เวลาเปิดฝาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชนิดถ้วย เราจะเจอ “ส้อมพลาสติกแบบพับ” ที่แบรนด์ผู้ผลิตให้มาอยู่ในถ้วยบะหมี่ฯ แต่เป็นที่ทราบกันดีว่าทุกวันนี้ทั่วโลกกำลังเผชิญปัญหาวิกฤตขยะพลาสติกที่ย่อยสลายยาก ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศสิ่งแวดล้อม นี่จึงทำให้วงการบรรจุภัณฑ์ และผู้ผลิตสินค้าเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ และอุปกรณ์การรับประทานที่สามารถย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติ และลดการใช้พลาสติกใหม่
อย่าง “Nestlé” (เนสท์เล่) หนึ่งในผู้ผลิตอาหาร เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์จากนมรายใหญ่ของโลก ล่าสุด Nestlé ประเทศอินเดีย ร่วมกับสตาร์ทอัพท้องถิ่น เปิดตัว “ส้อมทำจากพืช กินได้ และย่อยสลายได้” สำหรับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบรนด์ Maggi (แม็กกี้) ในตลาดอินเดีย โดยตัวส้อมทำมาจากแป้งสาลี และเกลือ ออกแบบฟังก์ชันให้พับได้ เหมือนเช่นส้อมพับพลาสติกในบะหมี่ฯ ถ้วยที่เราคุ้นเคย ขณะเดียวกันก็รักษาคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเหมือนเดิม
ที่ผ่านมา Nestlé ประกาศพันธกิจเพื่อความยั่งยืนระดับโลก โดยตั้งเป้าหมายพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำไปรีไซเคิล หรือใช้ซ้ำได้ 100% รวมทั้งลดการใช้พลาสติตผลิตใหม่ลง 1 ใน 3 ภายในปี 2025 ดังนั้น Nestlé ได้ศึกษาและวิจัยนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นกล่อง, กระป๋อง, ถ้วย และอุปกรณ์การรับประทาน เช่น หลอด, ช้อนส้อม
“เราศึกษาและวิจัยบรรจุภัณฑ์ทางเลือกเพื่อความยั่งยืนประเภทต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจใน Food Safety, ประสบการณ์ของผู้บริโภค และการรักษาคุณภาพ-รสชาติผลิตภัณฑ์ อย่างการเปิดตัวส้อมทำจากพืช ผู้เชี่ยวชาญด้านบรรจุภัณฑ์ของเราได้พัฒนาส้อมทางเลือกที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร โดยใช้ความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ด้านวัสดุบรรจุภัณฑ์ Food Grade ที่มีความปลอดภัยทั้งกับอาหารและผู้บริโภค ตลอดจนการออกแบบรูปทรง และฟังก์ชันการใช้งานให้มีประสิทธิภาพ” Gerhard Niederreiter หัวหน้าสถาบันวิทยาศาสตร์บรรจุภัณฑ์, Nestlé กล่าว
ไม่เพียงพัฒนาส้อมทำจากพืชเท่านั้น ฝ่ายพัฒนาบรรจุภัณฑ์ในศูนย์วิจัยโภชนาการ Nestlé ประเทศจีน เตรียมนำร่องเปิดตัว ช้อนกระดาษ สำหรับตักนมผงผู้ใหญ่ในจีน ซึ่งได้จดสิทธิบัตร ตอบโจทย์พันธกิจลดใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์
“การลดใช้บรรจุภัณฑ์ทำจากพลาสติก ควบคู่กับการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิล หรือใช้ซ้ำได้ เป็นเสาหลักในพันธกิจเพื่อความยั่งยืนของ Nestlé โดยทีมวิจัยและพัฒนาของเรา ทำการศึกษาวัสดุเพื่อความยั่งยืนประเภทต่างๆ และเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ที่ล้ำสมัย เพื่อให้ได้บรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งความสะดวก ปกป้องอาหาร/เครื่องดื่มที่อยู่ภายใน และดีต่อโลก” Antonia Wanner หัวหน้ากลุ่มกลยุทธ์ ESG ขยายความเพิ่มเติม
Source: Nestlé