Netflix เร่งปั๊มรายได้! เปิดตัวฟีเจอร์ “add a home” 1 บ้านต่อ 1 บัญชี ถ้าอยากแชร์ แต่อยู่คนละบ้าน ต้องจ่ายเพิ่ม

Netflix-add-a-home — Photo Credit: David Esser / Shutterstock.com

ในช่วงสถานการณ์ COVID-19 แพร่ระบาดอย่างหนัก ทำให้หลายประเทศต้องล็อกดาวน์ คนต้องใช้ชีวิตอยู่กับบ้านเป็นหลัก กลายเป็นโอกาสทองสำหรับธุรกิจ “Streaming” แต่เมื่อประเทศต่างๆ ทยอยเปิดประเทศ กิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยฟื้นกลับมา ผู้คนเริ่มออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านตามปกติ ทำให้คนใช้เวลาอยู่กับแพลตฟอร์ม Streaming น้อยลง แน่นอนว่าย่อมมีผลต่อยอด Subscriber ลดลงตามมา

อีกทั้งยังเวลานี้ทั่วโลกเจอมรสุม “เงินเฟ้อ” และเข้าสู่ภาวะ “Stagflation” คือ เศรษฐกิจชะงัก/ซบเซา และภาวะเงินเฟ้อสูง กระทบกำลังซื้อของผู้คน กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคหาทางลดค่าใช้จ่ายต่างๆ หนึ่งในนั้นคือ บอกเลิกสมาชิกแพลตฟอร์ม Streaming

นี่จึงเป็นโจทย์ใหญ่ของ “Netflix” ยักษ์ใหญ่ Video Streaming กำลังเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งจากยอดสมาชิกลดลง โดยในไตรมาสแรกของปี 2022 ลดลงไปแล้วกว่า 200,000 ราย นับเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่ Netflix เสียฐานสมาชิก และคาดการณ์ว่าจะเสียฐานสมาชิกเพิ่มอีกในไตรมาส 2

ขณะเดียวกันยังต้องแบกต้นทุนสูง โดยเฉพาะด้านคอนเทนต์ ประมาณการณ์ว่าปีนี้งบด้านคอนเทนต์อยู่ที่ 17.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงเล็กน้อยจากปี 2021 ใช้งบที่ 17.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ด้วยเหตุนี้เอง Netflix จึงต้องหาทางลดต้นทุน พร้อมกับเพิ่มรายได้มากขึ้น ทั้งรายได้จากฐานสมาชิก และรายได้จากโฆษณา ท่ีมีแผนเปิดแพ็คเกจใหม่แบบมีโฆษณา รวมทั้งแก้ปัญหาการแชร์บัญชีใช้งาน หรือหารค่าสมาชิก ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่มีมายาวนาน โดย Netflix ประมาณการณ์ว่าปัจจุบันมีการแชร์บัญชีผู้ใช้งานกว่า 100 ล้านครัวเรือนทั่วโลก ในจำนวนนี้มาจากสหรัฐฯ และแคนาดา 30 ล้านครัวเรือน ซึ่งกระทบต่อรายได้ และการเพิ่มฐานสมาชิก

เปิดตัวฟีเจอร์ “add a home” อยากแชร์บัญชี แต่อยู่คนละบ้าน ต้องจ่ายเพิ่ม!

ล่าสุด Netflix เปิดตัวฟีเจอร์ “add a home” คือ 1 บ้านต่อ 1 บัญชี หากเจ้าของบัญชี หรือผู้ใช้งานอยากแชร์บัญชีของตัวเองให้กับคนอื่นที่ไม่ได้อยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ต้องจ่ายเงินเพิ่ม โดยฟีเจอร์นี้เริ่มทดลองใช้กับตลาดอาร์เจนตินา, สาธารณรัฐโดมินิกัน, เอลซัลวาดอร์, กัวเตมารา และฮอนดูรัส หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมีนาคม 2022 Netflix ได้พัฒนาฟีเจอร์ “add extra member” ในชิลี, คอสตาริกา และเปรู

Chengyi Long ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมของ Netflix ชี้แจงถึงเหตุผลการพัฒนาฟีเจอร์ “add a home” ว่า ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา Netflix ทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาบริการ Streaming ให้ง่ายต่อการใช้งาน รวมถึงสำหรับผู้เดินทาง หรืออาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ทำให้สมาชิกของเรารักภาพยนตร์ และรายการของ Netflix อย่างมาก จนพวกเขาต้องการแบ่งปันบัญชี Netflix ของตัวเองให้กับคนอื่น

แต่การแชร์บัญชีสมาชิกระหว่างครัวเรือนอย่างแพร่หลายทุกวันนี้ ส่งผลกระทบต่อความสามารถในระยะยาวที่ใช้ในการลงทุน และปรับปรุงบริการของเรา ดังนั้น เราได้สำรวจวิธีการต่างๆ สำหรับคนที่ต้องการแชร์บัญชี Netflix ของตัวเองให้กับคนอื่น เพียงแค่จ่ายเงินเพิ่มอีกนิดหน่อย

ดังนั้นต่อไปพื้นที่ที่มีการใช้งานฟีเจอร์ “add a home” บัญชีสมาชิก Netflix 1 บัญชี สามารถใช้งานได้เฉพาะในบ้านหลังเดียวกันเท่านั้น ซึ่งครอบคลุมทุกแพ็คเกจ และสมาชิกในบ้านหลังนั้น ยังสามารถดูคอนเทนต์ได้จากทุกอุปกรณ์

แต่ถ้าเจ้าของบัญชี Netflix ต้องการแชร์บัญชีของตัวเองให้กับคนอื่นที่ไม่ได้อยู่ในบ้านเดียวกัน ต้องจ่ายเพิ่มเติม

สำหรับ 5 ประเทศที่เริ่มทดลองใช้ฟีเจอร์นี้อย่างอาร์เจนตินา ถ้าจะเพิ่มบ้านเข้ามา ต้องจ่ายเพิ่ม 219 เปโซต่อเดือนต่อบ้าน ขณะที่สาธารณรัฐโดมินิกัน, เอลซัลวาดอร์, กัวเตมารา และฮอนดูรัส จ่ายเพิ่ม 2.99 ดอลลาร์ต่อเดือนต่อบ้าน หรือประมาณ 110 บาท

– แพ็คเกจสมาชิก Basic เพิ่มบ้านได้สูงสุด 1 หลัง

– แพ็คเกจสมาชิก Standard เพิ่มบ้านได้สูงสุด 2 หลัง

– แพ็คเกจสมาชิกพรีเมียม เพิ่มบ้านได้สูงสุด 3 หลัง

นอกจากนี้ต่อไปจะมีฟีเจอร์บริหารจัดการบ้านที่เพิ่มเข้ามา เพื่อเจ้าของบัญชี Netflix สามารถบริหาร account ของตัวเองและจะ remove บ้านที่เพิ่มเข้ามาได้

Netflix ระบุว่าฟีเจอร์นี้ไม่ได้ใช้ข้อมูลระบุตำแหน่งผู้ใช้งาน เช่น GPS แต่ใช้ข้อมูลจากอุปกรณ์ เช่น ข้อมูล IP address, ข้อมูลจากระบบตรวจจับการใช้งาน (IDS) และข้อมูลอุปกรณ์ที่ผู้ใช้งานลงชื่อเข้ามาใช้งาน Netflix ทำให้สามารถตรวจสอบได้เมื่อมีการแชร์บัญชีการใช้งานคนละบ้าน

สำหรับประเทศในเอเชีย รวมถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นอีกตลาดยุทธศาสตร์ของ Netflix คงต้องรอดูว่าจะเริ่มนำฟีเจอร์ดังกล่าวมาปรับใช้ด้วยหรือไม่ เพื่อแก้ปัญหาการแชร์บัญชี และหาทางเพิ่มรายได้มากขึ้น

จับมือ “Microsoft” เตรียมเปิดตัวแพ็คเกจราคาถูกแบบมีโฆษณา

ไม่เพียงแต่การเก็บเงินเพิ่มจากการแชร์บัญชีใช้งานเท่านั้น ก่อนหน้านี้ Netflix เคยประกาศจะนำเสนอแพ็คเกจใหม่สำหรับการสมัครสมาชิกแบบมีโฆษณาในราคาถูกลง นอกเหนือจากแพ็คเกจ Basic, Standard, Premium ที่ไม่มีโฆษณา โดยจับมือกับ “Microsoft” เพื่อดูแลด้านเทคโนโลยีโฆษณาทั่วโลก และเป็นพาร์ทเนอร์ฝ่ายขายให้กับ Netflix

“Microsoft จะสนับสนุนทุกความต้องการด้านการโฆษณาของเราเพื่อร่วมมือกันนำเสนอบริการใหม่แบบมีโฆษณา และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น Microsoft มีความยืดหยุ่นในการคิดค้นพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งในแง่ของเทคโนโลยีและการขาย รวมถึงระบบคุ้มครองความเป็นส่วนตัวที่แน่นหนาสำหรับสมาชิกของเรา

ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และเราก็ยังมีอะไรให้ต้องจัดการอีกมากมาย แต่เรามีเป้าหมายระยะยาวที่ชัดเจน นั่นคือ ทางเลือกเพิ่มเติมสำหรับผู้บริโภค และประสบการณ์ที่มีต่อแบรนด์ซึ่งยกระดับให้ดีกว่าช่องโทรทัศน์รูปแบบเดิมสำหรับผู้ลงโฆษณา เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับ Microsoft เพื่อนำเสนอบริการใหม่นี้” Greg Peters ประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการและประธานบริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์ Netflix กล่าวถึงความร่วมมือ