ตลาดสมาร์ทโฟนถือเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีการแข่งขันที่สูงมาก และเพื่อให้ได้มาซึ่งส่วนแบ่งทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น ทำให้แต่ละแบรนด์ต่างต้องงัดกลยุทธ์ที่แตกต่างกันเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดให้ได้มากที่สุด ซึ่งกลยุทธ์หนึ่งที่หลายแบรนด์เลือกใช้คือ การอัดฉีดงบประมาณในส่วนของการทำโฆษณาและการตลาด ทั้งในด้านการตลาดออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงการใช้พรีเซ็นเตอร์ ซึ่งหนึ่งในแบรนด์สมาร์ทโฟนที่มีการทุ่มงบโฆษณาและการตลาดสูงติดอันดับต้นๆ นั้นก็คือแบรนด์ OPPO(ออปโป้)
OPPO(ออปโป้) หนึ่งในแบรนด์สมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่ เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่มีการทำการตลาดมาแล้วทั่วโลกมากกว่า 20 ประเทศ ซึ่งสำหรับตลาดประเทศไทย ถือเป็นประเทศแรกที่ ออปโป้ ได้เลือกที่จะเข้ามาทำตลาด ซึ่งในขณะนี้ คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ไม่รู้จักแบรนด์สมาร์ทโฟนแบรนด์นี้
สำหรับหลักการในการทุ่มงบทางการตลาดของออปโป้ หากมาวิเคราะห์แล้วสามารถแบ่งออกได้ 3 ด้าน
1. การสร้าง Brand Awareness หรือ การสร้างการรับรู้และจดจำแบรนด์
การสร้าง Brand Awareness ให้ประสบผลสำเร็จนั้นสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งหนึ่งในรูปแบบที่ออปโป้สามารถทำได้ดีและโดดเด่นนั่นก็คือ เลือกใช้สื่อประเภท “Out of Home Media” อย่างเช่นป้ายบิลบอร์ดต่างๆ ทั้งบริเวณแยกใหญ่และสนามบิน รวมถึงการโฆษณาบนสถานีรถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT ที่มีการใช้สื่อโฆษณาครอบคลุมในพื้นที่ทั้งสถานีเป็นต้น
นอกจากนี้ กลยุทธ์ในการเลือกใช้พรีเซนเตอร์ก็ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีความน่าสนใจ
ในการช่วยเพิ่ม Brand Awareness โดยออปโป้ ได้มีการเลือกใช้พรีเซนเตอร์ที่หลากหลาย และตรงกับกลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์เพื่อเป็นตัวกลางในการสื่อสารภาพลักษณ์ของแบรนด์ออกไป ยกตัวอย่างเช่น ดาราแถวหน้าของประเทศไทยอย่าง เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข และดาราวัยรุ่นมากฝีมืออย่าง ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร
2. สื่อสารให้เข้าถึงและตรงกลุ่มเป้าหมาย
สำหรับกลยุทธ์ในการสื่อสารกับกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นเป้าหมายหลักของออปโป้ ยังรวมถึงการเป็นผู้สนับสนุนทางการตลาด (Sponsorship Marketing)ในด้านสื่อบันเทิง ด้วยการร่วมสปอนเซอร์ทั้งในรายการวาไรตี้ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เช่น The Mask Singer และ I can see your voice และการสปอนเซอร์ในทีวีซีรีย์อย่างช่อง GMM25 เรื่อง เป็ด Idol, GMM Bravo the Series เป็นต้น อีกทั้งยังมีการสนับสนุนภาพยนตร์ไทยอีกหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น ‘20 ใหม่ ยูเทิร์นวัย หัวใจรีเทิร์น’ และล่าสุดกับภาพยนตร์ไทยฟอร์มยักษ์จาก GDH เรื่อง ‘เพื่อน..ที่ระลึก The Promise’
นอกจากการเป็นผู้สนับสนุนทางการตลาดในสื่อหลัก ๆ แล้ว การสร้างสื่อวิดีโอในออนไลน์ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่โดดเด่น และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างลึกซึ้ง การันตีคุณภาพด้วยการติดอันดับและคว้ารางวัลมากมาย ยกตัวอย่างเช่น ‘ทฤษฎีของความรักที่คุณไม่เคยได้ยิน…’ ที่ได้คว้าอันดับที่ 4 จากรางวัล Youtube Ads Leaderboard ประจำปี 2559, คลิปวิดีโอออนไลน์สุดซึ้งในช่วงสงกรานต์ที่ออปโป้สนับสนุนให้คนไทยกลับบ้านในช่วงเทศกาลมากขึ้น และล่าสุดกับมินิซีรีย์เรื่อง ‘My Secret Friend ปิ๊งรัก..นายอายนะ’ ที่ทั้งสองตอนของหนังได้ติดอันดับที่ 3และ 6 จากรางวัลAsia-Pacific YouTube Ads Leaderboardประจำเดือน กรกฎาคม 2560
httpv://youtu.be/EN3ZRa3okVk
อันดับที่ 3 จากรางวัลAsia-Pacific YouTube Ads Leaderboardประจำเดือน กรกฎาคม 2560
httpv://youtu.be/BPYodD5ku7Y
อันดับที่ 6 จากรางวัลAsia-Pacific YouTube Ads Leaderboardประจำเดือน กรกฎาคม 2560
3. การยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ด้วยหนังโฆษณาที่ดูพรีเมี่ยมมากขึ้น
ล่าสุดกับการยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ขึ้นไปอีกขั้น ด้วยภาพยนตร์โฆษณาที่มี mood & tone แตกต่างไปจากเดิม ทำให้ภาพลักษณ์แบรนด์และสินค้าดูพรีเมี่ยมมากขึ้น ซึ่งเห็นได้จากภาพยนตร์โฆษณาตัวล่าสุดของหนุ่มเจมส์-จิรายุกับ OPPO R9s Black Edition ที่มาพร้อมคอนเซปท์ I’m Back, I’m Black
httpv://youtu.be/4PW-eSWnX_Q
สำหรับการทำการตลาดเพื่อให้ครอบคลุมทั้ง 3 ด้านนี้ จำเป็นต้องมีการทุ่มงบประมาณด้านโฆษณาและการตลาดเป็นจำนวนมาก แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ดีมากๆ เช่นกัน ซึ่งสามารถเห็นได้จากการเติบโตอย่างชัดเจนของ OPPO ในด้านยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดจนสามารถก้าวขึ้นเป็นอันดับที่ 2 ในตลาดไทย
ซึ่งความสำเร็จนี้ ไม่ได้เกิดจากการทุ่มงบประมาณทางการโฆษณาและการตลาดเพียงอย่างเดียว แต่ชี้ให้เห็นว่า การทุ่มงบประมาณเข้าไปในด้านที่ถูกต้อง เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และการวางกลยุทธ์ที่ดีนั้นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด