อุตสาหกรรมหนังไทยปี 61 สดใส ได้อานิสงค์ ‘นาคี 2’ แผลงฤทธิ์ คาดเป็นหนังรายได้ทะลุ ‘พันล้าน’ ในรอบ 5 ปี

  • 4.9K
  •  
  •  
  •  
  •  

หลังจากซบเซามานาน ในปีนี้อุตสาหกรรมหนังไทยในบ้านเราจะกลับมาสดใส โดยเหตุผลหลัก ๆ คือ ได้รับอานิสงค์จากความแรงของ ‘นาคี 2’ ที่คาดว่า จะเป็นหนังไทยที่ทำรายได้แตะพันล้านบาท ในรอบ 5 ปี ซึ่งนอกจากเข้าฉายในไทยแล้ว ยังมีการนำไปฉายในหลายประเทศแถบ AEC และล่าสุด ‘เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย’ ได้ซื้อสิทธิ์แบบ All right เพื่อนำไปขายในประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกแล้ว

นาคี2

ตั้งแต่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันแรกในวันที่ 18 ต.ค. 2561 นาคี 2 ได้ทำลายสถิติที่ ‘พี่มากพระโขนง’ หนังไทยที่โกยรายได้ไประดับพันล้านบาทของค่ายจีทีเอชในขณะนั้น ซึ่งออกฉายในปี 2556 ไว้หลาย ๆ สถิติ โดยทำลายสถิติทำรายได้สูงสุดตั้งแต่เข้าฉายวันแรกที่ 50 ล้านบาท ขณะที่พี่มากพระโขนงทำรายได้ไปกว่า 21 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังครองสถิติหนังไทยที่รายได้ทะลุร้อยล้านบาทได้เร็วที่สุด คือ ใช้เวลาเพียง 2 วัน ส่วนปัจจุบันรายได้ตั้งแต่วันที่ 18-21 ต.ค.2561 กวาดไปแล้ว 200 ล้านบาท ทำให้มีการคาดการณ์ว่า หนังเรื่องนี้ จะเป็นหนังเรื่องแรกในรอบ 5 ปีที่ทำรายได้แตะพันล้านบาท หลังจากพี่มากพระโขนงเป็นหนังไทยเรื่องล่าสุดที่ทำได้

“ปกติหนังแต่ละเรื่องจะเข้าฉายประมาณ 8 สัปดาห์ นาคี 2 ตั้งเป้ารายได้ในไทยไว้ 500 ล้านบาท แต่ผ่านไปประมาณ 4 วัน นาคี 2 ทำรายได้ไป 200 ล้านบาท ทำให้เชื่อว่า จะทำรายได้ที่พันล้านบาทได้” พรชัย ว่องศรีอุดมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด(มหาชน) กล่าว

FG_26883

คอนเทนท์กลยุทธ์การตลาด ความสำเร็จ นาคี 2’

ความสำเร็จของ ‘นาคี 2’ มีการวิเคราะห์ว่า เกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเพราะเป็นการนำคอนเทนท์ดัง ซึ่งเป็นละครก่อนหน้านี้มาต่อยอดในรูปแบบของหนัง (มีข่าวแว่ว ๆ ว่า ละครบุพเพสันนิวาส จะเป็นคอนเทนท์เรื่องต่อไปที่จะถูกนำมาสร้างเป็นหนัง)

รวมถึงนำดาราคู่ขวัญ อย่าง ‘ณเดชน์ คูกิมิยะ’ และ ‘อุรัสยา เสปอร์บันด์’ มาสวมบทพระนาง ร่วมด้วยสองพระนางจากนาคีภาคแรก คือ ‘ณฐพร เตมีรักษ์’ และ ‘ภูภูมิ พงศ์ภาณุภาค’

นอกจากนี้ยังมีการวางกลยุทธ์ทางการตลาดไว้อย่างครบเครื่อง ตั้งแต่การวางช่วงเวลาในการเข้าฉาย ที่เลือกเดือน ต.ค. เนื่องจากใกล้เทศกาลออกพรรษา ที่จะมีปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สามารถเชื่อมโยงความเชื่อกับตัวหนังได้

รวมไปถึงมีการสื่อสารและโปรโมทผ่านสื่อทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยการมีพาร์ทเนอร์อย่างช่อง 3 ที่มีสื่อในมือมากมาย ทั้งทีวีดิจิทัล , สื่อดิจิทัล , สื่อวิทยุ และการจัดอีเว้นท์ต่าง ๆ ทำให้ได้เปรียบในการสร้างกระแสการรับรู้และกระตุ้นความสนใจได้เป็นอย่างดี

‘เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย’ ซื้อสิทธิ์ขายทั่วโลก

5อันดับหนังไทย1

นาคี 2 นอกจากจะเข้าฉายในไทยแล้ว ยังมีการนำไปฉายในประเทศแถบ AEC โดยทางเอ็ม พิเคเจอร์ เป็นผู้ทำหน้าที่จัดจำหน่าย เข้าฉายแล้วที่ลาว ซึ่งกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ทุบสถิติหนังที่ทำรายได้เปิดตัวสูงสุดในลาว ด้วยการทำรายได้ในวันแรกไป 31,000 เหรียญสหรัฐ

ส่วนเดือน ธ.ค.นี้เตรียมเข้าฉายที่กัมพูชา  และขณะที่ทางบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด(มหาชน) ได้ซื้อสิทธิ์แบบ All right เพื่อนำไปขายในประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกแล้ว

“ภาพรวมของหนังไทยช่วง 5 ปีที่ผ่านมาสวิงมาตลอด ส่วนปีนี้มีการเติบโตเป็นเท่าตัว มีราว 3,000 ล้านบาท มีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นเป็น 22% จากปีที่ผ่านอยู่ที่ 11% หลัก ๆ มาจากอานิสงค์ความแรงของนาคี 2 และหนังไทยเรื่องอื่นๆ ที่กำลังเข้าฉายใน Q4 อาทิ โฮมสเตย์ , และโนราห์ ที่คาดว่าจะทำรายได้เกินร้อยล้านบาท”

5อันดับหนังไทย2

สำหรับหนังไทยที่ทำรายได้สูงสุดในปี 2561 อันดับ 2 ได้แก่ น้อง พี่ ที่รัก ทำรายได้ไป 244 ล้านบาท อันดับ 3 ไบค์แมน ศักรินทร์ ตูดหมึก 142 ล้านบาทอันดับ 4 ขุนพันธ์ 2 รายได้ 125 ล้านบาท และอันดับ 5 ได้แก่ 9 ศาสตรา 111 ล้านบาท

ขณะที่จำนวนหนังไทยที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์นั้น พบว่า ปี 2559 มีจำนวน45 เรื่องปี 2560 จำนวน 48 เรื่องปี 2561 จำนวน 43 เรื่อง

 


  • 4.9K
  •  
  •  
  •  
  •