มูลค่าตลาดร้านอาหารในไทยกว่า 4.18 – 4.25 ล้านบาทในปี 2565 และคาดการณ์ว่าปี 2566 จะเติบโต 2.7 – 4.5% (อ้างอิงข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทย) พบว่าเซ็กเมนต์ที่มีการเติบโต และขยายตัวอย่างคึกคักคือ “ตลาดปิ้งย่าง” คาดการณ์มูลค่าตลาดกว่า 9,000 ล้านบาท
หนึ่งในปิ้งย่างที่คนไทยคุ้นเคยมายาวนาน และเป็นเมนูฮอตฮิตที่ได้รับความนิยมคือ “หมูกระทะ” สะท้อนได้จากในไทยมีร้านหมูกระทะจำนวนมากเปิดอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการรายย่อย และการเกิด hashtag #หมูกระทะจะเยียวยาทุกสิ่ง
วิเคราะห์ 6 เหตุผลทำไม “หมูกระทะ” ถึงเป็นเมนูฮิตของคนไทย ?!?
ปรากฏการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นหลังคลายล็อกดาวน์ในปี 2564 ที่ผ่านมาพบว่า ธุรกิจร้านปิ้งย่าง-หม้อไฟ เช่น ชาบู, สุกี้ กลับมาคึกคัก ซึ่งนอกจากร้านปิ้งย่างเกาหลี, ร้านปิ้งย่างญี่ปุ่นแล้ว ร้านปิ้งย่างสไตล์ไทยๆ อย่าง “ร้านหมูกระทะ” ก็มีลูกค้าต่อคิวไม่น้อย!
อันที่จริง “หมูกระทะ” แม้ไม่ใช่อาหารดั้งเดิมของไทย แต่เป็นอาหารที่เข้ามาอยู่กับสังคมไทยมาหลายสิบปีแล้ว จนอาจกล่าวได้ว่าทุกวันนี้ได้หลอมรวมกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอาหารการกินของคนไทยไปแล้ว
ทำไม “หมูกระทะ” ถึงเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมในคนไทย ? มาค้นคำตอบกัน
1. หมูกระทะตอบโจทย์การรับประทานแบบกลุ่มที่แบ่งปันกัน หรือ Sharing ระหว่างเพื่อน หรือครอบครัว อีกทั้งด้วยประเภทอาหารที่ล้อมวงกันรับประทาน และปิ้งย่างเนื้อ ทำให้เกิดกิจกรรมระหว่างการรับประทานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการปิ้งให้/คีบให้ และการพูดคุยกันในวงสนทนา
2. ความหลากหลายของวัตถุดิบ ทั้งเนื้อสัตว์ อย่างเนื้อหมู บางร้านมีการหมักหลายแบบ, ผัก ตลอดจนเมนูเสริมอื่นๆ ของร้าน และที่สำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับร้านหมูกระทะ คือ น้ำจิ้มสูตรเด็ดของแต่ละร้าน เป็นอีกหนึ่งแม่เหล็กดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการต่อเนื่อง
3. ราคาเข้าถึงง่าย มีตั้งแต่เซ็ตหลักกว่า 100 บาท, กว่า 200 บาท ไปจนถึงกว่า 500 – 600 บาท และบางร้านทำเป็นบุฟเฟต์ ทำให้หมูกระทะเป็นอาหารที่ใครๆ เข้าถึงได้ และครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มวัยรุ่น, วัยทำงาน และกลุ่มครอบครัว
4. เกิดร้านหมูกระทะจำนวนมากทั่วประเทศ โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายย่อยเปิดร้านหมูกระทะตามชุมชน และย่านต่างๆ ทำให้ผู้บริโภคสะดวกในการใช้บริการ
ประกอบกับในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ด้วยความที่การแข่งขันสูง และผู้บริโภคแสวงหาประสบการณ์ใหม่ตลอดเวลา ทำให้ผู้ประกอบการร้านหมูกระทะ ต้องพยายามหาจุดขายใหม่ที่นอกเหนือไปจากด้านอาหาร เพื่อสร้างความแตกต่าง และนำเสนอประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับลูกค้า เช่น สรรหาคอนเซ็ปต์ร้านรูปแบบใหม่ การตกแต่งบรรยากาศร้าน การเลือกโลเคชันเปิดบน Rooftop
5. พลัง Social Media สร้างกระแสหมูกระทะ เป็นเทรนด์อาหารสุดฮิตของคนไทย เช่น คอนเทนต์รีวิว และรวบรวมร้านหมูกระทะชื่อดังทั่วประเทศ ทั้งจากเพจ – เว็บไซต์ต่างๆ และจากลูกค้าจริง
6. เชนค้าส่งจับเทรนด์หมูกระทะ นำเสนอวัตถุดิบครบจบในที่เดียวให้กับร้านค้า อย่างเชนค้าส่งรายใหญ่ในไทย Makro (แม็คโคร) มองเห็นการขยายตัวของร้านหมูกระทะรายย่อย รวมทั้งผู้บริโภคที่ต้องการซื้อวัตถุดิบ ไปทำปิ้งย่างเองที่บ้าน ก็ได้เพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์วัตถุดิบสำหรับทำหมูกระทะให้มีความหลากหลายและครบวงจรมากขึ้น เพื่อสร้างความสะดวกให้ร้านค้าที่มาจับจ่าย ได้ของครบในที่เดียว
“ปลา Iberry ปั้นแบรนด์ “ชิ้นโบแดง” หมูกระทะขึ้นห้างฯ เชิดชูหมูกระทะไทย!
นอกจากร้านหมูกระทะของผู้ประกอบการรายย่อยแล้ว ความเคลื่อนไหวของวงการหมูกระทะที่น่าจับตา เวลานี้คนดัง และเชนร้านอาหารใหญ่ หันมาปลุกปั้นแบรนด์ร้านหมูกระทะเช่นกัน
อย่างล่าสุด “คุณปลา–อัจฉรา บุรารักษ์” เจ้าของ Iberry Group ที่ปัจจุบันมีแบรนด์พอร์ตโฟลิโอในเครือ ได้แก่ ไอศกรีม iberry, ร้านกับข้าวกับปลา, รสนิยม, โรงสีโภชนา, ข้าวต้มกุ๊ยโรงสี, เจริญแกง, เบิร์นบุษบา, ฟ้าปลาทาน, iBarista, รวมมิตร Cloud Kitchen นอกจากนี้ยังร่วมหุ้นกับเพื่อน ปั้นแบรนด์ร้านก๋วยเตี๋ยวทองสมิทธ์, ร้าน FRAN’S และร้านอาหารเวียดนามอันเกิม อันก๋า (AN COM AN CA) รวมกว่า 100 สาขา
ไม่เพียงเท่านี้ คุณปลา–อัจฉรา ยังมองเห็นโอกาสตลาดหมูกระทะด้วยเช่นกัน ด้วยการเตรียมเปิดตัวแบรนด์ “ชิ้นโบแดง” (CHIN BO DANG) สาขาแรกที่ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ โดยคุณปลาโพสต์ว่า
“ชิ้นโบแดง” คือชื่อแบรนด์ใหม่ล่าสุดในปี 2023 ของพวกเรา ที่ภูมิใจนำเสนอการยกระดับหมูกระทะที่เป็นที่ชื่นชอบของคนไทย แบรนด์ใหม่ล่าสุดที่ยังไม่ได้แกะกล่อง ทีมงานตั้งใจทำเป็นอย่างมาก หลังจากที่ได้ลงลึกศึกษาและทำการบ้านมาอย่างยาวนาน
จากแนวความคิดหลัก ที่อยาก” เชิดชูหมูกระทะของคนไทยให้ ก้องกังวาลไกลไปทั่วหล้า” ให้มีความสวย มีความปราณีต ทั้งคุณภาพ และการบริการ เราตั้งใจนำเสนอการปิ้งย่างที่เป็นเสน่ห์แบบไทยๆ ของหมูกระทะให้อยู่ใน setting ที่สวยงามให้เทียบเท่ากับการปิ้งย่างของประเทศ อื่นๆ เพราะเราเห็นว่า หมูกระทะเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมการกินอย่างหนึ่งของคนไทยที่เป็นการรวมตัวกันอย่างมีความสุข เราจึงอยากจะนำมาเล่าใหม่ในรูปแบบของเราเอง
อีกสองเดือนเจอกันนะคะ ที่ ห้างเอมควอเทียร์ ชั้น 6 ขอบคุณทุกๆท่านที่ให้การ support แนวคิดใหม่ๆ ของปลาเสมอมาค่า แล้วเจอกันนะคะ
ทั้งนี้จากโลเคชันเปิดสาขาร้านชิ้นโบแดง ประกอบกับด้วยสไตล์การทำธุรกิจร้านอาหารของคุณปลา-อัจฉรา และความมุ่งมั่นที่ต้องการยกระดับอาหารไทย ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ใหม่และแตกต่าง มาพร้อมกับแบรนด์สุดครีเอท จึงมองว่าการร้านหมูกระทะชิ้นโบแดง จะเป็นแบรนด์ร้านที่เจาะตลาดกลาง-บน มากกว่ารุกตลาด Mass
“บาร์บีคิวพลาซ่า” แตกแบรนด์ “GON กระทะ” ต่อยอดจุดแข็ง Brand Asset “พี่ก้อน”
เมื่อไม่นานนี้ “บาร์บีคิวพลาซ่า” ในเครือฟู้ดแพชชั่น ได้แตกแบรนด์ร้านหมูกระทะ โดยต่อยอดจุดแข็ง “คาแรคเตอร์พี่ GON” มาสู่แบรนด์ใหม่ “GON กระทะ” ในรูปแบบเช็ต ได้แก่ ชุด GON กระทะเล็ก ราคา 299 บาท, ชุด GON กระทะกลาง 399 บาท และ ชุด GON กระทะใหญ่ 499 บาท พร้อมชูจุดเด่นน้ำจิ้ม 4 แบบคือ น้ำจิ้มหมูกระทะ, น้ำจิ้มแจ่ว, น้ำจิ้มซีฟู้ด และน้ำจิ้มสุกี้ ทดลองเปิดสาขาแรกที่สายไหมอเวนิว เพื่อ
คุณรัฐ ตระกูลไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด เคยให้สัมภาษณ์กับ Marketing Oops! ถึงที่มาของแบรนด์น้องใหม่ว่าสร้างบน 3 แกนหลักคือ
– Consumer Insight: พบว่าคนรุ่นใหม่ต้องการสินค้าและบริการในราคาเข้าถึงง่าย
– Channels Management: เลือกเปิดสาขาทดลองที่ “สายไหมอเวนิว” เนื่องจากเป็นคอมมูนิตี้ที่มีทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ และพฤติกรรมของคนมากินหมูกระทะ มักเข้าร้านแบบ Stand Alone มากกว่านั่งกินในห้างฯ
– Character Marketing: ใช้ Asset ที่มีอยู่แล้วคือ “พี่ก้อน” และกลยุทธ์ Character Marketing เป็นจุดแข็งที่ต่อยอดสู่โอกาสใหม่ได้
โดยหลังจากทดลองเปิดให้บริการมาตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2565 พบว่าสามารถขยายฐานไปยัง New User 10 – 15% โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น-วัยทำงาน
- อ่านเพิ่มเติม: เปิดที่มา “GON กระทะ” บนความท้าทายใหม่ เมื่อผู้บริโภคไม่ได้มอง “บาร์บีคิวพลาซ่า” เป็น “หมูกระทะ”
“บี้ เดอะสกา” ปั้นแฟรนไชส์ “SKA หมูกระทะ” ตั้งเป้าขยาย 100 สาขา
เมื่อกลางปีที่แล้ว “คุณบี้ เดอะสกา” หรือ คุณกฤษณ์ บุญญะรัง ได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ “SKA หมูกะทะ” พร้อมคิดค้นสูตรน้ำจิ้มสูตรเด็ดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของทางร้าน เริ่มต้นเจาะกลุ่มเป้าหมายย่าน CBD และตั้งเป้าขยาย 100 สาขาภายใน 5 ปี
เนื่องจากเห็นว่าภาพรวมของตลาดร้านหมูกระทะในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้แต่ละร้านก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ได้เล็งเห็นโอกาสในการขยายตัวในธุรกิจร้านหมูกระทะที่ยังเติบโตได้อีกในอนาคต บวกกับความความชื่นชอบส่วนตัวในการรับประทานหมูกระทะ รวมถึงได้คิดค้นสูตรน้ำจิ้มและหมูหมักของตัวเองขึ้นมา จึงได้มีการเปิดตัวธุรกิจร้านหมูกระทะขึ้น ภายใต้แบรนด์ “SKA หมูกะทะ” โดยเริ่มต้นสาขาแรกที่บริเวณถนนวัฒนธรรม ฝั่งตรงข้ามยูโทเปีย
“ด้วยพฤติกรรมการบริโภคหมูกระทะของคนไทยในชีวิตประจำวัน และเทศกาลต่าง ๆ มักจะหากิจกรรมที่ทำร่วมกันและลงเอยด้วยการกินหมูกระทะ จึงมองว่าตลาดร้านหมูกระทะยังเติบโตไปในทิศทางที่ดีอย่างแน่นอน ทางร้านสกา หมูกะทะ จะกลายเป็นหนึ่งในทางเลือกของผู้บริโภคด้วยความแปลกใหม่ของรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านโดยเฉพาะ
ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของวัตถุดิบ สูตรในการหมักต่าง ๆ และรสชาติของน้ำจิ้ม 2 รสชาติ ทั้งรสชาติหวาน เผ็ด เปรี้ยว และรสชาติจัดครบรสแบบกระแทกลิ้นคนไทยแน่นอน รวมถึงการย่างหมูกระทะต้องเตาถ่านแบบดั้งเดิม พร้อมกับการนำเสนอประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการกินหมูกระทะ ที่ให้ความสนุกแตกต่างจากร้านอื่น ๆ ทั้งนี้จะเริ่มต้นเจาะตลาดในกลุ่มคนย่าน CBD (ศูนย์กลางธุรกิจ) ก่อน ในราคาที่จับต้องได้ เริ่มต้นราคาชุดละ 269 บาท”
สำหรับแผนธุรกิจคาดว่าจะเปิดให้บริการครบ 100 สาขาภายในระยะเวลา 5 ปี (2565-2569) ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด โดยใช้หลักการโมเดิร์นแฟรนไชส์ที่จะมีระบบในการจัดการซัพพอร์ตพาร์ทเนอร์ทุกภาคส่วน ตลอดจนการให้องค์ความรู้ และการประชาสัมพันธ์ในช่างทางต่าง ๆ ที่พร้อมซัพพอร์ตพาร์ทเนอร์จากทีมเดอะ สกา เอนเตอร์ไพรส์