การสร้างแบรนด์หรือเปิดบริษัททำธุรกิจอาจจะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคนสมัยนี้ แต่การสร้างแบรนด์ให้มีความมั่นคงเป็นเรื่องยากมากกว่า ดังนั้นเราจึงเห็นว่าแบรนด์ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี และได้รับความยอมรับจากผู้คนมีจำนวนไม่มากนัก ยิ่งในยุคของดิจิทัล หลายๆแบรนด์ก็ล้มหายจากไปก็มี แต่หนึ่งในแบรนด์ที่ทรงคุณค่าและเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจผู้บริโภคมาโดยตลอด มีอายุมากกว่า 150 ปี ทั่วโลก และกว่า 125 ปีในประเทศไทยที่เราอยากจะพูดถึงตรงนี้คือแบรนด์เนสท์เล่ (Nestlé)
เนสท์เล่ (Nestlé) เป็นบริษัทอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 2,000 แบรนด์ ทั้งแบรนด์ที่มีชื่อเสียงชั้นนำระดับโลก และแบรนด์ท้องถิ่นที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค โดยมีจำหน่ายมากถึง 191 ประเทศทั่วโลก และเพื่อให้เข้าใจอย่างท่องแท้ถึงแบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกว่า เพราะอะไรที่ทำให้เนสท์เล่ถึงยังครองใจผู้บริโภคมาตลอด นั่นเป็นเพราะเนสท์เล่มี Nestlé Purpose หรือเจตนารมณ์ของเนสท์เล่ ซึ่งคือ “การเพิ่มพูนคุณภาพชีวิต เสริมสร้างสุขภาพดีสู่อนาคต” (Enhancing quality of life and contributing to a healthier future) ที่ใช้เป็นหลักปฏิบัติเหมือนกันทั่วโลก และเป็นทิศทางสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจของเนสท์เล่ ซึ่งเจตนารมณ์ของเนสท์เล่นั้น มุ่งเน้นไปที่ 3 กลุ่มหลักสำคัญ ได้แก่ เพื่อผู้คนและครอบครัว (For Individual and family) เพื่อชุมชน (For Community) เพื่อโลกของเรา (For Planet)
หากเราจะมาดูกันถึงกลุ่มแรกให้ลึกลงไป ก็จะพบว่าเนสท์เล่ได้จัดกิจกรรมต่างๆ อย่างเป็นแนวทางชัดเจนเพื่อให้สอดรับกับการทำเพื่อผู้คนและครอบครัว โดยเป็นเจตนารมณ์ของเนสท์เล่ ที่มุ่งมั่นให้ผู้คน มีชีวิตที่มีความสุขกายและสบายใจยิ่งขึ้น ผ่านแนวทางสำคัญๆ เช่น มอบทางเลือกด้วยผลิตภัณฑ์ที่อร่อยขึ้น และดีต่อสุขภาพให้ผู้บริโภค จุดประกายให้ผู้คนใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี และสร้างเสริมแบ่งปันความรู้ทางโภชนาการ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าเนสท์เล่ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ลดน้ำตาลออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ เครื่องดื่มไมโล สูตรแอคทิฟ-โก ที่ลดน้ำตาลลง 30% เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู ที่ลดน้ำตาลลง 25% และเนสกาแฟ แบล็ค ไอซ์ กาแฟดำกระป๋องพร้อมดื่มที่มีจุดเด่นของน้ำตาลน้อย และให้พลังงานเพียง 50 กิโลแคลอรี่ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เสริมธาตุเหล็กมากขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์นมตราหมี ยูเอชที
นางสาวพัทนัย เหลืองตระกูล ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เนสท์เล่ ในฐานะผู้นำด้านโภชนาการเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี เรามุ่งมั่นที่จะเพิ่มพูนคุณภาพชีวิตให้กับผู้บริโภค เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีสุขภาพดีในระยะยาว ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่อร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการ โดยทุกๆ ผลิตภัณฑ์จะต้องผ่านเกณฑ์โภชนาการของเนสท์เล่ เพื่อให้มั่นใจในโภชนาการที่เหมาะสม และรสชาติที่อร่อย โดยเราพยายามผนวกรวมความรู้ความชำนาญด้านโภชนาการและเทคโนโลยีเข้ากับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเรา เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการและมีรสชาติอร่อย
และนอกจากสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพแล้ว สิ่งสำคัญอีกประการคือ ต้องจุดประกายผู้คนให้ใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพที่ดีด้วย โดย เนสท์เล่ ได้จัดกิจกรรมมากมาย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้มีคุณภาพ อาทิ โครงการ “ไมโล ฟุตซอล 2017 Road to Barcelona” เป็นการแข่งขันฟุตซอลสำหรับเด็กและเยาวชนรายการใหญ่ที่สุดในไทย จัดขึ้นต่อเนื่องตลอด 8 ปี เพื่อส่งเสริมด้านโภชนาการ และการออกกำลังกายที่เหมาะสมให้แก่เด็กและเยาวชนไทย นอกจากนี้ ทางเนสท์เล่ยังได้ร่วมมือกับสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลน่า เพื่อส่งเยาวชนนักเตะรุ่นเยาว์ไปฝึกอบรมที่สโมสรบาร์เซโลน่าอีกด้วย
และสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกในวัย 3-12 ปี “โครงการรวมพลังเพื่อเด็กสุขภาพดี (United for Healthier Kids)” นับเป็นโครงการที่เหมาะสำหรับการจุดประกายพ่อแม่และผู้มีส่วนร่วมในการดูแลเด็กๆ ให้แข็งแรง โดยปลูกฝังสุขนิสัยที่ดีในการรับประทาน เช่น ทานอาหารให้หลากหลาย เพิ่มผักผลไม้ เลือกดื่มน้ำเปล่า และขยันขยับเคลื่อนไหวร่างกายให้มากขึ้น พร้อมสร้างสรรค์ “มื้ออาหารของฮีโร่” (Hero Meal) เครื่องมือที่ช่วยกระตุ้นการปรับเปลี่ยนและปลูกฝังพฤติกรรมที่พึงประสงค์เหล่านี้ เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีสุขภาพแข็งแรงอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ในฐานะองค์กรที่มีองค์ความรู้ด้านโภชนาการ เนสท์เล่ยังแบ่งปันความรู้ทางโภชนาการต่างๆ ที่ดี เผยแพร่ไปสู่บุคคลและองค์กรภายนอกอีกด้วย ผ่านทางกิจกรรมและแคมเปญต่างๆ เช่น เนสท์เล่คาราวานครอบครัวแข็งแรง ไปตามหลายจังหวัดทั่วประเทศซึ่งจัดต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 10 แล้ว และในแต่ละปีสามารถเข้าถึงชุมชนในต่างจังหวัด กว่า 1,00 ครั้ง ซึ่งในแต่ละครั้งจะมีคนในจังหวัดนั้นๆ เข้าร่วมงานกว่า 3,000 – 4,000 คน โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือการให้ความรู้ทางโภชนาการ และการมีสุขภาพที่ดี เช่น การสอนการอ่านฉลากโภชนาการ เพื่อให้พวกเขาเข้าใจถึงอาหารที่ตัวเองรับประทาน รวมทั้งอาหารที่ต้องเตรียมให้คนในครอบครัว ซึ่งถือเป็นการติดอาวุธให้กับผู้บริโภคชาวไทย
และนี่คือส่วนหนึ่งของการดำเนินตามเจตนารมณ์ของเนสท์เล่ ซึ่งอย่างที่เราเห็น เนสท์เล่ไม่ได้แค่ตั้งปณิธานสวยๆ แต่ยังมุ่งมั่น และที่สำคัญคือลงมือทำอย่างจริงจัง เพื่อนำไปสู่จุดมุ่งหมายใหญ่ในอนาคตในปี 2030 ที่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งคือ 1. จะช่วยให้เด็ก 50 ล้านคนทั่วโลกมีสุขภาพดีขึ้น 2. ช่วยให้ผู้คน 30 ล้านคนทั่วโลกที่อาศัยอยู่ในชุมชน สามารถประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน และ 3. มุ่งมั่นที่จะทำให้ธุรกิจ ไม่สร้างผลกระทบใดๆ ต่อสิ่งแวดล้อม
เป็นเรื่องน่าชื่นชมที่องค์กรใหญ่ให้ความสำคัญ ทั้งคุณภาพชีวิตของผู้คน ชุมชน และสิ่งแวดล้อม และนี่คือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เนสท์เล่ เป็นองค์กรที่ผู้คนเชื่อมั่น และยอมรับไปทั่วโลก
Copyright © MarketingOops.com
