นอกจากนักท่องเที่ยวและนานาชาติจะรู้จัก ประเทศไทย ในฐานะปลายทางในฝันแห่งการท่องเที่ยว แต่ความโด่งดังของอาหาร ผลไม้วัตถุดิบ หรือหลาย ๆ ธุรกิจ ก็สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่วัตถุดิบที่ต้องมีติดครัวอย่าง กระเทียมซึ่งนอกจากจะเป็นอีกหนึ่งพืชเศรษฐกิจของไทยแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์จากกระเทียมที่ทำให้กลุ่มคนรักสุขภาพในต่างประเทศ ได้รู้จักกับแบรนด์ไทยและประเทศไทยมากขึ้นอีกด้วย โดยเฉพาะชื่อของ Nopphada Group ผู้ประกอบการที่ส่งเสริมและยกระดับให้วัตถุดิบคู่ครัวเรือนไทยได้มีมูลค่ามากขึ้น เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรไทย และแปลงภาพกระเทียมไทยให้กลายเป็นนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ
‘Nopphada Group’ ผู้อยู่เบื้องหลังการยกระดับ ‘กระเทียมไทย’
ต้องเกริ่นถึงประวัติของ Nopphada Group (นพดา กรุ๊ป) เล็กน้อย หลังจากก่อตั้งเมื่อปี 2559 ประกอบด้วยNopphada Product, Nopphada Trading, Nopphada Seasoning และ NCR Product เป็นบริษัทในเครือ ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกระเทียม ได้แก่ กระเทียมสด กระเทียมอบแห้ง กระเทียมเม็ด กระเทียมผง ในรูปแบบ B2B และปัจจุบันยังผลิตและจำหน่ายกระเทียมดำภายใต้แบรนด์ B-Garlic ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่กำลังได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ
แต่หากย้อนเวลาให้ลึกลงไปกว่านั้น Nopphada Group เริ่มต้นจาก คุณนพดา อธิกากัมพู ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ซึ่งได้สานต่อกิจการค้ากระเทียมสดจากรุ่นปู่และรุ่นพ่อ หลังพบว่าการเปิดการค้าเสรีทำให้กระเทียมจากต่างประเทศทะลักเข้ามาในไทยเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ราคากระเทียมไทยรวมถึงเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมได้รับผลกระทบอย่างมาก คุณนพดา จึงคิดค้นวิธีเพิ่มมูลค่ากระเทียมไทยและต่อยอดสู่นวัตกรรมแปรรูปกระเทียมดำ เพิ่มมูลค่าให้กับกระเทียมไทยและช่วยเหลือเกษตรกรให้ผ่านพ้นวิกฤตที่เกิดขึ้น
ส่วนการค้นพบกระเทียมดำนั้น เกิดขึ้นจากการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น โดยพบว่ากระเทียมดำเป็นอาหารนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยดูแลสุขภาพจากการคิดค้นของนักวิทยาศาสตร์ชาวเอเชีย และมีการบริโภคกันอย่างแพร่หลายในประเทศญี่ปุ่น เกาหลี จีน จึงได้เริ่มค้นคว้าวิธีการผลิตร่วมกับคณะเกษตรศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP) และหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ จนได้วิธีการผลิตที่เหมาะสมกับกระเทียมไทย โดยทาง Nopphada Product มีกรรมวิธีการผลิตและเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับกระเทียมดำ B-Garlic ด้วยการควบคุมอุณหภูมิความร้อนและความชื้นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม จนทำให้กระเทียมดำมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ ทั้งยังทำให้ Nopphada Group เป็นโรงงานผลิตกระเทียมดำในประเทศไทยโรงงานแรก ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิต GMP, HACCP, HALAL และ อย.
‘กินอาหารให้เป็นยา’ พันธกิจที่กลายเป็น DNA องค์กร
ภายใต้วิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำนวัตกรรมอาหารเพื่อสุขภาพ Nopphada Group ยังมีแนวคิดในการส่งเสริมให้ผู้บริโภค กินอาหารให้เป็นยา ด้วยสินค้าที่มีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย และได้มาตรฐาน ภายใต้การบริหารจัดการและดำเนินงานตามหลักบรรษัทภิบาล พัฒนาธุรกิจที่ไม่สร้างของเสียต่อสิ่งแวดล้อมเน้นใช้ประโยชน์สูงสุดของทรัพยากรทุกชนิด พร้อมกับความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคม
ไม่เพียงเท่านั้น คุณนพดายังได้ร่วมมือกับทีมนักวิจัยและอาจารย์มหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย ในการคิดค้นและพัฒนาสินค้าเกษตรแปรรูปอย่างต่อเนื่อง ทำให้แบรนด์ B-Garlic สามารถทำตลาดได้อย่างแข็งแกร่ง รวมไปถึงเป็นที่ต้องการและสนใจของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศเป็นอย่างมาก พร้อมกันนั้นยังได้มีการต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง จนเกิดแบรนด์น้องใหม่อย่าง “HOMTIEM” และ “N’JOY” เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีความต้องการสินค้าและอาหารเพื่อสุขภาพจำนวนมากในปัจจุบัน ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรแปรรูปที่มีคุณภาพสูง เพื่อเป็นการการันตรีและสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค โดย Nopphada Group ได้คว้ารางวัลใหญ่ถึง 2 รางวัล จากกระทรวงพาณิชย์ PM Export Award 2021 สาขา Best Exporter ให้กับ B-Garlic และ Best Thai Brands ให้กับ HOMTIEM
ท้าทายตลาดสุขภาพ ด้วยยอดขาย 200 ล้านบาท กับเป้าหมายเติบโต 150%
แน่นอนว่าตลาดสุขภาพในปัจจุบันเริ่มขยายตัวจาก Niche เป็น Mass Market เพราะได้รับความนิยมจากผู้คนมากขึ้น จากเทรนด์รักสุขภาพ ออกกำลังกาย เลือกและกินอาหารที่มีประโยชน์เพื่อดูแลร่างกาย ทำให้ Nopphada Group เลือกช่องทางกระตุ้นยอดขายด้วย Mass Media ทั้งช่องทางออนไลน์ และทีวี ซึ่งใช้ช่องทางทั้งทีวีดิจิทัล และ Home Shopping รายการยอดนิยม อาทิ True Shopping, RS Mall, O Shopping และ Happy Shopping เพื่อสร้างการรับรู้ การจดจำในแบรนด์และผลิตภัณฑ์ รวมถึงเป็นช่องทางการสั่งซื้อสำหรับลูกค้ากลุ่มผู้สูงอายุที่ไม่ถนัดชอปปิ้งออนไลน์ และกลุ่มคนรักสุขภาพที่คุ้นชินหรือสะดวกในการสั่งซื้อผ่านรายการทีวี
จากการร่วมมือระหว่าง Nopphada Group กับทางช่องทางดังกล่าว นอกจากจะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายและเทรนรักสุขภาพในยุคนี้แล้ว ยังทำให้ในรอบปีที่ผ่านมามีตัวเลขเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นบริษัทคาดหวังตัวเลขยอดขายในไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดไว้ที่ 200 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากเดิมราว 150% ถือเป็นความสำเร็จขั้นแรกสำหรับแบรนด์ B-Garlic ได้การตอบรับเป็นอย่างดี และเกิดการจดจำของผู้บริโภค ต่อยอดเป็นรายได้และการเติบโตทางธุรกิจ
ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลขและความสำเร็จที่พิสูจน์ได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นยังเป็นไปตามพันธกิจที่ต้องการช่วยเหลือสังคมของ Nopphada Group เพราะแบรนด์ได้เพิ่มกำลังการผลิตด้วยการเปิดรับสมัครพนักงานจากชุมชนหรือผู้ที่พักอาศัยในพื้นที่ใกล้เคียงกับบริษัทเพื่อช่วยเหลือและจ้างงานผู้ที่ประสบปัญหาตกงานหรือขาดแคลนรายได้ในช่วง COVID-19 ซึ่งเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพให้คนในชุมชน และเป็นการเพิ่มกำลังผลิตสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการซื้อไปพร้อมกันอีกด้วย
ไม่เทียบเป็น CSR แต่ทำ…เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการด้วยกัน
ท่ามกลางสถานการณ์ที่ทุกภาคส่วน แทบทุกธุรกิจ ได้รับผลกระทบจากวิกฤต COVID-19 ทาง Nopphada Group ยังได้ร่วมกับ ดร.ณรงค์ ศรีเกรียงทอง ประธานสมาพันธ์ช่างผมไทย IHNF เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการร้านเสริมสวยที่อยู่ภายใต้แบรนด์ DCASH ในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์ COVID-19 โดยนำผลิตภัณฑ์ “กระชายขาวสกัดแคปซูล” อีกหนึ่งสินค้าของแบรนด์ที่เป็นที่ต้องการอย่างมากในปัจจุบัน ไปมอบให้กับร้านเสริมสวยเพื่อจำหน่ายผ่านทางออนไลน์ ให้เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเพิ่มรายได้ในสภาวการณ์การแพร่ระบาดเช่นนี้
นอกจากนั้น ทาง B-Garlic ยังได้จัดแคมเปญ “B-Garlic กระชายขาวสกัด ดี พลัส ช่วยโควิด” โดยทุกๆการสั่งซื้อ “กระชายขาวสกัด ดี พลัส” หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วทาง B-Garlic จะนำเงินสมทบทุนให้หน่วยงานที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย COVID-19 และที่ผ่านมาทางบริษัทได้ช่วยเหลือชุมชนที่อยู่บริเวณโดยรอบบริษัทที่ได้รับผลกระทบ อาทิ บ้านหมูเปิ้ง ม.9 และบ้านป่าตอง ม.13 ต.เหมืองจี้ อ.เมือง จ.ลำพูน เป็นมูลค่า 429,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเรื่องราวและกรณีศึกษาเพียงส่วนหนึ่ง ภายใต้ธุรกิจของ Nopphada Group หากใครสนใจเรื่องราวขององค์กร รวมถึงผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอย่างแบรนด์ B-Garlic และแบรนด์อื่น ๆ ในเครือ สามารถติดตามรายละเอียได้ที่ เว็บไซต์ หรือ Facebook Page
