ตั้งแต่ปี 2021 มีมูฟเมนต์สำคัญจาก Netflix วิดีโอสตรีมมิ่งเบอร์ต้นๆ ของโลกที่พยายามก้าวสู่วงการ ‘เกม’ อย่างเห็นได้ชัด ดูจากการเข้าซื้อสตูดิโอ Night School Studio ซึ่งเป็นผู้สร้างเกมผจญภัย Oxenfree และซื้อสตูดิโอ Next Games ผู้สร้างเกม Stranger Things บนสมาร์ทโฟนในเดือน ก.ย.ปีที่ผ่านมา และล่าสุดที่เพิ่งซื้อ Boss Fight Entertainment สตูดิโอเกมจากรัฐเท็กซัสของสหรัฐอเมริกา
มูฟเมนต์นี้ถึงแม้ว่าจะสร้างความประหลาดใจต่อหลายๆ คนที่เห็น Netflix แตกไลน์ธุรกิจให้ความสำคัญไปทางเกมแทนที่จะเป็นคอนเทนต์แบบเดิม การเปลี่ยนแปลงนี้มีนัยยะน่าสนใจอย่างไรต่อตลาดและแบรนด์ ต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมสตรีมมิ่งมีการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรง นับวันยิ่งเพิ่มความดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้น การที่ Netflix หันหน้าเข้าสู่ธุรกิจเกมทำให้นักการตลาดหลายแห่ง อย่างเช่น Bloomberg ที่นักวิเคราะห์พูดไว้ว่า “การแตกไลน์ธุรกิจไปที่เกมมากขึ้นจะทำให้ Netflix ได้กลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายและครอบคลุมช่วงอายุมากขึ้น อย่างที่ 2 ก็คือความหลากหลายที่ offer ให้กับผู้บริโภคจะทำให้ Netflix อยู่เป็น top of mind ได้นาน”
4 กลยุทธ์จาก Netflix เกี่ยวกับแพลนธุรกิจ ‘เกม’
-
เกมทั้งหมดในอนาคตจะปรากฎบนหน้าแรกของแอปพลิเคชั่น Netflix และผู้ที่เป็นสมาชิกสามารถเล่นได้ฟรี (ไม่มีโฆษณาคั่นด้วย)
-
บางเกมที่โชว์บนแอปฯ Netflix จะเชื่อมต่อกับคอนเทนต์หนัง/ซีรีส์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง อย่างเช่น เกม Stranger Things
-
Greg Peters ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Netflix พูดว่า เกมจะเข้ามาเป็นอีก flagship หนึ่งที่สร้างรายได้ให้กับบริษัท นอกจากจะทำให้ผู้ใช้ Netflix อยู่ในแพลตฟอร์มนานขึ้น เกมที่น่าสนใจและ relate กับหนัง/ซีรีส์จะทำให้คนดูรู้สึกอินและสนุกกับการใช้แพลตฟอร์มมากขึ้น
-
Netflix มองว่า การเพิ่มความหลากหลายให้กับคนดูให้พวกเขารู้สึกว่ามันคุ้มค่าที่จะเสียเงินสมัคร member จะมีโอกาสน้อยมากๆ ที่พวกเขาจะยกเลิกสมาชิก นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดผู้ใช้รายใหม่ขึ้นด้วย
ทั้งนี้ Reed Hastings CEO ของ Netflix เคยพูดไว้ว่า “นอกจากความกังวลจากแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งอื่นๆ ที่เป็นคู่แข่งของ Netflix สำหรับธุรกิจเกมก็มองว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับ Netflix เหมือนกัน เพราะว่าเกมทำให้ผู้ที่เล่นใช้เวลาไปกับตรงนั้นค่อนข้างมาก และคอเกมส่วนใหญ่จะเล่นเกมวนซ้ำๆ ไม่ใช่แค่ 1-2 ครั้งต่อวัน”
ในมุมมองของนักวิเคราะห์หลายคน หนึ่งในนั้นก็คือ Jason Bazinet นักวิเคราะห์ของ Citi มองว่า การที่ Netflix แตกไลน์ธุรกิจไปเป็นอุตสาหกรรมเกมถือว่าเป็นการเปิดเกมการแข่งขันในตลาดใหม่ เพราะเดิมทีฐานลูกค้าของ Netflix ก็มากเป็นอันดับต้นๆ ของแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งแล้ว ดังนั้น นี่คือมูฟเมนต์ที่น่าสนใจและน่ากังวลสำหรับธุรกิจเกมรายอื่นในอนาคต อีกทั้งกลยุทธ์นี้ของ Netflix ถือว่านำหน้าคู่แข่งรายอื่นในตลาดที่ยังไม่มีบริการเกมภายในแอปฯ เลย
ที่มา: the verge, vox, bloomberg