หากพูดถึงรถปิคอัพหรือรถกระบะที่รูปลักษณ์ดูแข็งแกร่ง หล่อ เข้ม ออปชันดี หลายคนต้องนึกถึง นิสสัน นาวารา (NISSAN NAVARA) ที่ได้รับการยกระดับสมรรถนะการขับขี่ให้ขึ้นมาอยู่ในอันดับต้น ๆ และการออกแบบที่สะท้อนความแข็งแกร่ง ที่ผู้ขับขี่สามารถก้าวข้ามความท้าทายและการผจญภัยใหม่ ๆ อย่างมั่นใจ พร้อมลุยไปทุกพื้นที่
เพื่อเป็นการฉายภาพสมรรถนะของรถให้ชัดเจนในการบุกตะลุยไปได้ในทุกพื้นที่ เพื่อเคียงข้างคนไทยในทุกสถานการณ์ นิสสัน ประเทศไทย จึงได้มีการส่งนิสสัน นาวารา ไปปฏิบัติภารกิจท้าทายมากมายที่ต้องอาศัยความแข็งแกร่ง บุกลุยได้ในทุกสถานการณ์การขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นคาราวาน Nissan Care For You ส่งมอบน้ำดื่ม หน้ากากอนามัย อาหารแห้ง และสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ ให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ กิจกรรมคาราวานน้ำใจไทยครั้งที่ 3 ช่วยสังคมไทยฝ่าวิกฤติโควิด-19 ลำเลียงอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยโควิด-19 เป็นต้น รวมถึงภารกิจล่าสุด “NISSAN NAVARA PRO-4X FIRE RESCUE TEAM กล้า…เพื่อคนแกร่ง” ส่งนิสสัน นาวารา ไปสนับสนุน “ชุดปฏิบัติงานพิเศษเหยี่ยวไฟ จ.เชียงใหม่” เพื่อภารกิจควบคุมเพลิงตามแนวป่าได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็ว เสริมกำลังพิชิตภารกิจพิทักษ์ทรัพยากรป่า บรรเทาปัญหามลพิษทางอากาศ ที่ขับให้ภาพลักษณ์ของนิสสัน นาวารา หล่อ เข้ม มากขึ้นไปอีก
สถานการณ์ไฟป่านับเป็นปัญหาระดับชาติที่เกิดขึ้นทุกปี คิดเป็นพื้นที่ป่าที่เสียหายปีละกว่าแสนไร่ โดยเฉพาะในภาคเหนือ และในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จากสถิติปี 2564 พบว่าในจังหวัดเชียงใหม่ เกิดไฟป่าทั้งสิ้นกว่า 1,305 ครั้ง กินพื้นที่ป่าที่เสียหายกว่า 33,369 ไร่ โดยมี “ชุดปฏิบัติงานพิเศษเหยี่ยวไฟ” เป็นด่านหน้ารับภารกิจควบคุมไฟป่าภาคเหนือ ซึ่งมีบุคลากรเพียง 20 นาย ที่นอกเหนือจากการออกปฏิบัติภารกิจดับไฟป่า ซึ่งแต่ละครั้งกินพื้นที่ไม่น้อยกว่า 20 ไร่แล้ว ทุกปีทีมเหยี่ยวไฟต้องปฏิบัติหน้าที่หลากหลายและทำงานอย่างหนักทั้งการเฝ้าระวัง ป้องกัน และปฏิบัติภารกิจประสานงานเพื่อดับไฟป่า รวมถึงการสนธิกำลังกับทุกภาคส่วนในพื้นที่ต่าง ๆ ดูแลงานบรรเทาสาธารณภัย พร้อมทั้งอบรมให้ความรู้แก่ชาวบ้านเรื่องไฟป่าอีกด้วย
ปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าในแต่ละครั้งสำหรับหน่วยเหยี่ยวไฟ คือ สภาพภูมิประเทศซึ่งเป็นพื้นที่เขาสูงชันยากต่อการเข้าถึงจุด hot spot หรือต้องใช้เวลานานในการเดินเท้า ในขณะที่ไฟป่าก็พร้อมจะปะทุขึ้นได้ทุกเมื่ออย่างรวดเร็วและไร้ทิศทางที่แน่นอน และยังต้องเสี่ยงภัยอันตรายที่เกิดขึ้นทั้งจากเพลิงไฟ และอุบัติเหตุจากการใช้อุปกรณ์ระหว่างปฏิบัติงาน และยังขาดแคลนอุปกรณ์ที่ใช้ในการดับและสร้างแนวกันไฟ อีกทั้งอุปกรณ์ที่มีอยู่ก็มีประสิทธิภาพจำกัด อย่างเช่น เครื่องเป่าลมระบบน้ำมัน ที่จะสามารถใช้งานได้เพียงครั้งละ 2-3 ชั่วโมง และมีน้ำหนักมาก จึงส่งผลให้การปฏิบัติภารกิจเป็นไปด้วยความยากลำบาก ไม่คล่องตัว จนบางครั้งก็ได้รับบาดเจ็บจากเปลวไฟ ทำให้การปฏิบัติภารกิจแต่ละครั้งใช้เวลานาน เฉลี่ย 5 ชั่วโมง – 2 วัน และบางภารกิจไม่สามารถดับไฟได้ตามเป้าหมาย
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้นิสสัน ประเทศไทย จัดตั้งภารกิจพิเศษที่ชื่อว่า “NISSAN NAVARA PRO-4X FIRE RESCUE TEAM กล้า…เพื่อคนแกร่ง” เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยเหยี่ยวไฟ โดย มร. มาซาโอะ สึสึมิ รองประธานสายงานการตลาดและการขาย นิสสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “เราได้ส่งมอบนิสสัน นาวารา PRO-4X จำนวน 2 คัน สำหรับใช้เป็นยานพาหนะในการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจ เพราะเป็นรถกระบะที่มีสมรรถนะสูง เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ พร้อมการติดตั้งเทคโนโลยีขับขี่อัจฉริยะ และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ใช้งานง่าย จึงสามารถลุยไปได้ทุกพื้นที่ที่เกิดเหตุไฟป่า รวมถึงยังมีฟังก์ชันพิเศษ อาทิ การแสดงพิกัดรถยนต์ การแสดงสถานะรถยนต์ การช่วยเหลือฉุกเฉิน เป็นต้น ที่จะเป็นผู้ช่วยสำคัญของทีมเหยี่ยวไฟ หากตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤต นอกจากนี้ ยังได้มอบอุปกรณ์ดับและไล่ไฟป่า เครื่องเป่าลมแบตเตอรี่ (Battery Powered Blower) จำนวน 5 ชุด ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษด้วยการใช้ระบบพลังงานไฟฟ้าแทนน้ำมันเบนซิน ทำให้มีน้ำหนักเบา ปลอดภัย สามารถนำไปใช้ในการปฏิบัติภารกิจควบคุมไฟป่าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ปลอดภัยและรวดเร็วขึ้น”
แม้จะต้องเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากและเต็มไปด้วยอันตราย แต่ด้วยหัวใจที่แข็งแกร่งของทีมเหยี่ยวไฟ ก็ไม่ได้รู้สึกท้อหรือถอดใจจากภารกิจนี้ เพราะรู้ดีว่า การหยุดไฟป่าเท่ากับหยุดการทำลายทรัพยากรป่าไม้ หยุดอันตรายจากควันพิษจะกระจายไปทำลายสุขภาพกายและสุขภาพจิตของคนในชุมชนใกล้เคียง หรือแม้แต่ในเมืองที่ห่างออกไป
การสนับสนุนในครั้งนี้ จึงนอกจากจะเป็นการช่วยสนับสนุนหน่วยเหยี่ยวไฟ ทำงานได้ง่ายขึ้น ดับไฟได้เร็วขึ้น ออกจากป่ากลับมาหาคนในครอบครัวได้เร็วและปลอดภัยมากขึ้น เกิดการสูญเสียน้อยลงแล้ว ยังเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ความแข็งแกร่งและเอกลักษณ์ของ นิสสัน นาวารา ในการเป็นยานพาหนะที่พร้อมอยู่เคียงข้างคนไทยทุกสถานการณ์ ที่ต้องการขับเคลื่อนและก้าวสู่อนาคต ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน