จับตา Netflix หั่นราคาลงเหลือ 7-9 ดอลลาร์ต่อเดือน สำหรับค่าสมาชิกใหม่ที่มีโฆษณาคั่น แก้เกมสมาชิกหายวูบ

  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  

 

Netflix กําลังพิจารณากําหนดราคาค่าสมาชิกใหท่ใหม่ ซึ่งแม้จะมีราคาถูกลงแต่จะมีโฆษณาด้วย โดยแผนของราคาใหม่จะอยู่ที่ประมาณ 7-9 ดออลาร์ หรือประมาณ 255.08 – 327.96 บาท ต่อเดือน ในขณะที่ปัจจุบันมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 15.49 ดอลลาร์ (564.46 บาท) ต่อเดือนโดยไม่มีโฆษณา

 

เป้าหมายคือเพื่อดึงดูดสมาชิกที่ยินดีดูโฆษณาบางรายการ โดยแลกกับอัตราค่าสมาชิกรายเดือนที่ต่ำกว่า ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่เริ่มบริษัทสตรีมมิ่งเจ้าดังจะเริ่มแผนนี้

 

ตามรายงานระบุว่า Netflix วางแผนที่จะขายโฆษณาประมาณ 4 นาที สำหรับบริการที่รองรับโฆษณา ซึ่งน้อยกว่าโฆษณาส่วนใหญ่ที่ผู้คนคุ้นเคย โดยโฆษณาจะแสดงก่อนและระหว่างที่รายการคอนเทนต์กำลังเล่นอยู่ แต่ไม่ใช่หลังหรือจบรายการแล้วจะมีโฆษณา พูดง่ายๆ คือก่อนเริ่มรายการและเล่นคั่นระหว่างรายการนั่นเอง นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าทางผู้ลงโฆษณาต้องการทำข้อตกลงเล็กๆ ล่วงหน้าเพื่อไม่ให้เกิดการโหมลงโฆษณามากจนเกินไป ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความไม่พึงใจหรือปฏิเสธการรับชมโฆษณา

 

Netflix วางแผนที่จะนำเสนออ็อปชั่นนี้ในช่วงระหว่างสามเดือนสุดท้ายของปี ซึ่งบริษัทระบุว่า จะมีการเปิดตัวเต็มรูปแบบในต้นปีหน้า โดยรายละเอียดของบริการก็เริ่มค่อยๆ หลุดข้อมูลออกมาให้เราทราบกัน เพราะทาง Netflix ได้เริ่มเดินสายเจรจากับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจบ้างแล้ว ซึ่งน่าจับตาว่าหลายสิ่งหลายอย่างเริ่มเปลี่ยนไปในการทำธุรกิจของสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่รายนี้

หลายฝ่ายคาดว่าการเปลี่ยนวิธีในการหารายได้ของ Netflix น่าจะเป็นผลมาจากการสูญเสียจำนวนสมาชิกมากขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ (2022) ทำให้ฝ่ายบริหารจำยอมที่จะนำโมเดลของการใส่โฆษณามาด้วย แต่มีค่าสมาชิกที่ถูกกว่าให้กับผู้ที่พร้อมจะดูโฆษณา ทั้งนี้ คาดการณ์กันว่า แผนใหม่นี้น่าจะร้างรายได้ประมาณ 8.5 พันล้านดอลลาร์ต่อปี (ทั่วโลก) ภายในปี 2027 ซึ่งรวมถึงค่าธรรมเนียมการสมัครสมาชิกและยอดขายโฆษณา ตามรายงานของ Ampere Analytics ที่ปรึกษาด้านสื่อได้วิเคราะห์ไว้

 

น่าจับตาว่า กําลังเข้าสู่การโฆษณาในช่วงเวลาเดียวกับ Disney+ ซึ่งเป็นคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดกำลังเติบโต พร้อมข่าวที่ว่า Disney มีแผนที่จะปรับเพิ่มราคา และอาจจะมีโฆษณาด้วยแต่ในราคาเดิม

 

ยังมีข่าวระบุว่า ทางผู้บริหารของ Netflix กำลังตัดสินใจอยู่ว่ารายการใดควรมีโฆษณาและรายการใดไม่ควรมี ซึ่งมีแนวโน้มว่าถ้าเป็นรายการสำหรับเด็กจะมีไม่โฆษณาใส่ลงไปอย่างน้อยก็ในตอนแรก และจะไม่รวมโฆษณาระหว่างภาพยนตร์ต้นฉบับ ซึ่งเป็นไปได้ว่าโฆษณาจะถูกใส่ในรายการทีวีของตัวเองในหลายรายการ พร้อมกับแสวงหาสิทธิ์การนำโฆษณษไปใช้กับพันธมิตร เช่น อย่าง Sony, Universal, Warner Bros. และ Paramount ซึ่งน่าจะโอเค. กับการชาร์จค่าโฆณาให้ใส่ได้ในหนังเกาหรือรายการทีวีเก่าๆ ได้

 

ในอีกมุมหึ่งทางฝั่งผู้ลงโฆษณา ค่อนข้างจะตอบรับกับการตัดสินใจที่ Netflix จะมีโฆษณา เพราะการเติบโตของบริการสตรีมมิ่งรายนี้น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง การเติบโตของบริการที่ไม่มีโฆษณาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Netflix, Amazon Prime Video และ Disney+ ทําให้เกิดวิกฤตที่มีอยู่ในหมู่นักการตลาด พวกเขากังวลว่าทีวีซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นภาคโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดในโลก กําลังถูกยึดครองโดยบริการที่ไม่ได้แสดงโฆษณา โดยเอเจนซี่รายหนึ่งคาดการณ์ว่าระยะเวลาที่ผู้คนใช้ดูวิดีโอที่รองรับโฆษณาจะลดลง 6% ภายในปี 2025 ตอนนี้ Netflix และ Disney+ กําลังเข้าสู่สนาม ซึ่งคาดว่ามันจะเพิ่ม ads spending ขึ้น 1% ก็เป็นไปได้

 

Source

Bloomberg.com

Reuter.com

Businessinsider

Credit ภาพ : Editorial credit: sitthiphong / Shutterstock.com, Editorial credit: XanderSt / Shutterstock.com

 


  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  
pigabyte
การเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น มาเรียนรู้และสนุกไปกับบทความ จาก MarketingOops! กันนะคะ แล้วเราจะได้ค้นพบว่าโลกของ Marketing นั้น So Sexy and Cool!