NESCAFÉ Gold Crema เปิดตัว ‘แจ็คสัน หวัง’ Brand Ambassador ระดับ world-class ได้ใจ ‘สะใภ้หวัง’

  • 27.6K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

 

กลยุทธ์การใช้ Brand Ambassador ทำการตลาด แม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้ประสบความสำเร็จได้ หัวใจสำคัญแน่นอนคือการเลือกผู้ที่จะมาเป็น Brand Ambassador ซึ่งต้องสามารถสะท้อนตัวตนของแบรนด์ออกมาได้อย่างแจ่มชัด ซึ่งหลายแบรนด์นิยมเลือกศิลปินดาราชื่อดังที่มีภาพลักษณ์ตรงกับแบรนด์มากที่สุด เพราะนอกจากจะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้โดดเด่นขึ้นแล้ว มากไปกว่านั้นก็ยังช่วยดึงฐานแฟนคลับมาสร้างโอกาสต่างๆ ให้กับแบรนด์ได้ด้วย

อีกหนึ่งเคสที่เรียกว่าประสบความสำเร็จและกลายเป็นเคสตัวอย่างของการใช้กลยุทธ์ Brand Ambassador ที่พร้อมกับการรู้จักที่จะใช้ข้อได้เปรียบของฐานแฟนคลับที่แน่นปึกของศิลปินได้อย่างรู้ใจและเข้าใจเป็นอย่างดี จนได้รับคำชื่นชมจากหลายฝ่าย ได้แก่งาน ‘The Finest Moment with Jackson Wang’ ซึ่งเป็นงานการเปิดตัว ‘แจ็คสัน หวัง’ (Jackson Wang) ในฐานะ แบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างเป็นทางการของ ‘เนสกาแฟ โกลด์ เครมมา’ (NESCAFÉ Gold Crema) ที่สำคัญ เรามองว่าเป็นหนึ่งอีเวนต์ที่สามารถยกเป็นตัวอย่างของการจัดงานที่เรียบร้อยและได้ใจแฟนคลับไปอย่างเต็มๆ

มากไปกว่านั้น ต้องบอกว่า ในการจัดงานนี้ได้ยกระดับขึ้นเป็นอีเวนต์คุณภาพระดับ world-class ที่ยิ่งใหญ่ สมมงกับแบรนด์กาแฟ Premium Segment ซึ่งก็คือ ‘เนสกาแฟ โกลด์ เครมมา’ ที่มีความพิเศษอยู่ที่กาแฟผงละเอียดสีทองและฟองเครมมา สุดหรู สร้าง Finest Moment ให้คอกาแฟได้ชัดเจน ทั้งหมดนี้เสริมให้อีเวนต์นี้มีพลังและอิมแพ็คอย่างมาก

 

 

ปฏิเสธไม่ได้ถึงกระแสความร้อนแรงของ ‘แจ็คสัน หวัง’ ที่กลายเป็นขวัญใจคนไทยแทบทุกคนไปแล้ว อย่างไรก็ตาม หนึ่งในอีเวนต์ที่เมื่อกล่าวถึงการเปิดตัว ‘พี่แจ็ค’ ในเมืองไทย จะต้องมีงาน ‘The Finest Moment with Jackson Wang’ ของ เนสกาแฟ โกลด์ เครมมา ยืนหนึ่งตราตรึงในความทรงจำของทุกคน และถึงแม้จะมีอุปสรรคใหญ่กับการที่ฟ้าฝนที่ไม่ค่อยเป็นใจ แต่ก็สำเร็จและลุล่วงไปด้วยดี ที่สำคัญ ยังได้รับคำชื่นชมจากแฟนคลับเหล่าอากาเซ่ว่าทีมจัดงานน่ารักแสนดีเหมือน ‘พี่แจ็ค’ สร้างค่ำคืนเปี่ยมสุขได้ดั่งใจสมแล้วกับคำว่า ‘The Finest Moment’

เริ่มตั้งแต่การรันคิวในช่วงเช้า มีการจัดคิวแถวให้แฟนคลับในแบบใครมาก่อนได้เลือกที่นั่งก่อน (First come first serve) และสามารถเลือกโซนได้ว่าอยากอยู่โซนซ้ายหรือโซนขวา มีการจัดแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีการแย่งที่นั่งกัน โดยทีมงานเน้นการจัดงานที่ทำให้ทุกคนได้ร่วมประสบการณ์สุดพิเศษในแบบเข้าถึงอย่างเท่าเทียม

พร้อมติด wristband ให้ทั้งสองโซน ทำให้ไม่ต้องแออัดตากแดดรออยู่ด้านนอก และแฟนคลับยังรู้สึกผ่อนคลายสามารถทำกิจกรรมอย่างอื่นได้ในระหว่างที่รอพบกับศิลปิน นอกจากนี้ ตัว wristband และการแสตมป์ยังมีการติดป้ายชื่อเอาไว้เพื่อจับจองพื้นที่ ซึ่งจุดนี้ยังทำให้ง่ายต่อการติดตามหาตัวเพื่อเชิญมาร่วมกิจกรรมต่างๆ ในงานด้วย

 

 

อีกจุดที่สะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับผู้เข้าร่วมงานคือ เนื่องจากอากาศเมืองไทยที่ร้อนอบอ้าวแต่ทีมจัดงานทราบดีถึงความอดทนอุตสาหะของแฟนคลับที่ไม่ว่าอากาศจะเป็นอย่างไรก็ยินดีที่จะรอคอยที่จะพบศิลปินอย่างใจจดใจจ่อ ดังนั้น ทางทีมงานจึงได้จัดเตรียมน้ำ ผ้าเย็น และเปิดพัดลม ดูแลแฟนคลับอย่างดีเพื่อให้ได้รับความสะดวกสบายมากที่สุด

เรียกได้ว่าทุกๆ โมเมนต์คือการทำงานที่ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ทีมงานให้ความสำคัญกับกลุ่มแฟนคลับอย่างมาก จนได้ใจพวกเขาไปอย่างเต็มๆ

 

 

ไม่เพียงแค่นั้น พิเศษสุดกับการสร้างประสบการณ์สุดประทับใจให้กับเหล่าอากาเซ่ ทางทีมผู้จัดยังได้จัดเตรียมสิ่งพิเศษสุดๆ กับ 5 เมนูที่แค่ชื่อก็ทำเอาใจสั่นไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น เมนู P’Jack In Paradise หรือในงานใช้ชื่อว่า Finest in paradise กาแฟผสมมะพร้าว หอมกลิ่นมะพร้าวหวานกำลังพอดี, เมนู Saphai Wang หรือในงานใช้ชื่อ Finest Pleasure เป็นกาแฟผสมลิ้นจี่ รสชาติหวานอมเปรี้ยวมีกลิ่นลิ้นจี่ผสมมะกรูดเบาๆ ดื่มแล้วให้ความรู้สึกเฟรช แล้วยังมีเมนูอื่นๆ อีก อย่าง เมนู P’Jack So Hot, เมนู P’Jack So Cool และ เมนู P’Jack Lamoon Gern Pui Mui ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่ใช้ ‘เนสกาแฟ โกลด์ เครมมา’ ในการสร้างสรรค์กาแฟชั้นเลิศ หอมอร่อยพรีเมียม พร้อมฟองเครมมาสีทองหรูหรา นุ่ม รสชาติกลมกล่อม พิเศษไม่แตกต่างจากความแสนดีของ ‘พี่แจ็ค’ ของแฟนๆ ทุกคน

 

 

และแล้วความท้าทายก็มาเยือนทีมงาน เมื่อฝนฟ้ากระหน่ำตกอย่างหนัก ในระหว่างที่การจัดงานเดินทางมาได้แค่ครึ่งทางเท่านั้น ซึ่งตัวของ “แจ็คสัน หวัง” ก็มีสปิริตสูงมากยืนยันที่จะดำเนินงานต่อให้จบ เพราะทราบดีว่าทุกคนมาเพื่อต้องการร่วมสร้างประสบการณ์ที่ดีไปกับเขา และทีมงานก็เตรียมความพร้อมอย่างดี จัดมอบร่มให้กับผู้ร่วมงานทุกคน และพยายามเดินหน้าจัดงานต่ออย่างกระชับฉับไว ประคองงานให้ออกมาดีที่สุด เพื่อให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

 

 

ซึ่งทั้งหมดนี้ ต้องชื่นชมสปิริตของทุกฝ่าย ตั้งแต่ศิลปิน Brand Ambassador, พิธีกร, คณะผู้บริหาร และที่ขาดไม่ได้เลยคือกลุ่มผู้ชมแฟนคลับทุกคน ที่มาร่วมงาน จนสร้างโมเมนต์สุดประทับใจให้เกิดขึ้น สมแล้วกับการเป็นค่ำคืน ‘The Finest Moment’

 

Brand Take away

สรุปสิ่งที่เรามองว่าแบรนด์สามารถเรียนรู้ได้จากงาน ‘The Finest Moment with Jackson Wang’ คือการเลือก Brand Ambassador ที่สามารถสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์และ Product ออกมาได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงการศึกษาและเข้าใจในความต้องการของแฟนคลับอย่างลึกซึ้งก่อนการจัดงาน บวกกับ Product ที่มีคุณภาพยิ่งเสริมให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์และลงตัว ซึ่งในที่สุดแล้ว แบรนด์ก็เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคได้ไม่ยากเลย

และแน่นอนปฏิเสธไม่ได้ว่าทางแบรนด์เองก็มองเรื่องการสร้างโอกาสทางธุรกิจจากฐานแฟนคลับขนาดใหญ่ของศิลปิน ที่ไม่เฉพาะแค่เมืองไทยแต่มีทั่วโลกเลย ซึ่งพร้อมที่เปิดใจให้กับแบรนด์ที่ศิลปินในดวงใจของพวกเขาได้มาเป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากสิ่งนี้ นอกจากจะส่งเสริมภาพลักษณ์ให้แบรนด์ไปสู่ระดับ world-class แล้ว ยังเพิ่มโอกาสให้แฟนคลับที่อาจจะยังไม่เคยลิ้มลองรสชาติของ NESCAFÉ Gold Crema ด้วยคุณภาพสินค้า ทำให้เกิดความรู้สึกชื่นชอบตัว Product บวกกับความประทับใจในการจัดงานที่เรียบร้อยอย่างยอดเยี่ยม ก็สร้างความประทับใจให้กับแบรนด์ด้วย ยังไม่นับการที่บรรดาแฟนคลับจะชักชวนบอกต่อกับคนใกล้ตัวถึงความดีงามต่างๆ ของทั้งแบรนด์และ Product เรียกว่า เพียงแค่งานเดียว แต่ NESCAFÉ Gold Crema ก็สามารถเพิ่มวาลูได้ทั้ง Branding และสร้างโอกาสในการเพิ่มยอดขายไปพร้อมกันด้วย

 

 

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะแบรนด์มีความเข้าใจในการหยิบใช้กลยุทธ์ Brand Ambassador ที่ยอดเยี่ยม และทำงานกับกลุ่มแฟนคลับอย่างถูกต้องและเข้าใจ เราจึงขอยกให้เป็นหนึ่งในเคสที่ดีที่แบรนด์ควรศึกษาหากกำลังเล็งที่จะใช้ กลยุทธ์ Brand Ambassador บ้าง

ส่วนถ้าใครที่อ่านแล้วรู้สึกอยากจะลองสัมผัสรสชาติสุดพิเศษของ NESCAFÉ Gold Crema ก็สามารถไปหาซื้อลองดื่มด่ำกับรสชาติชั้นเลิศกันได้ตามร้านค้าชั้นนำทั่วไป

 


  • 27.6K
  •  
  •  
  •  
  •