คำเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ได้เปิดบทบาท Nestlé ไปไกลกว่าแบรนด์อาหารและเครื่องดื่ม สู่การส่งเสริมวิถีกินอยู่อย่างสมดุล

 

สุดยอดผลลัพธ์ที่นักการตลาดทั่วโลกหวังจากแคมเปญ คือการที่ลูกค้าลุกขึ้นมาเปลี่ยนพฤติกรรมตามสารหรือเนื้อหาที่ได้รับมา แน่นอนว่าการขับเคลื่อนผู้บริโภคเพื่อให้เกิดแรงกระเพื่อมวงกว้างจนเป็นไฮอิมแพคนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากทำได้ แบรนด์นั้นจะก้าวไปมีจุดยืนที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม เหมือนกับ Nestlé ที่กำลังออกหนังโฆษณาสำหรับแคมเปญใหม่ “Every Little Bite Matters คำเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่” ด้วยภาพที่ลึกกว่าการเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารอร่อย แต่เป็นแบรนด์ที่พร้อมส่งเสริมแนวทางการกินอยู่อย่างสมดุล เพื่อส่งมอบโภชนาการที่เหมาะสมให้กับคนไทย

 

 

การมุ่งเน้นการส่งเสริมแนวทางการกินอยู่อย่างสมดุล ทำให้ Nestlé ไปไกลกว่าการขายผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียว  ยังทำให้ Nestlé ตอกย้ำความเป็นแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มที่มีคุณค่าทางโภชนาการด้วยการเลือกที่จะจูงใจให้ผู้บริโภคให้มองเห็นความเชื่อของ Nestlé ที่ว่าการกินทุกคำ ทุกมื้อ ในทุกวันนั้นมีความสำคัญ ซึ่งจะส่งผลลัพธ์ต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจในระยะยาว เนสท์เล่ต้องการสื่อสารเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคสนใจการ “ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงการเลือกกิน” ตามแนวทางปฏิบัติที่เข้าใจง่ายและทำได้จริง

ความสำเร็จของหนังโฆษณาและแคมเปญใหม่ยังทำให้ Nestlé ชูจุดแข็งเรื่องสนับสนุนให้คนไทยมีพฤติกรรมการกินอยู่อย่างสมดุล ทั้งอาหารที่ดีต่อร่างกายและอาหารที่ดีต่อใจในปริมาณเหมาะสม รวมถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอื่นที่ Nestlé ได้เติมเสริมในการแบ่งพอร์ตผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างชัดเจน

 

จัดพอร์ตผลิตภัณฑ์ ส่งเสริมการกินอยู่อย่างสมดุล

Nestlé ได้แบ่งพอร์ตผลิตภัณฑ์อย่างชัดเจนให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคของคนไทยในแต่ละกลุ่ม ประกอบด้วย 3 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภคทุกวัน (Everyday Goodness) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของเนสท์เล่ ประเทศไทย 2. กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านโภชนาการเฉพาะกลุ่ม (Tailored Nutrition) คือผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของผู้บริโภคบางกลุ่ม และผลิตภัณฑ์เพื่อโภชนาการเด็ก และ 3. กลุ่มผลิตภัณฑ์ของว่าง (Mindful Indulgence) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถรับประทานได้อย่างพอประมาณ เพื่อสร้างสมดุลที่ดีทางจิตใจ

การจัดพอร์ตผลิตภัณฑ์แบบนี้สามารถตอบโจทย์การส่งเสริมการรับประทานอย่างสมดุลเพื่อคนไทยในทุกช่วงวัย เรียกว่าเป็นการปรับพอร์ตที่เกิดขึ้นไปคู่กันกับกลยุทธ์ การ “ขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อผู้บริโภค” ซึ่งในปีนี้ Nestlé เร่งเครื่องกลยุทธ์นี้ด้วยการเปิดตัวหนังโฆษณาใหม่ “คำเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่ เพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้คนไทยลุกขึ้นมาเลือกรับประทานให้สมดุล ทั้งดีต่อกายและดีต่อใจ

 

 

 

เปลี่ยนคำเล็ก ๆ เพิ่มสิ่งดี ๆ ให้สุขทั้งกาย สุขทั้งใจ https://www.nestle.co.th/th/every-little-bite-matters

“คำเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่ – Every Little Bite Matters” นอกจากความต้องการสนับสนุนให้คนไทยได้เลือกรับประทานให้สมดุลในปริมาณเหมาะสมแล้ว Nestlé ยังเข้าใจผู้บริโภคว่าเราทุกคนต่างอยากรับประทานอาหารที่ชอบ อีกทั้งจุดเริ่มต้นของแนวคิด คำเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่ ยังโยงกับการที่ประเทศไทยมีอาหารให้เราได้ลิ้มลองหลากหลายประเภท และคนไทยคือสายกินตัวจริง  แต่สุขภาพก็เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ ไอเดียของหนังโฆษณานี้จึงเป็นการดึงอินไซต์ผู้บริโภค ที่อาจมีมุมมองต่ออาหารแต่ละประเภทแตกต่างกัน ในบางวันอาจมี “คำที่เรารัก” เมื่อได้กินอาหารอร่อยถูกปาก เมนูโปรด หรือขนมที่ชื่นชอบ เพื่อผ่อนคลายคลายอารมณ์ เยียวยาจิตใจในวันที่เครียด และก็มี “คำที่รักเรา” เมื่อได้เลือกกินของที่มีประโยชน์

 

 

เพื่อตอกย้ำว่าอาหารมีบทบาทในชีวิตของคนเรา มากกว่าเพื่อตอบสนองความต้องการด้านโภชนาการของร่างกาย ขณะเดียวกัน อาหารยังมีบทบาททางด้านอารมณ์ และการเข้าสังคมอีกด้วย Nestlé จึงเลือกจุดประกายให้ผู้คนเลือกอาหารที่ดี และ Nestlé จะเป็นผู้สนับสนุนให้คนไทยได้เข้าถึง ‘อาหารที่ดี’ อย่างมีความสุขมากขึ้น ผ่านแนวคิดที่เรียบง่าย ซึ่งจะนำไปสู่ ‘วิถีการกินที่ดี’ และ’ชีวิตที่มีสุข’

 

 

Nestlé เชื่อว่าอาหารทุกคำสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ตามมาเสมอ เพียงแค่เปลี่ยนพฤติกรรมการกินเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน ลองปรับแนวทางการกินให้เหมาะสม เปลี่ยนอาหารคำเล็ก ๆ ด้วยการเติมเพิ่มสิ่งดี ๆ ให้มีความบาลานซ์และมีความสุขและคำสุขในทุก ๆ วัน เพื่อได้สุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน

 

อาหารคำเล็กๆ ยิ่งใหญ่จริง ๆ

Nestlé แบ่งส่วนประกอบแคมเปญ Every Little Bite Matters หรือ คำเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่ออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือการปล่อยหนังโฆษณาที่จุดประกายให้คนไทยลองเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ส่วนที่ 2 คือการนำเสนอกิจกรรมที่สร้างแรงบันดาลใจและให้ความรู้แก่ผู้บริโภคผ่านวิธีง่าย ๆ และส่วนที่ 3 คือการแสดงจุดยืนส่งเสริมการสร้างสุขนิสัยในการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอย่างยั่งยืนผ่านอาหารที่เราเลือกกิน

ส่วนแรกนั้นมีแกนหลักเป็นภาพยนตร์โฆษณาที่มีการหยิบสถานการณ์ที่หลายคนเผชิญ นั่นคือการต้องเลือกระหว่างการรับประทานผักสด หรือของทอดกรุบกรอบแสนอร่อย อินไซต์นี้ถูกใส่ไว้เต็มซีนผ่านตัวละครที่เป็นตัวแทนของกลุ่มเป้าหมายหลากหลาย ถือเป็นอีกโฆษณาคุณภาพที่ทำให้ผู้ชมเข้าใจถึงความสำคัญของการรับประทานอาหารที่ชอบโดยที่ต้องบาลานซ์จานที่ใช่ลงไปด้วย

 

 

ส่วนที่ 2 คือการบอกวิธีการ “กินที่ชอบ บาลานซ์ที่ใช่” ตรงนี้ต้องปรบมือให้ Nestlé ที่เนรมิตเนื้อหามีประโยชน์เข้าใจง่าย ทำให้กลุ่มเป้าหมายได้ทราบวิธีอิ่มอร่อยอย่างมีสไตล์ ด้วยวิธีอย่างเช่น Food pairing: การจับคู่เพิ่มประโยชน์ ให้อาหาร – Portion control: การควบคุมปริมาณให้เหมาะกับความต้องการของร่างกาย – Meal planning: การจัดมื้ออาหารให้สมดุล เช่น มื้อกลางวันกินเต็มที่ มื้อเย็นควรลดปริมาณลง

ความพยายามผลักดันของ Nestlé นำไปสู่ส่วนที่ 3 นั่นคือการแสดงจุดยืนเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย และแบรนด์ Nestlé พร้อมสนับสนุนให้คนไทยแข็งแรงอย่างยั่งยืน

 

 

ที่สุดแล้ว ทั้ง 3 ส่วนผสมพิเศษของแคมเปญนี้ช่วยสร้างการรับรู้ได้ว่าแบรนด์ Nestlé ไม่ได้เป็นแค่แบรนด์ที่นำเสนออาหารและเครื่องดื่มเท่านั้น แต่มีการแนะนำวิธีง่ายๆ ในการเลือกกินให้ดีต่อใจและได้สุขภาพมากขึ้น แสดงถึงพันธกิจและมุมมองต่อความต้องการให้คนไทยได้เริ่มเปลี่ยนแปลงทีละน้อยอย่างแท้จริง ใครที่อยากเริ่มเปลี่ยนคำเล็กๆ เพิ่มสิ่งดีๆ ในมื้ออาหาร สามารถคลิกไปชมภาพยนตร์โฆษณาใหม่จาก Nestlé เพื่อลงมือปรับทีละเล็กทีละน้อย และเข้าสู่วงการกินอยู่อย่างสมดุลในทุกวันกับ “คำเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่” ของทุกคน