ในอดีตหลายคนคงเคยได้ยินชื่อบริษัท ทีโอที (TOT) และจะมีบริษัทพี่น้องอย่าง กสท.โทรคมนาคม (CAT Telecom) ซึ่งทั้ง 2 องค์กรล้วนเป็นรัฐวิสาหกิจ โดยแบ่งออกเป็นการสื่อสารภายในประเทศเป็นหน้าที่ของ TOT และการสื่อสารระหว่างประเทศเป็นหน้าที่ของ CAT Telecom แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การให้บริการของทั้ง 2 องค์กรเกิดความซ้ำซ้อน
เพื่อให้การดำเนินงานของทั้ง 2 องค์กรสามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็วและแข่งขันกับธุรกิจเอกชนได้ จึงเกิดการรวมตัวของทั้ง 2 บริษัทจนเกิดเป็น บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT (National Telecom Public Company Limited) การควบรวมครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการ เพื่อสร้างความความสะดวก และสร้างประสบการณ์ด้านคุณภาพการใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญยังมีหน้าที่ในการพัฒนาระบบเครือข่ายเพื่อสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย
NT ผู้ให้บริการเครือข่ายทั่วไทย
หากพูดถึงผู้ให้บริการเครือข่ายในประเทศไทย ที่ให้สัญญาณแรง เต็ม ชัดทั่วประเทศไทย คงต้องยกให้ NT อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า NT คือการรวมของบริษัทด้านโทรคมนาคม ย่อมหมายถึงการนำข้อดีของทั้ง 2 บริษัท ทั้งจุดแข็งในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่ายทั่วประเทศไทยจาก TOT และการพัฒนาโครงข่ายข้อมูลที่รวดเร็วและสามารถส่งได้ปริมาณมากจาก CAT
ส่งผลให้การให้บริการของ NT นอกจากจะให้บริการได้ครอบคลุมทั่วประเทศไทยแล้วยังสามารถให้บริการส่งผ่านข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูงผ่านเกตเวย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ช่วยให้สามารถตอบสนองความต้องการด้านดิจิทัลได้ครอบคลุมทุกความต้องการ และด้วยฐานข้อมูลขนาดใหญ่ช่วยให้ NT สามารถเข้าถึงและสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของทั้งผู้บริโภคและภาคธุรกิจ
ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการผ่านเครือข่ายคลื่นความถี่ที่ NT มีครบทุกคลื่นที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ทั้ง Low-Band, Mid-Band และ Hi-Band หรือบริการผ่านอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในรูปแบบ Fttx ที่ให้ความเร็วในการใช้งานอินเตอร์เน็ตได้สูงสุดทั่วประเทศไทย รวมถึงการให้บริการสื่อสารภายในองค์กรผ่านโทรศัพท์พื้นฐานที่สะดวกรวดเร็ว โดดเด่นในด้านความปลอดภัยขั้นสูง ช่วยลดต้นทุนให้กับธุรกิจ
ส่งกลยุทธ์บริการด้วยตัวเอง 24 ชั่วโมง
โดยหนึ่งในกลยุทธ์ที่ NT เลือกใช้เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งาน คือ การให้บริการแบบ e-Service หรือบริการผู้ช่วยส่วนตัวที่สามารถทำได้ดำเนินการได้ด้วยตัวเองผ่านระบบออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นการ สมัครใช้บริการอินเทอร์เน็ตบ้าน เช็กค่าใช้บริการด้วยตัวเอง ตรวจสอบบิลย้อนหลัง ชำระด่วน (NT Quick Pay) ขอสำเนาใบเสร็จรับเงิน / ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax / e-Receipt) หรือ เปลี่ยนโปรโมชั่นและสมัครแพ็กเกจ
เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้บริการ โดยเฉพาะการชำระค่าบริการต่างๆ ที่เรียกได้ว่า สามารถชำระได้ฟรีไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านบัตรเครดิต ทั้งบัตร Visa และ MasterCard ได้ทุกธนาคาร หรือบัตรเดบิต โดยสามารถรองรับการชำระผ่าน 4 ธนาคารหลัก ทั้ง ธนาคารกรุงไทย (KTB), ธนาคารกสิกรไทย (KBANK), ธนาคารกรุงเทพ (BBL) และ ธนาคาร UOB รวมถึงสามารถหักบัญชีธนาคารออนไลน์ (Internet Banking) สามารถชำระได้ 3 ธนาคาร คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) และ ธนาคาร UOB
สร้างความมั่นใจด้วยระบบความปลอดภัย
นอกจากความสะดวกสบายแล้ว ยังเสริมความปลออดภัยโดยผู้ที่ต้องการใช้บริการ NT eService ต้องมีการลงทะเบียนผู้ใช้ด้วยการสมัครเป็นสมาชิกของระบบก่อน โดยกรอกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนและใช้อีเมลในการ Log in เข้าสู่ระบบ
ปัจจุบัน NT ช่วยอำนวยความสะดวกด้วยการ Login ผ่านรหัส OTP จากมือถือที่ลงทะเบียนไว้เพียง 2 ขั้นตอนเท่านั้น ที่ช่วยให้ง่ายขึ้น สะดวกยิ่งขึ้น แต่ยังคงปลอดภัยเป็นหนึ่งในรูปแบบความปลอดภัยที่ NT eService ส่งมอบบริการมาให้กับผู้ใช้งาน เพื่อมอบความปลอดภัยและความมั่นใจในการใช้งานบริการผ่านรูปแบบดิจิทัล
สะดวกทุกการชำระแบบรวดเร็ว
ที่สำคัญยังสามารถชำระค่าใช้บริการของผู้อื่นได้ ด้วยการ Login เข้าสู่ระบบ แล้วไปที่เมนูเพิ่ม/ลบ เพื่อเพิ่มหมายเลขโทรศัพท์ที่ต้องการชำระ และเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน สามารถชำระค่าบริการได้ง่ายๆ สะดวกสบาย โดยที่ไม่ต้องเดินทางออกจากบ้าน
ผ่านบริการ NT Quick Pay ที่สามารถชำระค่าบริการได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องสมัครสมาชิก แค่ใส่หมายเลขบริการที่ต้องการชำระ แล้วยืนยันตัวตนผ่านหมายเลขโทรศัพท์ จากนั้นเลือกวิธีการชำระ เท่านี้ก็สามารถจ่ายบิลได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็จ่ายบิลได้ง่ายๆ รวมไปถึงยังมีระบบตรวจสอบค่าใช้บริการย้อนหลังได้ถึง 6 เดือนหรือ 6 งวดค้างชำระ
เดินหน้าสู่ยุค Paperless
เรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นอีกเรื่องที่ NT ให้ความสำคัญ และเป็นหนึ่งในพันธกิจที่ NT ดำเนินธุรกิจในด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดย NT eService ยังมีบริการแจ้งค่าบริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Bill ผ่านทางอีเมล์ รวมถึงสามารถตรวจสอบยอดค่าใช้จ่ายในแต่ละรอบบิลได้
ไม่เพียงแค่ให้บริการแบบลูกค้าทั่วไปเท่านั้น แต่ NT eService ยังสามารถรับชำระค่าบริการให้กับนิติบุคคลที่มีภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางฝ่าการจราจรไปที่ศูนย์บริการ หมดปัญหาความกังวลใจกับการชำระเงินในรูปแบบต่างๆ
เรียกว่าเป็นหนึ่งกลยุทธ์ที่ช่วยให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกสบายบนความปลอดภัย เป็นการชี้ให้เห็นถึงบริษัทที่ส่งเสริมการใช้นวัตกรรมเพื่อให้บริการลูกค้าที่ดีที่สุด รวมถึงการเป็นบริษัทที่พร้อมปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต