ถอดสูตรสำเร็จ MOVIE MARKETING จับตาบิ๊กแบรนด์แห่ทำกิจกรรมการตลาดกับโรงภาพยนตร์

  • 1.1K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

พูดได้เต็มปากของจริงว่าธุรกิจโรงภาพยนตร์ได้กลับมาคึกคักและเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2023 โดยเฉพาะในไตรมาส 4 ที่คอหนังเมืองไทยได้รับรู้ถึงกระแสนิยมของภาพยนตร์ไทยทั้งเรื่อง สัปเหร่อ, ธี่หยด และ 4 Kings2 ซึ่งสร้างปรากฏการณ์กวาดรายได้อย่างถล่มทลาย แต่ยังสร้างแรงกระเพื่อมให้กับวงการ MOVIE MARKETING ในไทยอย่างมีนัยสำคัญ

ความร้อนแรงของ MOVIE MARKETING ในปี 2024 นั้นเป็นผลต่อเนื่องจากปี 2023 โดยก่อนหน้านี้ สถานการณ์คึกคักของโรงภาพยนตร์ทำให้มีหลายแบรนด์สนใจมาร่วมทำกิจกรรมการตลาดกับโรงภาพยนตร์อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ซึ่งคาดว่าในช่วง 12 เดือนถัดจากนี้ โรงภาพยนตร์ก็จะยังคงหัวบันไดไม่แห้ง และมีภาพยนตร์ทั้งไทยและเทศที่น่าสนใจมากมายมาเข้าฉายตลอดทั้งปี ทำให้แบรนด์ต่างๆมองเห็นโอกาส และตัดสินใจร่วมทำกิจกรรมการตลาดกับโรงภาพยนตร์มากขึ้น

 

 

ปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะที่ผ่านมา การทำ MOVIE MARKETING ของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ นั้นมีกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จไม่น้อย ล่าสุดคือภาพยนตร์เรื่อง Aquaman 2 ซึ่งทาง เป๊ปซี่ ได้ร่วมกับ “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” ผู้นำความบันเทิงนอกบ้าน ในการทำกิจกรรมการตลาดผ่านภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ จนได้เสียงตอบรับเชิงบวกแบบถล่มทลาย

 

 

โรงภาพยนตร์คัมแบค เมเจอร์ฯกำไรกระฉูด

การสรุปว่าภาพรวมอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์ในปี 2023 ได้กลับมาคึกคักนั้นสามารถดูได้จากข้อมูล 2 ส่วน ส่วนแรกคือผู้เล่นหลักอย่างเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ที่มีกำไรเพิ่มหยุดไม่อยู่ และส่วนที่ 2 คือตัวเลขรายได้ของภาพยนตร์ไทยซึ่งเพิ่งถูกประกาศออกมา

หากอ้างอิงข้อมูลผลประกอบการ 9 เดือนแรก ปี 2023 เราพบว่าเมเจอร์ฯ มีรายได้มากกว่า 707 ล้านบาท หรือเติบโต 302% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะเดียวกัน กระแสภาพยนตร์ไทยในช่วง Q4/2023 ก็มีพลังในการโกยรายได้ไปมหาศาลเป็นประวัติการณ์ นั่นคือ “สัปเหร่อ” ที่ทำรายได้ไปกว่า 700 ล้านบาท, ‘ธี่หยด’ ทำรายได้กว่า 500 ล้านบาท รวมไปถึงเรื่อง ‘4 Kings ภาค 2’ ที่ทำรายได้กว่า 240 ล้านบาท

ภาวะท็อปฟอร์มนี้ผลักดันการใช้เม็ดเงินในสื่อโฆษณากับโรงภาพยนตร์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาก โดย 9 เดือนแรกของปี 2023 มี อัตราการเติบโตถึง 54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งการขยายตัวนี้นับรวมถึงกลุ่มบิ๊กเนมหลายแบรนด์ที่เริ่มหันมาให้ความสนใจในการทำ MOVIE MARKETING จนเกิดเป็นกิจกรรม การตลาดร่วมกับภาพยนตร์มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เหตุผลที่ทำให้ MOVIE MARKETING มีแนวโน้มสดใสมานานหลายปี คือข้อดีมากมายของการทำกิจกรรมการตลาดร่วมกับภาพยนตร์ โดยหลักพื้นฐานของกลยุทธ์นี้คือการมุ่งสร้าง Customer Experience ผ่านโรงภาพยนตร์ และภาพยนตร์ ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งในรูปแคมเปญการตลาด, ผลิตภัณฑ์คอลเลคชั่นพิเศษ, โปรโมชั่นสุดคุ้ม หรือสิ่งอื่นๆที่ทำให้ผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วมตลอดทั้ง Customer Journey

 

MOVIE MARKETING อิมแพคแรง Customer Engagement

หนึ่งในข้อได้เปรียบของ MOVIE MARKETING คือสร้างการรับรู้ให้กลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ได้รู้จักแบรนด์ โดยเฉพาะผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบการทำกิจกรรมนอกบ้าน ที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีร่วมกับแบรนด์ ทั้งในแง่ Customer Engagement และ Customer Experience ที่มีโอกาสส่งผลถึงยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างจับต้องได้

MOVIE MARKETING ยังมัดใจลูกค้าให้รักแบรนด์ สามารถสร้าง Impact ให้กับแบรนด์ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ซึ่งที่สุดแล้ว ลูกค้าจะเห็นแบรนด์มากขึ้น และพูดถึงแบรนด์มากขึ้นตามไปด้วย ทั้งบนช่องทาง Social Media ที่เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย ครอบคลุมทั่วประเทศ และบนช่องทางสาขาโรงภาพยนตร์

ปัจจุบัน สาขาของโรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์มีทั้งสิ้น 184  สาขา ครอบคลุม 63 จังหวัดประกอบด้วยกรุงเทพและปริมณฑล 5 จังหวัด และต่างจังหวัด 57 จังหวัด ซึ่งถือเป็นแต้มต่อในการพาแบรนด์เข้าไปมีส่วนร่วมกับโมเมนต์รับความบันเทิงของผู้ชมทุกกลุ่ม

 

 

หนึ่งในความสำเร็จที่เห็นได้ชัดคือ PEPSI ซึ่งทำ MOVIE MARKETING มาอย่างต่อเนื่อง และประสบความสำเร็จแทบทุกครั้ง โดยล่าสุด เป๊ปซี่ได้ร่วมกับเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ทำกิจกรรมการตลาดผ่านภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ส่งท้ายปีเรื่อง “Aquaman and The Lost Kingdom” ซึ่งมีการทำกิจกรรมแบบ 360 องศา ร่วมกับการทำ Co-Promotion ร่วมกับ 7-Eleven เพื่อเพิ่มยอดขาย PEPSI แบบกระป๋องได้อีกทาง

 

 

นอกจากนี้ ไฮไลท์ MOVIE MARKETING ในปีที่ผ่านมายังอยู่ที่การจัดกิจกรรม GALA เปิดตัวภาพยนตร์อย่างยิ่งใหญ่ที่ Quartier CineArt รวมถึงการจัดกิจกรรม On-Ground Experience ซึ่งเป็นการออกขบวนรถ Aquaman แจกความซ่าทั่วกรุงเทพฯ เช่น อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เยาวราช พารากอน สยาม และสีลม ทั้งหมดล้วนเป็นกิจกรรมที่ทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างแบรนด์และผู้ชม ช่วยเชื่อมต่อทางอารมณ์ พร้อมกับเพิ่มการรับรู้และการมองเห็นแบรนด์แบบรวดเดียว

อีกเคสที่ถือว่าน่าสนใจที่สุด คือการทำกิจกรรมการตลาด ที่โรงภาพยนตร์ Kids Cinema ซึ่งเป็น MOVIE MARKETING ที่เน้นกลุ่มเด็กและครอบครัว โดยสามารถทำกิจกรรมได้หลากหลายตั้งแต่กแจกตัวอย่างสินค้า การจัดทำ Worshop ต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดี หรือจะเป็นโปรโมชั่น Lucky Draw แจกรางวัล ซึ่งตอกย้ำได้ว่า MOVIE MARKETING ช่วยให้เกิดการเข้าถึงที่กว้างขวาง โดยเข้าถึงฐานผู้ชมที่หลากหลายมาก ๆ

ใครที่อยากสัมผัสการตอบโจทย์ Objective แบบหลายมิติให้แบรนด์ของ MOVIE MARKETING สามารถเข้าร่วมทำกิจกรรมการตลาดร่วมกับโรงภาพยนตร์เมเจอร์ฯ ได้ในปี 2024 ซึ่งเป็นปีที่จะมีภาพยนตร์ไทย, ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ และภาพยนตร์แอนิเมชั่นน่าสนใจหลาย เรื่องเข้าฉาย ไม่ว่าจะเป็น Dune Part 2 ,Godzilla x Kong : The New Empire ,Deadpool 3 ,Joker 2  ,Kingdom Of The Planet of The Apes ,Ghostbuster Frozen Empire ,Kung Fu Panda 4  ,Inside Out 2 ,Despicable me 4 และ Garfield

 

 

ปี 2024 จึงจะเป็นอีกปีทองของ MOVIE MARKETING ที่หลายแบรนด์สามารถลงทุนได้อย่างคุ้มค่า และใช้งบประมาณเหมาะสมแบบ Win Win Strategy อย่างแท้จริง.


  • 1.1K
  •  
  •  
  •  
  •