ปี 2024 นับเป็นปีแห่งความท้าทายของธุรกิจทั่วโลก สถานการณ์เงินเฟ้อและความผันผวนทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ธุรกิจต่าง ๆ ต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่อง หลายธุรกิจต้องปรับตัวมุ่งหน้าสู่การทำธุรกิจแบบยั่งยืน (Sustainability) รวมถึงการปรับเปลี่ยน Business Model เพื่อหา New S-Curve ให้ตอบสนองกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป สิ่งเหล่านี้เป็นหัวใจสําคัญมาก ๆ ของการทำธุรกิจในยุคนี้ นั่นเป็นเหตุผลให้ในช่วงปีที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่าธุรกิจต่าง ๆ เริ่มหันมาให้ความสําคัญกับการดําเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ตลอดจนการส่งเสริมความหลากหลายและการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียกันมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
วิสัยทัศน์ OR SDG แกนหลักกลยุทธ์ OR
ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR บริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในบริษัทตัวอย่างที่ปรับตัวและสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด และนับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีสำหรับการปรับตัวเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลง โดยทั้งหมดเกิดขึ้นภายใต้วิสัยทัศน์ “Empowering All toward Inclusive Growth” หรือ “เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโต ร่วมกัน” และยังแตกออกมาเป็นกลยุทธ์ภายใต้แนวคิด OR SDG ที่เรียกว่าเป็นแกนหลักของการดำเนินธุรกิจของ OR ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาซึ่งประกอบไปด้วย
S – Small สร้างโอกาสเพื่อคนตัวเล็ก
หนึ่งในเรื่องสำคัญที่ OR ให้ความสำคัญนั่นคือการสร้างโอกาสให้กับคนตัวเล็ก โดยมุ่งเน้นการช่วยเหลือเกษตรกรและชุมชน เช่น การสนับสนุนให้เกษตรกรนำสินค้ามาขายในพื้นที่ของ PTT Station ผ่านโครงการตลาดเติมสุข และพื้นที่ปันสุขเพื่อชุมชน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าจากวิสาหกิจชุมชนผ่าน “โครงการไทยเด็ด” กว่า 300 สาขาทั่วประเทศ รวมไปถึงโครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน ที่พัฒนาตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ดำเนินการครอบคลุมกว่า 10 จังหวัด ทั้งภาคเหนือและภาคใต้ ช่วยขยายองค์ความรู้ให้เกษตรกรปลูกกาแฟอย่างมีคุณภาพ โดย OR จะรับซื้อกาแฟจากเกษตรกรด้วยราคาเป็นธรรมที่โรงแปรรูปเมล็ดกาแฟ Café Amazon อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่
ในเรื่องของการ “สร้างโอกาส” นั้นเรียกว่าเป็นจุดแข็งของ OR ก็ว่าได้เพราะนอกจากจะสร้างโอกาสให้กับคนตัวเล็กแล้ว OR ยังสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับคนไทยอย่างมากมายเห็นได้จาก “สัดส่วนธุรกิจ” ของ OR ไม่ว่าจะเป็น PTT Station หรือ Café Amazon ที่มีผู้ประกอบการไทยมาเป็น Dealer นั้นมีมากถึง 80% ส่วนที่ OR เป็นเจ้าของนั้นมีเพียงแค่ 20% เท่านั้น เรื่องนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ของ OR อย่าง “เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโต ร่วมกัน” ได้อย่างชัดเจน
D – Diversified การสร้างโอกาสเพื่อการเติบโตทุกรูปแบบ
เพื่อก้าวข้ามความท้าทายในการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว OR ตอบสนองด้วยกลยุทธ์สร้างความเติบโตที่หลากหลาย ผ่านการขยายธุรกิจในรูปแบบใหม่ ๆ หลายอย่าง เช่น การขยายธุรกิจที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น OR Space ธุรกิจ Community Mall ที่ไม่ต้องขายน้ำมัน รวมไปถึงร้าน found & found ธุรกิจด้านสุขภาพและความงาม
นอกจากนี้ OR ยังขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศกัมพูชา ที่ OR เข้าไปลงทุนเจาะตลาดโดยตั้งเป้าให้เป็น “บ้านหลังที่ 2” (Second Home Base) เพื่อสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจด้วย
G – GREEN การสร้างโอกาสเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
ORให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม และมุ่งมั่นในการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดย OR ตั้งเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030 และเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2050 ผ่านการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ
การให้ความสำคัญกับความยั่งยืน (Sustainability) ของ OR ยังยืนยันได้ด้วยรางวัล Sustainability Awards 2024 ระดับ Highly Commended รางวัลสำหรับองค์กรที่เป็นเลิศทั้งในด้านการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน จาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) นอกจากนี้ยังการันตีด้วยรางวัล 14th Asian Excellence Award 2024 Sustainable Asia Award รางวัลที่มอบให้กับองค์กรที่มีผลงานด้าน ESG ที่โดดเด่น จาก นิตยสาร Corporate Governance Asia อีกด้วย
ภายใต้กลยุทธ์ OR SDG นั้นทำให้ OR สามารถสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจที่อยู่ในมืออย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น PTT Station กว่า 2,100 สาขา Café Amazon กว่า 4,400 สาขา EV Station PluZ กว่า 900 จุด 77 จังหวัดทั่วประเทศ ฯลฯ อย่างไรก็ตามในปี 2024 นี้เป็นปีที่ OR ขยับตัวไปสู่ธุรกิจไลฟ์สไตล์ มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและแสดงให้เห็นชัดเจนว่า OR กำลังเดินหน้าไปสู่การสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจด้วยการตอบสนองไลฟ์สไตล์ ของผู้คนให้มากขึ้นอย่างจริงจังแล้ว
OR Space กลยุทธ์สร้างรายได้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
สำหรับ OR Space นั้น OR วางตัวเองให้เป็น “พื้นที่ความสุข ครบทุกไลฟ์สไตล์ใกล้บ้านคุณ” โดยมีกลยุทธ์เลือก Location ที่แตกต่างจากศูนย์การค้า หรือ ห้างสรรพสินค้า โดยจะเน้นที่โซนศูนย์กลางธุรกิจ ใช้ Concept “Convenience Mall” เน้นสินค้าและบริการที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความสะดวกสบาย กลมกลืน เข้าถึงง่าย และเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนด้วย
การเปิด OR Space เรียกว่าเป็นกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์วิสัยทัศน์ OR SDG แบบครบทุกด้านก็ว่าได้ไม่ว่าจะเป็น เรื่อง “D-Diversified” จากการดำเนินธุรกิจน้ำมันสู่การดำเนินธุรกิจค้าปลีก ก้าวสู่ธุรกิจศูนย์การค้าที่ไม่มีการขายน้ำมันอย่างเต็มรูปแบบ เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้บริโภค โดยภายในพื้นที่จะมีธุรกิจต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ เช่น การมีจุดชาร์จ EV Station PluZ ร้านอาหารในเครือ OR รวมไปถึง Café Amazon ร้านเสื้อผ้าอย่าง Uniqlo ไปจนถึงธุรกิจสุขภาพและความงามอย่างร้านขายยาหรือแม้แต่ Spa ก็มีให้บริการ
นอกจากนี้ OR Space ยังตอบโจทย์ เรื่อง “S-Small” การให้โอกาสกับคนตัวเล็ก เปิดโอกาสให้ธุรกิจ SME ร้านค้าร้านอาหารพาร์ตเนอร์ของ OR รวมถึงการสนับสนุนสินค้าชุมชนผ่านโครงการ “ไทยเด็ด” ได้เข้ามาสร้างการเติบโตร่วมกัน นอกจากนี้ ในส่วนของ “G-Green” นอกจากเรื่องของการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าด้วยสถานีชาร์จ EV Station PluZ แล้ว ยังมีการเพิ่มพื้นที่สีเขียว และการใช้พลังงานสะอาดจาก Solar Rooftop ด้วย
สำหรับ OR Space ปัจจุบันเปิดแล้ว 2 สาขาคือ “OR Space รามคำแหง 129” และ “OR Space เณรแก้ว จ.สุพรรณบุรี” สำหรับเป้าหมายของ OR ในการขยายสาขา OR Space นับตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไปก็ตั้งเอาไว้ที่ปีละ 5-10 สาขาเลยทีเดียว
เปิดตัว found & found รุกธุรกิจสุขภาพและความงาม
อีกหนึ่งธุรกิจที่ OR ก้าวเข้าไปลงสนามก็คือ ธุรกิจสุขภาพและความงาม (Health and Wellness) นั่นก็คือการเปิดตัวร้านค้า found & found โดยร้านเปิดภายใต้แนวคิด “SIMPLE . EASY. EVERYSKIN” หมายถึงการที่ร้านมีผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม จากไทยและต่างประเทศที่ทันสมัย มีคุณภาพ เหมาะกับทุกสภาพผิว ทุกเพศสภาพ และทุกวัย นอกจากนี้ found & found ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม (Beauty Advisor) คอยให้คำปรึกษาและแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย รวมถึงมีระบบ CRM ที่เชื่อมต่อกับระบบสมาชิก Blueplus+ บนแอปพลิเคชันของ OR ที่ให้โปรโมชันและสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าได้แบบเฉพาะบุคคล (Personalized) ด้วย
ปัจจุบัน found & found เปิดให้บริการแล้ว 5 สาขา ประกอบด้วยสาขาในกรุงเทพฯ 4 สาขา ไม่ว่าจะเป็น สาขา ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ อาคาร B, สาขา PTT Station สายไหม 56, สาขา PTT Station บรมราชชนนี 97, สาขา OR Space รามคำแหง 129 และมีสาขาในต่างจังหวัด 1 สาขา คือ สาขา ศูนย์การค้าแพชชัน ช้อปปิ้งเดสติเนชั่น ระยอง ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานมานี้ ซึ่งทาง OR มีแผนที่จะขยายสาขา found & found ให้ครอบคลุม 500 สาขา ภายในปี 2030
ร้าน found & found นับเป็นธุรกิจร้านค้าปลีกใน Segment ใหม่ของ OR ที่มุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพและความงามมากขึ้นในยุคนี้ และทำให้ found & found เป็นอีกส่วนของธุรกิจไลฟ์สไตล์ที่เป็น New S-Curve ของ OR ในอนาคตต่อไป
ทิศทางสู่ความท้าทายปี 2025
หากมองกลยุทธ์ของ OR ในปี 2024 ที่เดินหน้าสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนและเดินหน้าทำ Diversified ธุรกิจไปสู่ธุรกิจใหม่ ๆ นั้นอาจมองได้ว่าในปี 2025 ก็จะเป็นอีกหนึ่งปีที่ OR เดินหน้าธุรกิจไลฟ์สไตล์อย่างเข้มข้นและธุรกิจนี้จะเป็น New S-Curve ของ OR อย่างแน่นอน ข้อมูลที่น่าสนใจที่สะท้อนความสำเร็จของกลยุทธ์นี้ของ OR ก็คือ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2024 ธุรกิจไลฟ์สไตล์มีสัดส่วนกำไรสูงถึง 34.3% เป็นรองแค่ธุรกิจ Mobility ที่ 57.5% เท่านั้น แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ Non-Oil ของ OR ได้อย่างชัดเจน
ในขณะที่สิ่งใหม่ ๆ ที่เราอาจจะได้เห็นจาก OR ก็คือการพัฒนาพลังงานสะอาด เช่น การลุยขยายสถานี EV Station PluZ เพื่อชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น การพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อตอบสนองความต้องการผู้ใช้งาน พร้อมนำเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจด้วยแผน Digital Transformation เดินหน้าสู่การเป็น Data Driven Organization หรือการเป็นองค์กรที่เดินหน้าโดยมีพื้นฐานของข้อมูล เพื่อใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจที่แม่นยำและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และที่สำคัญเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกๆ ไลฟ์สไตล์
นอกจากนี้เราก็อาจจะได้เห็นการรุกเข้าสู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพิ่มเติม อย่างเช่น โครงการ Café Amazon Park โครงการที่ OR กำลังทำอยู่ที่จังหวัดลำปาง บนพื้นที่กว่า 600 ไร่ โครงการที่นอกจากจะส่งเสริมธุรกิจต้นน้ำและเป็นต้นแบบศูนย์การเรียนรู้ด้านการปลูก แปรรูป และพัฒนาสายพันธุ์กาแฟแล้ว OR ยังตั้งใจจะให้ Café Amazon Park เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ โดยคำนึงถึงการสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจควบคู่ไปกับสังคมและชุมชนด้วย
ทั้งหมดนี้คือกลยุทธ์ของ OR ในการเผชิญความท้าทายในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกับชุมชนคนตัวเล็ก การขยายธุรกิจใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมคนในยุคนี้มากยิ่งขึ้น และเน้นการทำธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเดินหน้าตั้งเป้าหมายสู่ Net Zero อย่างจริงจัง กลยุทธ์เหล่านี้นับเป็นตัวอย่างที่ดีที่หลาย ๆ ธุรกิจสามารถนำไปปรับใช้เพื่อก้าวข้ามความท้าทายที่กำลังรออยู่ในปี 2025 ได้ไม่มากก็น้อย