“โออิชิ” เจ้าตำรับอาหารญี่ปุ่น เดินหน้าสร้างโอกาสในวิกฤต ลุยปั้นแบรนด์ใหม่ เสริมแกร่งพอร์ตฯ กลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่น พร้อมเปิดตัว “โออิชิ บิซโทโระ” (OISHI BIZTORO) ทางเลือกความอร่อยง่าย ๆ สไตล์ญี่ปุ่นโมเดิร์น ตอบโจทย์ลูกค้าเรื่องราคาและความคุ้มค่า ไปจนถึงสถานที่ ที่เข้าถึงง่ายและสะดวกมากขึ้น เช่น สถานีบริการน้ำมัน และ คอมมูนิตี้ มอลล์
นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ โออิชิ เปิดเผยว่า ในช่วงระยะปีสองปีมานี้ สถานการณ์แพร่ระบาด ประกอบกับมาตรการความปลอดภัยต่าง ๆ ที่เข้มข้น ส่งผลให้ผู้บริโภคมีพฤติกรรมและการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม บรรดาผู้ประกอบการจึงต้องมองหาโอกาส เพื่อเร่งเติมเต็มช่องว่างตลาด และปรับโมเดลธุรกิจ กระจายให้ครอบคลุมและหลากหลาย เพื่อตอบโจทย์การกิน – ดื่ม ในทุกรูปแบบ
“ซึ่งในส่วนของ “โออิชิ” เรายังคงเดินหน้าพัฒนาและสร้างสรรค์ประสบการณ์อาหารญี่ปุ่นรูปแบบใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น โดยล่าสุด ลุยปั้นแบรนด์ใหม่ เสริมแกร่งพอร์ตฯ กลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่น และขยายธุรกิจให้กว้างขึ้น พร้อมเปิดตัวร้านอาหารญี่ปุ่น “โออิชิ บิซโทโระ” ภายใต้แนวคิด “ทางเลือกความอร่อยง่าย ๆ สไตล์ญี่ปุ่นโมเดิร์น” สำหรับคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการความสะดวก อร่อย รวดเร็ว ในมื้ออาหาร และที่สำคัญมีเมนูหลากหลายในราคาย่อมเยา สามารถรับประทานได้บ่อย ๆ” นางนงนุช กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับ “โออิชิ บิซโทโระ” นั้นได้รับการพัฒนาให้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นไฮบริด (Hybrid) ที่มีการให้บริการอาหารจานด่วนและร้านอาหารที่ให้บริการแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งหลากหลายด้วยอาหารญี่ปุ่นยอดนิยม และคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยสามารถแบ่งเมนูออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่ (1) กลุ่มเมนูเส้น “ราเมนและโซบะ” (2) กลุ่มเมนูข้าว “ดงบุริ” และ (3) กลุ่มเมนูอาหารว่างและของทานเล่น รวมแล้วหลากหลายกว่า 50 รายการ
กลุ่มเมนูเส้น “ราเมนและโซบะ” เมนูแนะนำ อาทิ ทงคตสึ ชาชู ราเมน, มิโซะ แซลมอน ราเมน, ดาชิ เทมปุระ ราเมน, ทสึเคเมน และ ซารุ ราเมน เป็นต้น ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 89 บาท
กลุ่มเมนูข้าว “ดงบุริ” เมนูแนะนำ อาทิ ข้าวหน้าหมูทงคัตสึ, ข้าวหน้าไก่คาราเกะ และ ข้าวหน้ากุ้งเทมปุระ มาพร้อมซอสหลากหลาย เลือกแมทช์ได้ตามชอบ อาทิ ซอสเทอริยากิ, ซอสทงคัตสึ, ซอสทงคัตสึ – มาโย และ ซอสแกงกะหรี่* เป็นต้น ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 99 บาท
กลุ่มเมนูอาหารว่างและของทานเล่น เมนูแนะนำ อาทิ เกี๊ยวซ่าทอด, ไก่คาราเกะ, ทาโกะยากิ และ กุ้งเทมปุระ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 79 บาท
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มเมนูท็อปปิ้ง ที่เข้ากับทุกเมนูอาหาร ทั้งราเมนและดงบุริ และยังมีหลายชนิด หลายรสชาติ ให้เลือกอีกด้วย
อิ่ม คุ้ม แบบครบชุด ได้ทั้งจานหลัก (ราเมนหรือดงบุริ) จานรอง (ของทานเล่น) และเครื่องดื่ม ในราคาเฉลี่ยต่อมื้ออยู่ที่ 150 – 180 บาท เท่านั้น
ขณะที่รูปแบบการให้บริการนั้นเป็นแบบ เซลฟ์ เซอร์วิส (Self Service) สั่งง่าย ไม่ยุ่งยาก ผ่านขั้นตอน ดังนี้ (1) สั่งอาหารที่เคาน์เตอร์พร้อมชำระเงิน (2) รับเครื่องเรียกรับอาหารไร้สาย จากพนักงานและมานั่งรออาหารที่โต๊ะ (3) เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณจากเครื่องเรียกรับอาหารไร้สาย รับอาหารที่เคาน์เตอร์ พร้อมรับประทาน
ปัจจุบัน “โออิชิ บิซโทโระ” เปิดให้บริการแล้วทั้งในห้างสรรพสินค้า/ศูนย์การค้า ไปจนถึงสถานีบริการน้ำมัน (ปั๊ม) ซึ่งเป็นแหล่งที่มีผู้คนสัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก ดังนี้ (1) โออิชิ บิซโทโระ สาขา เซ็นทรัล อยุธยา – จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (2) โออิชิ บิซโทโระ สาขา เซ็นทรัล ศรีราชา – จังหวัดชลบุรี และ (3) โออิชิ บิซโทโระ สาขา คาลเท็กซ์ งามวงศ์วาน (บจก. รวี เซอร์วิส) – กรุงเทพฯ
พร้อมมีแผนขยายสาขาและพื้นที่ให้บริการเพิ่มเติมไปสู่โครงการ คอมมูนิตี้ มอลล์ (Community Mall) ต่อเนื่องเป็นสาขาที่ 4 ภายในเร็ว ๆ นี้ ได้แก่ โออิชิ บิซโทโระ สาขา สายไหม อเวนิว – กรุงเทพฯ ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการวันแรก วันที่ 12 เมษายน 2565 นี้
“โดยโมเดลใหม่นี้ (โออิชิ บิซโทโระ) จะสามารถตอบโจทย์ความสะดวก ไปพร้อม ๆ กับความอร่อยที่ได้มาตรฐาน ให้กับลูกค้า ที่สำคัญ คือ เข้าถึงง่าย ทั้งราคาและสถานที่ และด้วยร้านในรูปแบบ สมอลล์ ฟอร์แมต (Small Formats) ที่เน้นการส่งมอบความสะดวก จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการขยายสาขา และเติมเต็มช่องว่างตลาดได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น” นางนงนุช กล่าวปิดท้าย