คงไม่ต้องบอกกันอีกแล้วสำหรับความฮิตของ “ชานมไข่มุก” เพราะแทบจะกลายเป็นเครื่องดื่ม Everyday Drink ของพวกเราตั้งแต่ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา สอดคล้องกับการเติบโตของตลาดโลก ซึ่งมีมูลค่าถึง 62,000 ล้านบาทตั้งแต่ปี 2016 และขยับเป็น 76,900 ล้านบาทเมื่อปี 2019 ทั้งยังมีคาดการณ์ว่าปี 2023 ตลาดชานมไข่มุกจะเติบโตจนแตะ 100,000 ล้านบาทเลยทีเดียว
หากเทียบความนิยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องบอกว่า “ประเทศไทยเป็นเจ้าตลาด” โดยดื่มเฉลี่ย 6 แก้วต่อเดือน (สถิติปี 2019) มากกว่าฟิลิปปินส์ที่ดื่ม 5 แก้วต่อเดือน หรือมาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย ที่ดื่ม 3 แก้วต่อเดือน
(อ้างอิงข้อมูล : https://www.marketingoops.com/news/the-alley-thailand/)
ข้อจำกัดเยอะ! ทำ “ชานมไข่มุก” เสียโอกาส
แม้ว่าจำนวนหน้าร้านชานมไข่มุกจะขยายตัวอย่างมาก และอาจมีจำนวนถึง 4,000 สาขา แต่ต้องยอมรับว่าเมนูนี้มี “ข้อจำกัด” อยู่ไม่น้อย อาทิ…
- การทำตลาดของแบรนด์ดังยังคงเลือกพื้นที่ มีสาขาเฉพาะหัวเมืองใหญ่
- หากต้องการดื่มแบบขวด แบรนด์ที่ทำตลาดมักเน้นขายออนไลน์ ส่งผลให้มีต้นทุนการจัดส่งเพิ่มขึ้นราคาขายสูงตามไปด้วย ทั้งยังต้องรอคิวส่งสินค้า
- ความนิยมทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้นจากจำนวนผู้ขายที่ต้องการเข้ามาชิงโอกาส แต่ก็ทำให้มีปัญหาอื่น เช่น ความสดใหม่ สะอาด หรือแม้แต่มาตรฐาน อย. เข้ามาเป็นปัจจัยลดโอกาสทางธุรกิจ และส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกจากผู้บริโภคด้วย
- อายุการจัดเก็บสินค้าสั้น ไม่สามารถเก็บหรือสต็อกเป็นจำนวนมาก ๆ ได้
ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับธุรกิจชานมไข่มุก ทำให้แบรนด์ส่วนใหญ่เลือกลงทุนโดยยึดติดกับ “พื้นที่ขาย” ซึ่งเน้นทำเลห้างสรรพสินค้า สถานที่คนพลุกพล่าน จุดเดินทาง เป็นต้น แต่ถึงบางแบรนด์จะเห็นมุมมองดังกล่าวเป็นข้อจำกัดทางธุรกิจ แต่ “Ochasan” (โอฉะซัง) แบรนด์น้องใหม่ กลับมองเป็นความท้าทาย และเปิดตัวโปรดักส์แรกด้วย “ชานมไข่มุกกระป๋อง” ที่มาพร้อมกับ “ความพรีเมี่ยม” แต่เข้าถึงง่าย หาซื้อสะดวก พร้อมดื่มทุกที่ทุกเวลา
ใช้ความแตกต่าง…ไอเดีย “รักสุขภาพ – รักษ์โลก” แจ้งเกิดใน Red Ocean
นอกจาก “ความท้าทาย” ที่ Ochasan ต้องแข่งขันกับแบรนด์อื่นใน Red Ocean ของธุรกิจชานมไข่มุกแล้ว แบรนด์ยังต้องสร้างภาพลักษณ์ให้ชัดเจนภายใต้ความพรีเมี่ยมที่ต้องการสื่อสารกับผู้บริโภค และสร้างการจดจำเพื่อเป็นตัวเลือกในฐานะชานมไข่มุกพร้อมดื่มแบบกระป๋อง ด้วยกลยุทธ์ด้าน “วัตถุดิบ” ที่สำคัญ 3 ประการ คือ “วัตถุดิบพรีเมี่ยม – นมนำเข้า – เม็ดไข่มุกจากญี่ปุ่น” และกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ด้วยภาพ “ชานมไข่มุกที่ไม่ทำร้ายสุขภาพ”
วัตถุดิบพรีเมี่ยม : ประเด็นนี้ Ochasan ตอบโจทย์ด้วยวัตถุดิบนำเข้าจากแหล่งวัตถุดิบชื่อดัง เช่น ใบชา ที่คัดสรรเฉพาะใบชาคุณภาพสูง
นมนำเข้า : ใช้ชื่อเสียงผู้ผลิตนมอย่างประเทศนิวซีแลนด์ เป็นเครื่องการันตีว่าส่วนผสมของชานมไข่มุกพรีเมี่ยมแบบ Ochasan นั้นมีมาตรฐานและได้การยอมรับ จากแหล่งวัตถุดิบอันดับต้น ๆ ของโลก
เม็ดไข่มุกจากญี่ปุ่น : ถือเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์คุณภาพตามแบบฉบับขนมญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความเอาใจใส่และความอร่อย รวมถึงการเป็นเม็ดไข่มุกขนาดเล็กกว่าปกติแต่ยังคงเอกลักษณ์ของไข่มุกเอาไว้ได้ครบรสชาติ
ชานมไข่มุกที่ไม่ทำร้ายสุขภาพ : เป็นจุดเด่นที่ Ochasan หยิบขึ้นมาสร้างความแตกต่างและเรียกคะแนนจากกลุ่มคนรักสุขภาพ กับการเป็นชานมที่ปราศจากครีมเทียมและไขมันทรานส์ กับไอเดีย Low Fat ชานมไข่มุกไขมันต่ำแต่ยังให้รสชาติชานมแท้ ๆ, Low Sodium ลดปริมาณการรับโซเดียมเกินความต้องการของร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลต่อโรคบางโรค หรือผิวพรรณได้
Lower in Sugar โดยมีทั้งสูตรออริจินัล ที่น้ำตาลเพียง 13 กรัม ซึ่งน้อยกว่าชาทั่วไปในตลาดที่มักจะมีปริมาณน้ำตาลเฉลี่ยสูงกว่า 40 กรัมต่อแก้ว และสูตรน้ำตาลน้อยลง ที่มีน้ำตาลแค่ 9 กรัม จึงให้พลังงานต่ำกว่าชานมทั่วไป
ขณะเดียวกัน Ochasan ยังนำเสนอความแตกต่างในการเป็น “ชานมไข่มุกในแบบที่ดีกว่า” ด้วยการลดใช้แก้วพลาสติก เป็นบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลใหม่ได้ 100% เพราะใช้กระป๋องอลูมิเนียม ถือเป็นการช่วยรักษ์โลกได้อีกรูปแบบ
แนวคิดลักษณะนี้ ต้องยอมรับว่าแบรนด์ “ตีโจทย์” และ “ตอบโจทย์” ได้ครอบคลุม ทั้งประเด็นความพรีเมี่ยมของโปรดักส์จากการเลือกใช้วัตถุดิบ และการสร้างความโดดเด่นในการเป็นชานมไข่มุกรูปแบบกระป๋อง ทำให้ผู้บริโภคสามารถมีเครื่องดื่มที่ชื่นชอบ พร้อมดื่มทุกเวลา รวมถึงการเป็นเครื่องดื่มอินเทรนด์ที่สามารถลดความกังวลของผู้ที่เป็นห่วงสุขภาพ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการบริโภคชานมไข่มุกว่าเป็นเมนูไม่ทำร้ายสุขภาพ
เปิดตัวพร้อม “9.9” สร้างการรับรู้ผ่านมหกรรมช้อป
ช่องทางการเปิดตัวและจำหน่ายครั้งแรกนั้น แบรนด์ Ochasan เลือกสร้างการรับรู้ต่อตลาดและผู้บริโภคผ่านมหกรรมใหญ่ของการช้อปออนไลน์ ในวันที่ 9 เดือน 9 โดยใช้โอกาสจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่คนไทยให้ความนิยมอย่าง Shopee โดยแจกให้ชิมฟรีออเดอร์ละ 1 กระป๋อง สำหรับผู้ที่สั่งซื้อสินค้าภายใน 20,000 ออเดอร์แรก เปิดให้ผู้สนใจได้ซื้อปลีกผ่านทาง Shopee Supermarket และซื้อยกลังผ่านร้านค้าของแบรนด์ Ochasan Official บน Shopee ได้เช่นกัน นอกจากนี้ แบรนด์ยังเปิดช่องทางโซเชียลมีเดียเพื่อทำตลาดและสื่อสารกับผู้บริโภค ผ่าน Facebook , Instagram และ Twitter อีกด้วย
แต่ไม่ใช่แค่การทำตลาดและสร้างแบรนด์บนโลกออนไลน์ เพราะกลยุทธ์การจัดจำหน่ายและขยายตลาดของชานมไข่มุก Ochasan ได้วางแผนการทำตลาดออฟไลน์ไว้อย่างแข็งแกร่ง ทั้งการขายผ่านห้างสรรพสินค้า และร้านค้าทั่วไป รวมถึงขยายไปยังต่างประเทศที่นิยมและชื่นชอบการดื่มชานมไข่มุกอย่างสิงคโปร์ ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ลาว และพม่า ในอนาคตอันใกล้