรัพย์ไทยกว่า 1.2 แสนล้านบาท และคาดว่าจะมีการเติบโตถึง 40% ในปี 2561 สำหรับโครงการของออริจิ้นได้สร้างมาตรฐานใหม่ทั้งในแง่ของทำเล แนวคิดโครงการ การจัดวางผังห้อง สิ่งอำนวยความสะดวก” นายแฟรงค์ กล่าว
จากการสำรวจโดย Juwai.com กรุงเทพฯได้รับการจัดให้เป็นอันดับ 2 ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ดึงดูดที่สุดสำหรับผู้ซื้อชาวจีนที่สนใจอสังหาริมทรัพย์ต่างชาติทั้งจากความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว การเป็นหนึ่งในสถานที่เป้าหมายหลักภายใต้นโยบาย One Belt One Road ของจีน ตลอดจนราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ยังปรับขึ้นต่อเนื่องอย่างโดดเด่น ความร่วมมือระหว่างกันจะช่วยให้ทั้งออริจิ้นและฟัลครัมนำความสามารถมาช่วยกันจนไปสู่เป้าหมายที่สูงยิ่งขึ้นร่วมกันได้
บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Project Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมมาแล้วประมาณ 46 โครงการ รวมมูลค่าโครงการกว่า 65,000 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียนต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร
ขณะที่บริษัทฟัลครัม โกลบอล เป็นบริษัทด้านการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ก่อตั้งขึ้นที่ฮ่องกงในปี 2551 โดยมีทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท มุ่งเน้นการลงทุนในโครงการที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองทั้งในสหราชอาณาจักร ไทย ญี่ปุ่น และเป็นพันธมิตรกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในประเทศเหล่านั้นจากการขยายเครือข่ายทั่วทั้งเอเชีย ยุโรป และแอฟริกา ฟัลครัมจึงเป็นแพลทฟอร์มที่ช่วยสร้างโอกาสการโปรโมทโครงการต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม