OCEAN LIFE ไทยสมุทร ครบรอบ 70 ปี ปรับทัพก้าวสู่ “Digital Transformation” อย่างเต็มรูปแบบ สร้างความผูกพัน Brand Love โดยตรงกับลูกค้า

  • 373
  •  
  •  
  •  
  •  

การดำรงอยู่ของแบรนด์ได้อย่างยั่งยืน ไม่ได้วัดกันแค่การเติบโตด้านยอดขาย หรือผลกำไรเท่านั้น หากยังต้องพิจารณาด้วยว่าแบรนด์นั้น ได้สร้าง “ความหมาย” ต่อผู้คนในสังคมอย่างไร และเป็น “แบรนด์ที่ผู้บริโภครัก” หรือไม่ ?!?

แต่การที่แบรนด์ๆ หนึ่งจะเป็น Meaningful Brand และเป็น Brand Love สำหรับผู้บริโภค นั่นหมายความว่าแบรนด์นั้น ต้องมี Purpose Driven คือ การขับเคลื่อนองค์กร – แบรนด์ ด้วยการกำหนดเจตนารมณ์ หรือเป้าประสงค์ชัดเจนว่าจะสร้างประโยชน์ – สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริโภคในด้านไหน อย่างไร เพื่อให้แบรนด์ กลายเป็นส่วนหนึ่งใน “ชีวิตประจำวัน” ของผู้คน

เหมือนเช่นกรณีศึกษา OCEAN LIFE ไทยสมุทร” ที่มี Purpose เป็นหลักประกันความคุ้มครองชีวิตให้กับคนไทยมายาวนาน 70 ปี และความท้าทายใหญ่นับจากนี้ คือ เตรียมความพร้อมก้าวสู่การเป็น Digital Insurer ด้วยการนำนวัตกรรม และเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ เพื่อทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ และบริการด้านประกัน ได้สะดวก และง่ายขึ้น

3 ปฏิบัติการภารกิจใหญ่ ขับเคลื่อน “OCEAN LIFE ไทยสมุทร” เปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัล Digital Transformation

ในโอกาสครบรอบ 70 ปีของการดำเนินธุรกิจ OCEAN LIFE ไทยสมุทร” ได้ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ใน 3 ภารกิจใหญ่ คือ

  1. เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุด “THE GIFT” ที่ได้ “มาริโอ้ เมาเร่อ” เป็น Brand Ambassador คนแรกของแบรนด์มาใช้ต่อเนื่องในปีที่ 2 พร้อมเผยโฉม Brand Mascot “โอชิ”

เหตุผลสำคัญที่เลือก “มาริโอ้ เมาเร่อ” มาเป็น Brand Ambassador คนแรกอย่างต่อเนื่องในปีที่ 2 และครั้งนี้มาพร้อม Brand Mascot “โอชิ” เพื่อปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดูทันสมัย เข้าถึงคนรุ่นใหม่มากขึ้น ขณะเดียวกันเป็นการสะท้อนบุคลิกแบรนด์ และเพื่อสื่อสารข้อมูลสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ลูกค้าจะได้รับ ทำให้แบรนด์ และ message ที่ต้องการสื่อออกไป ดึงความสนใจผู้บริโภค โดยเฉพาะเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ง่ายขึ้น

  1. พัฒนาแอปพลิเคชัน “OCEAN CLUB” มีฟีเจอร์ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เข้าถึงคนยุคดิจิทัล Mobile First

Mobile Application ดังกล่าว ดาวน์โหลดได้ทั้ง iOS และ Android ครอบคลุมทั้งบริการหลังการขายสำหรับลูกค้า และหนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าสนใจของแอปฯ OCEAN CLUB คือ ให้สมาชิกสะสม OCHI COIN ด้วยวิธีการง่ายๆ ที่สามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน เพียงแค่นอนให้เพียงพอ หรือออกกำลังกายด้วยการเดิน วิ่ง หรือขี่จักรยาน

จากนั้นนำ OCHI COIN ที่สะสมไว้ แลกรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้งช้อป ชิม ชิล จากเครือข่ายพันธมิตรกว่า 160 ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ หรือแลกรับ “นวัตกรรมการดูแลชีวิต” ซึ่งมีทั้งบริการ OCEAN LIFE SAVER บริการข้อมูลช่วยเหลือฉุกเฉิน ง่ายๆ แค่สแกน QR Code , บริการ Best Doctors  บริการความเห็นที่สองจากแพทย์ระดับโลก  เพื่อให้คนไทยเข้าถึงการบริการ การดูแลชีวิตที่ให้ความมั่นใจด้านสุขภาพว่ามีที่ปรึกษาพร้อมให้ข้อมูลช่วยเหลือในยามที่คุณหรือคนในครอบครัวป่วยไข้ ยกระดับการดูแลชีวิตด้วยใจ เข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง

นอกจากได้สิทธิประโยชน์ ทั้งด้านไลฟ์สไตล์ และด้านสุขภาพแล้ว สมาชิกของ OCEAN CLUB ยังสามารถใช้ OCHI COIN แลกบริจาคช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ ให้กับโรงพยาบาล หรือองค์กรการกุศลต่างๆ เช่น กองทุนภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็งจุฬาฯ

  1. แทนคำขอบคุณลูกค้า ด้วยการจัดแคมเปญ 70 ปี OCEAN LIFE ไทยสมุทร โปรโมชั่นลุ้นโชค 2 ชั้น มูลค่ารวมกว่า 2.5 ล้านบาท สำหรับลูกค้าที่ซื้อประกันกับ OCEAN LIFE ไทยสมุทรในปีครบรอบ 70 ปี ตามแบบประกันที่บริษัทกำหนด และชำระเบี้ยประกันภัยปีแรก หรืองวดแรกทุกๆ 10,000 บาทขึ้นไปต่อกรมธรรม์ และลงทะเบียนผ่าน OCEAN Club App ตั้งแต่วันนี้ – 30 ธันวาคมนี้ ก็สามารถร่วมสนุก

โชคชั้นที่ 1 รับสิทธิ์ลุ้นทองคำหนัก 1 สลึง จำนวน 280 รางวัล น้ำหนักรวม 70 บาท และ โชคชั้นที่ 2 ลุ้นรางวัลใหญ่ รถยนต์ Toyota Yaris ATIV จำนวน 2 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 800,000 บาท และรถจักรยานยนต์ Honda Click 125i จำนวน 5 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 200,000 บาท มูลค่ารวมทั้งสิ้น 2.5 ล้านบาท

เจาะลึก 4 เหตุผล “OCEAN LIFE ไทยสมุทร” ยกระดับสู่การเป็น “Digital Insurer” เต็มรูปแบบ !!

จาก 3 ปฏิบัติการใหญ่ของ OCEAN LIFE ไทยสมุทร” ตามที่กล่าวมาข้างต้นนั้น วัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อขับเคลื่อนองค์กร และแบรนด์ก้าวสู่การเป็น Digital Insurer หรือการทำให้ประกันชีวิตเป็นเรื่องง่ายอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเดินหน้ามุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตชั้นนำ ที่ใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยี ช่วยให้ประกันชีวิตสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับคนไทย

เหตุผลสำคัญที่ “OCEAN LIFE ไทยสมุทร” ปรับยุทธศาสตร์ขยับเป็น “Digital Insurer” มาจากปัจจัยสำคัญ ได้แก่

  1. ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคดิจิทัล ที่ทุกวันนี้เป็น “Connected Consumer นั่นคือ ชีวิตประจำวันเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เกือบตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน และทุกสิ่งทุกอย่างอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ หรือที่เรียกว่า Mobile First กลายเป็น “สิ่งจำเป็น” ที่ขาดไม่ได้ไปแล้ว

การพัฒนาแอปพลิเคชัน “OCEAN CLUB” จึงเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มหลักในการเป็น Touch Point เชื่อมต่อกับผู้บริโภคได้ครอบคลุมมากขึ้น

  1. ขยายฐานลูกค้า เจาะกลุ่ม “Gen Y” มากขึ้น เนื่องจากประชากรกลุ่มนี้ในประเทศไทย ถือเป็นผู้บริโภคฐานใหญ่ มีสัดส่วนราว 1 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ

ด้วยความที่เป็นผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ ประกอบกับคุณลักษณะของคน Gen Y ใช้เทคโนโลยีอยู่ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว อีกทั้งการพิจารณา – ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า หรือบริการใดก็ตาม อยู่บนพื้นฐานของการศึกษา “ข้อมูล” ก่อนเสมอ โดยเฉพาะสินค้าที่เป็น High Involvement ซึ่งแหล่งข้อมูลสำคัญ มีทั้งคนรอบตัว และบนออนไลน์ ขณะเดียวกัน ชอบที่จะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ต้องการความสะดวก รวดเร็ว ทันทีทันใด ไม่ชอบความยุ่งยาก – ซับซ้อน

จะสังเกตได้ว่า การทำกิจกรรมใดๆ ในชีวิตประจำวัน หรือการทำธุรกรรมทางการเงิน ถ้าเป็นเรื่องพื้นฐานทั่วไป หรือเป็นสิ่งที่คุ้นเคยอยู่แล้ว ผู้บริโภคกลุ่มนี้ ชอบที่จะทำด้วยตัวเองมากกว่า

ดังนั้น การพัฒนา OCEAN CLUB Application ควบคู่กับช่องทางดิจิทัลต่างๆ ทั้งเว็บไซต์ และสื่อสังคมออนไลน์ (Facebook / Instagram / YouTube  / LINE : @oceanlife) ไม่เพียงแต่เป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการต่อภาพการเป็น Digital Insurer ที่สมบูรณ์เท่านั้น ในเวลาเดียวกันยังทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มสื่อกลางในการเข้าถึงกลุ่ม Gen Y ซึ่งเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ ที่มีศักยภาพต่อการเติบโตของแบรนด์ทั้งในวันนี้ และในอนาคต

นั่นเพราะ Gen Y เป็นกลุ่มคนวัยเริ่มทำงาน ถึงวัยกลางคน ผู้บริโภคกลุ่มนี้ เริ่มมองหาหลักประกันความมั่นคงในชีวิตให้กับตัวเอง ซึ่งปัจจุบันอัตราการถือครองกรมธรรม์ประกันชีวิตของคนไทย อยู่ที่กว่า 30% ของจำนวนประชากรไทยทั้งประเทศเท่านั้น ยังมี “โอกาส” อีกมหาศาล

หาก “OCEAN LIFE ไทยสมุทร” สามารถทำให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้กลายเป็นฐานลูกค้าได้สำเร็จ จะทำให้ต่อไปแบรนด์สามารถนำเสนอแบบประกันที่ตอบโจทย์ทั้ง “Lifestyle” และ “Life Stage” คือ การเข้าไปอยู่ในทุกช่วงอายุของผู้บริโภคคนๆ หนึ่ง ตั้งแต่วัยเริ่มต้นทำงาน ไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ มีครอบครัว และเข้าสู่ช่วงสูงวัยได้อย่างครบลูป

  1. สร้าง Brand Engagement ต่อยอดสู่ “Brand Love” คุณค่าที่มากกว่าความภักดีต่อแบรนด์

เป็นที่ทราบกันดีว่าการทำธุรกิจในยุคนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะผู้บริโภคมีทางเลือกมากมาย และมี Demanding สูง ผู้บริโภคจึงพร้อม “เปลี่ยนใจ” ได้เสมอ ส่งผลให้ความภักดีต่อแบรนด์ลดลง

อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์สำคัญที่จะทำให้แบรนด์ “ครองใจ” ผู้บริโภค อยู่ที่การสร้างความผูกพันระหว่างแบรนด์ กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย (Brand Engagement) นับตั้งแต่วันที่ยังไม่ได้มาเป็นลูกค้า ด้วยการทำให้รู้จัก – คุ้นเคย และเกิดบทสนทนากัน ผ่านช่องทางสื่อสารต่างๆ ทั้งโฆษณา และกิจกรรมการตลาด รวมถึงช่องทางดิจิทัลทั้งหลาย สามารถสร้าง Interact ได้ถึงกัน กระทั่งขยับไปสู่การเป็น “ลูกค้า”

จากความผูกพันที่เกิดขึ้น กลายมาเป็นลูกค้า เมื่อแบรนด์สามารถสร้าง “ประสบการณ์ที่ดี” ให้กับลูกค้าได้ เมื่อนั้น จะทำให้เกิด “Brand Love” ซึ่ง Brand Love นี่เอง ย่อมตามมาด้วยการเป็นฐานลูกค้าระยะยาว และเกิด Brand Advocacy คือ ลูกค้า จะเป็นทั้งผู้สนับสนุน คอยบอกกล่าวเรื่องราวต่างๆ ของแบรนด์ หรือผลิตภัณฑ์ บริการไปยังเพื่อน หรือคนรอบตัวเขาให้อย่างเต็มใจ ทั้งยังทำหน้าที่คอยปกป้องแบรนด์

เพราะฉะนั้นการที่ OCEAN LIFE ไทยสมุทร” สื่อสารการตลาดครั้งใหญ่ ด้วยการใช้ Brand Ambassador และ Brand Mascot เพื่อสร้างการรับรู้ และคุ้นเคยให้กับผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ก่อนนำพาไปสู่การสร้าง Brand Engagement บนช่องทางดิจิทัล ทั้งแอปพลิเคชัน, เว็บไซต์ และสื่อสังคมออนไลน์ของแบรนด์

เพื่อในที่สุดแล้ว จะมุ่งไปสู่การทำให้ผู้บริโภครู้สึก “รัก” ในแบรนด์ “OCEAN LIFE ไทยสมุทร” และเป็น Top of mind brand เวลาที่อยากซื้อกรมธรรม์

  1. ต่อยอด “Big Data” สู่การนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการในรูปแบบ “Personalization

การตลาดยุคดิจิทัล ต้อง Focus และ Personalization เพราะเมื่อผู้บริโภคมีไลฟ์สไตล์ซับซ้อน แตกต่างกัน และมี Demanding สูง การตลาดที่จะ “ชนะใจ” ผู้บริโภคได้สำเร็จ ต้องสามารถ Customize หรือ Personalize ผลิตภัณฑ์ และบริการให้ “ตรงใจ” กับที่ต้องการพอดี

แต่การจะนำเสนอแบบ Personalization ได้ หัวใจสำคัญอยู่ที่ Big Data” ซึ่งเวลานี้เป็นทรัพย์สินอันมีค่าขององค์กรต่างๆ เพราะใครมี Big Data มาก และสามารถวิเคราะห์ – ตีความออกมาได้ เพื่อคาดการณ์เทรนด์ และความต้องการของผู้บริโภคได้ ย่อมมีความได้เปรียบทางการแข่งขัน

ดังนั้น หนทางที่จะได้ Big Data จึงต้องมาจากหลากหลายช่องทาง ตั้งแต่จากพนักงานที่ได้รับ Feedback ลูกค้า หรือผู้บริโภคทั่วไปสอบถามข้อมูล ไปจนถึงช่องทางดิจิทัลทั้งหลาย

การพัฒนาแพลตฟอร์ม “OCEAN CLUB Application” รวมถึงช่องทางเว็บไซต์ และสื่อสังคมออนไลน์ จะเป็นช่องทางสำคัญที่ทำให้ได้ฐานข้อมูลลูกค้า เพื่อนำไปวิเคราะห์ ค้นหาความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภค พัฒนาเป็นแบบประกัน และบริการที่เข้าใจผู้บริโภคแต่ละ segment – แต่ละไลฟ์สไตล์ พร้อมทั้งนำเสนอสิทธิประโยชน์ได้แบบเฉพาะบุคคล

การใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยี มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการให้บริการ ย่อมทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ด้านแบรนด์ และการใช้บริการแบบไร้รอยต่อ (Seamless Customer Experience) จากการได้รับความสะดวก และเข้าถึงบริการง่ายขึ้น เพื่อให้คนไทยเข้าถึงความคุ้มครองที่คุ้มค่า และสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว สร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิต โดยมี “OCEAN LIFE ไทยสมุทร รักคือพลังของชีวิต พร้อมยกระดับการบริการ การดูแลชีวิตที่สร้างคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ตอบโจทย์คนไทยทุกยุคทุกสมัยไปอีกหลายทศวรรษ


  • 373
  •  
  •  
  •  
  •