ใช้น้ำโฆษณาบ้านหรู!? เปิดกรณีศึกษา “แสนสิริ” สื่อสารคุณค่าแบรนด์ลักชัวรี่แบบฉีกกรอบ เพื่อรีเฟรชแบรนด์ “นาราสิริ” ในรอบ 10 ปี

5.9K

กูรูในวงการย้ำเสมอว่าสิ่งที่ทุกธุรกิจต้องทำนั้นไม่ได้มีเพียงแค่การขายหรือทำการตลาด แต่เป็นการสร้างแบรนด์ ที่ไม่ว่าจะใช้เงินมหาศาลหรือใช้เวลานานเท่าใด ธุรกิจก็ไม่ควรละเลย เพราะการสร้างแบรนด์ คือการสื่อสารถึงคุณค่าของแบรนด์ ซึ่งเมื่อสามารถสื่อสารถึงคุณค่าได้ชัดเจน ก็จะเป็นการให้เหตุผลว่า “ทำไมลูกค้าต้องเลือกเรา”

ด้วยความสำคัญนี้เอง ทำให้แสนสิริพาแบรนด์ “นาราสิริ” มาทำความรู้จักกับกลุ่มทาร์เก็ตในปี 2022

เป็นเรื่องน่าสนใจที่ควรหยิบมาวิเคราะห์ในเชิงการตลาด เนื่องจากเมื่อมองให้ลึกแล้ว นี่คือกรณีศึกษาการรีเฟรชแบรนด์ชั้นครู ที่มีการตีโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแบบฉีกกรอบ คู่กับการคิด Execution รูปแบบใหม่ตามเทรนด์โลก ทั้ง Hermes, Louis Vuitton, Mercedes Benz, Omega, และ Bvlgari ซึ่งเป็น high brand ระดับโลกล้วนพยายามถ่ายทอดคุณค่าของแบรนด์ด้วยคอนเซ็ปท์ใหม่แนวฉีกกรอบนิยามลักซ์ชัวรี่แบบเดิมโดยสิ้นเชิงกันถ้วนหน้า

นาราสิริ เป็นแบรนด์โครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์แรกของแสนสิริ ที่มีการเดินทางมากว่า 20 ปี และถูกพัฒนาอย่างภาคภูมิเป็น 1 ใน Sansiri Luxury Collection ในปีนี้ นาราสิริสามารถสื่อสารคุณค่าแบรนด์แบบที่ลูกค้าเป้าหมายในตลาดลักซ์ชัวรี่ไม่อาจปฏิเสธได้ นั่นคือคุณค่าเรื่องความละเอียด ปราณีตที่เกิดเป็น Brand Message ใหม่ “A Matter of Refinement : งดงามในรายละเอียด” ซึ่งถูกนำมาส่งต่อในโฆษณาชิ้นล่าสุดที่มีจุดขายเรื่องความละเมียดและแปลกใหม่ โฆษณานี้ถูกรังสรรค์ด้วยความละเอียดการเก็บภาพน้ำถึง 900 shots ต่อวินาที (ละเอียดกว่าสายตามนุษย์ถึง 36 เท่า) เกิดเป็นภาพยนตร์โฆษณาที่มี “น้ำ” เป็นตัวสื่อถึงนิยามความหรูหราและทรงคุณค่าครั้งใหม่ของนาราสิริ

เทรนด์โลกต้องฉีกกรอบ

การฉีกกรอบภาพยนตร์โฆษณาแบรนด์อสังหาฯ ด้วยการใช้ “น้ำ” เป็นตัวสื่อสารถึง “ความงดงามในรายละเอียด หรือ A Matter of Refinement” ของแบรนด์นาราสิริชวนให้นึกถึงก้าวใหญ่ของไฮเอนแบรนด์อย่าง Mercedes Benz ที่ใช้ “ไก่” เป็นตัวสื่อสารถึงความมหัศจรรย์ของระบบควบคุมตัวรถ จนเกิดเป็นโฆษณาน่ารักที่มีไก่หลายตัวมาเป็นแขกรับเชิญเพื่อสาธิตถึงความนิ่งของระบบ การฉีกกรอบครั้งนี้ทำให้ Mercedes มียอดวิวโฆษณานี้ทะลุ 2 ล้านในไม่กี่วัน เกิดการแชร์หลายแสนครั้งบนเฟซบุ๊ก และหลายพันครั้งบนทวิตเตอร์

นอกจาก Mercedes-Benz แล้ว แบรนด์แฟชั่นอย่าง Hermes ก็เคยใช้ม้าและนกเพื่อสื่อสารและโฆษณา Collection แห่งการเดินทาง หรือแม้แต่แบรนด์นาฬิกาอย่าง Omega ก็มักพาเราไปดื่มด่ำความงามใต้ท้องทะเลอยู่บ่อยครั้ง ถือว่าแสนสิริตีโจทย์ความลักซ์ชัวรี่ได้มาถูกทางและจับเทรนด์เดียวกันกับแบรนด์ในระดับสากล

การเลือกใช้ “น้ำ” มาจับเข้ากับ “บ้าน” ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ฉลาด เพราะ “น้ำ” เป็นสิ่งสำคัญของทุกชีวิต และมีรายละเอียดที่สลับซับซ้อนโดยธรรมชาติ ไม่ต่างจากบ้านที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกรายละเอียดในชีวิต

ผู้รับหน้าที่ถ่ายทำและร่วมตีความภาพยนตร์โฆษณาแบรนด์นาราสิริในรูปแบบใหม่ที่ล้ำสมัยครั้งแรก คือ ธนพล แก้วพริ้ง ช่างภาพชื่อดังอันดับต้นของไทยที่มีผลงานเด่นในเวทีโลก ทั้งผลงานจัดแสดงที่ Saatchi Gallery และการคร่ำหวอดในวงการภาพถ่ายยาวนานกว่า 18 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง Director และทำภาพเคลื่อนไหว Visual Art ที่ล่าสุดคอลแลปงาน 3D Visual กับศิลปินชาวเยอรมันเกิดเป็นโปรเจค NFT ที่สร้างชื่อ

สิ่งที่ธนพลทำคือการรังสรรค์ผลงาน Visual Art โดยให้ “น้ำ” ช่วยเล่าถึงความงดงามและความลักซ์ชัวรี่ของโครงการนาราสิริ มีการใช้เทคนิคการเก็บภาพการเคลื่อนไหว การตกกระทบของน้ำผ่านแสงสะท้อน ถ่ายทำด้วยกล้องความละเอียดสูงถึง 900 shot ต่อวินาที เทียบกับสายตามนุษย์ที่สามารถมองเห็นภาพได้มากที่สุดเพียง 25 shot ต่อวินาที (ละเอียดกว่า 36 เท่า) เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสช่วงเวลาแห่งความงดงามที่สุด และเป็นการถ่ายทำขึ้นใหม่ทั้งหมด ปราศจากการทำ Computer Graphic

รายละเอียดสุดละเมียด

สิ่งที่สัมผัสได้ชัดจากโฆษณาชิ้นนี้คือการสะท้อนให้เห็นถึงรายละเอียด ความละเมียดละไม ความเรืองรองผ่านการเคลื่อนตัวของมวลน้ำ การตกกระทบที่ก่อให้เกิดรัศมีเปล่งประกาย กลายเป็นความงดงามตามธรรมชาติที่เปี่ยมไปด้วยพลัง ซึ่งเป็นนัยยะที่แบรนด์ต้องการเน้นย้ำและสื่อถึงเรื่องความงดงามในทุกๆ รายละเอียดของการพัฒนาโครงการที่ผ่านกระบวนการคิด ออกแบบ พัฒนา และรังสรรค์แบบละเมียดละไม ใส่ใจในรายละเอียดทุกมิติ ต่อยอดสู่เรื่องราวในบทใหม่ของแบรนด์ “นาราสิริ” ภายใต้ Brand Message ว่า “A Matter of Refinement งดงามในรายละเอียด”

ซึ่งความงดงามในรายละเอียดนี้ เกิดจากความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในทุกๆ ด้าน ทั้งไลฟ์สไตล์ ความต้องการของลูกค้า ผสมผสานกับประสบการณ์ของแสนสิริที่มีมากว่า 38 ปี และ 3 ปรัชญาหลักของการพัฒนาโครงการภายใต้ของ Sansiri Luxury Collection ซึ่งได้แก่

Sophisticated Design : งานดีไซน์ชั้นเยี่ยมที่เปี่ยมด้วยรสนิยม
การออกแบบและดีไซน์โครงการที่เป็นไม่ใช่แค่คำว่างดงาม แต่เป็นการนำเอาเรื่องราว ประสบการณ์ และไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยในทุกรายละเอียด มาถ่ายทอดสู่การออกแบบโครงการ ที่จะคงไว้ซึ่งความสง่างามในทุกยุคสมัย เพื่อให้เกิดการส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ได้อย่างเต็มภาคภูมิ
State of the art materials : ความพิถีพิถันในการคัดสรรวัสดุคุณภาพชั้นยอด
คุณภาพ คือ สิ่งที่สำคัญที่สุด แสนสิริจึงคัดสรรทุกวัสดุอย่างพิถีพิถัน ภายใต้มาตรฐานระดับเวิลด์คลาส ทุกองค์ประกอบถูกสร้างสรรค์อย่างประณีต เพื่อให้แน่ใจว่าทุกรายละเอียด จะอยู่ทรงคุณค่าเหนือกาลเวลา
Unparalleled living experience: ประสบการณ์การพักอาศัยที่เหนือระดับ

เพื่อประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีที่สุด สิ่งที่แสนสิริให้ความสำคัญนอกจากบริการชั้นเลิศแล้ว ยังรวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัยที่เหนือมาตรฐาน ท่ามกลางสังคมคุณภาพ ที่พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย เพื่อให้ทุกช่วงเวลา กลายเป็นความทรงจำที่ดีที่สุด

นอกจากนี้ อีกสิ่งที่มีอิทธิพลถึงความละเอียดของนาราสิริ ยังอยู่ที่ฐานแนวคิด #YOUAreMadeForLife ซึ่งแสนสิริประกาศเป็นพันธกิจต่อเนื่องว่า You หรือ “คุณ” ทุกคนคือแรงบันดาลใจของแสนสิริ ไม่ว่าจะสิ่งที่ “คุณชอบ” ผู้คนที่ “คุณรัก” หรืออะไรก็ตามที่มีความหมายทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ “คุณ” ได้กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นในการคิดของแสนสิริทั้งนั้น

ฐานแนวคิดนี้เป็นแรงหล่อหลอมอีกทาง ให้การกลับมาของนาราสิริมีความเป็นกรณีศึกษาเรื่องการรีเฟรชแบรนด์ที่ตีโจทย์การสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยให้ลงตัวกับไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิต ซึ่งแสนสิริยืนยันว่าได้ทำคู่ไปพร้อมกับการสร้างสังคมที่ดีอย่างยั่งยืน ทั้งหมดก็เพื่อให้ “คุณและครอบครัว” ที่ไม่ว่าจะอยู่ในบ้าน หรือนอกบ้าน สามารถมีความสุขได้อย่างแท้จริง ถือเป็นสื่อสารคุณค่าแบรนด์ที่ตลาดลักชัวรี่ไม่อาจปฏิเสธได้เลย

ที่สำคัญ แนวคิดของน้ำในโฆษณาใหม่ของนาราสิริ ยังได้ถูกถ่ายทอดผ่านภาพวาดศิลปะสีน้ำในตอนจบของโฆษณานี้ด้วย ซึ่งเป็นภาพวาดโครงการ นาราสิริ ทั้ง 2 โครงการ นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา และ นาราสิริ พหล-วัชรพล เป็นการทิ้งท้ายงานขายในโฆษณาแบบชัดขึ้น ด้วยความงดงามของบ้านนาราสิริทั้ง 2 โครงการที่เตรียมพร้อมเผยโฉมในอีกไม่นานเกินรอ.

ตลอดจนการไหลรวมและการส่งต่อของวิถี เวลา และประสบการณ์ที่ผสานรวมเป็นความงดงามของชีวิต เพื่อต่อยอดสู่เรื่องราวในบทใหม่ ที่จะยังคงความหมายไม่เปลี่ยนแปลง