เปิดวิธีคิดเบื้องหลังกิจกรรม Mitsubishi e:MOTION VERSE เปิดมิติการขับขี่สุดท้าทาย ของ Mitsubishi Motors จับกระแสความนิยมรถยนต์ 2 รุ่นใหม่ สู่การ Test Drive แบบ Immersive Experience

  • 5
  •  
  •  
  •  
  •  

 

จากความสำเร็จของ New Mitsubishi Xpander HEV และ Xpander Cross HEV รถยนต์สองรุ่นใหม่จาก Mitsubishi Motors Thailand ที่มีกระแสตอบรับที่ดีมากๆ ผลจากประสบการณ์การขับขี่รูปแบบใหม่ ที่เรียกว่า Mitsubishi e:MOTION ทำให้ประการณ์การขับขี่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น เพราะให้ทั้งความประหยัด ความสนุก และความปลอดภัยที่มากกว่าเดิม เมื่อมองเห็นโอกาสดังนั้น Mitsubishi Motors Thailand จึงอยากที่จะให้คนได้สัมผัสกับ Mitsubishi e:MOTION อย่างใกล้ชิดมากขึ้น กลายเป็นไอเดียกิจกรรม Test Drive แบบไม่ธรรมดา เนรมิตสนามบินให้กลายเป็นสนามทดสอบแบบกลางคืน Night Test Drive แบบล้ำๆ แล้วเชิญผู้โชคดี 45 ครอบครัวไปลองสัมผัสกับ Mitsubishi e:MOTION ที่อยู่ในรถยนต์ทั้งสองรุ่น สัมผัสประสบการณ์ Immersive Experience เหมือนขับทะลุมิติ Multiverse ก็ว่าได้

 

สัมผัส Mitsubishi e:MOTION ของจริงแบบ Immersive Experience

 

ปัจจุบันการทำการตลาดด้วยการสร้างประสบการแบบดำดิ่งหรือ Immersive Experience ให้เกิดขึ้นกับผู้บริโภค เป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงในกลุ่มแบรนด์และนักการตลาดอย่างต่อเนื่อง นำมาสู่แนวคิดการจัดกิจกรรม  Mitsubishi e:MOTION VERSE เปิดมิติการขับขี่สุดท้าทาย ของ Mitsubishi Motors Thailand ที่เรียกได้ว่าทำถึง เนรมิตรสนามบินหนองค้อ แอร์ฟิลด์ ที่จังหวัดชลบุรีให้กลายเป็นสนามทดสอบขับรถยนต์ New Mitsubishi Xpander HEV และ Xpander Cross HEV  ได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมขึ้นในเวลากลางคืน พร้อมกับประดับสนามด้วยแสงสีสุดล้ำเหมือนวาร์ปไปอีกมิติเลยทีเดียว

 

 

สนามทดสอบที่หนองค้อแอร์ฟิลด์จะถูกแบ่งเป็น 5 Station ที่จะมีภารกิจแตกต่างกันไปให้ทำ ซึ่ง Mitsubishi Motors Thailand มีวิธีคิดว่าผู้ขับขี่จะต้องได้ใช้สัมผัสกับประสบการณ์การขับขี่แบบ Mitsubishi e:MOTION ที่เป็นที่พูดถึงอย่างมากนับตั้งแต่เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ทั้งสองรุ่น ระหว่างการทำภารกิจไปในแต่ละ Station ให้ได้ครบทั้งหมด เพื่อให้เห็นข้อดีของขุมพลังฟูลไฮบริดรูปแบบใหม่ โหมดการขับขี่ 7 โหมดใหม่ (7 DRIVE MODE) รวมถึง ระบบ AYC หรือระบบควบคุมการขับเคลื่อน และสมดุลขณะเข้าโค้ง 3 เทคโนโลยี ที่มีเฉพาะใน  New Mitsubishi Xpander HEV และ Xpander Cross HEV พร้อมไปกับความตื่นตากับแสงสีที่ทีมงานเนรมิตขึ้นอย่างสวยงามท่ามกลางความมืดยามค่ำคืน

 

 

สำหรับทั้ง 5 Station การขับขี่จะประกอบไปด้วย

1. EV PRIORITY MODE (โหมดพลังงานไฟฟ้า 100%) ขับผ่านอุปสรรคด้วยความเงียบ ขับสบาย สมูท

 

2. TARMAC MODE (โหมดขับขี่บนถนนลาดยาง) ขับผ่านอุโมงค์ไฟด้วยอัตราเร่ง 0 – 100 สัมผัสอัตราเร่งที่พุ่ง แรง ได้ทันใจ

 

3. WET MODE ขับผ่านเส้นทางแสงไฟบนถนนเปียกลื่น ขับไปถึงจุดหมายสัมผัสระบบ AYC ที่ช่วยควบคุมความสมดุลขณะเข้าโค้ง ให้เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ ท้ายไม่สะบัด

 

4. GRAVEL MODE (โหมดทางกรวด) ขับไปถึงจุดหมายผ่านอุปสรรคถนนขรุขระ ผู้ขับจะได้เข้า Slalom ขับหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ ด้วยความสนุก ตื่นเต้น รถก็ยังนิ่ง รู้สึกปลอดภัยในทุกเส้นทาง

 

5. MUD MODE (โหมดทางโคลน) ขับไปยังจุดหมายผ่านถนนที่เป็นโคลนอย่างง่ายดาย ล้อไม่มีลื่น จุดเด่นของรถครอบครัวคือความปลอดภัย คันนี้ทำถึง พาลุยทางโคลนได้ ไม่ต้องกังวล สมรรถนะเยี่ยมมาก

 

สัมผัส Mitsubishi e:MOTION จากการขับจริง

ในแต่ละ Station ทาง Mitsubishi Motors Thailand ได้คิดมาแล้วว่าผู้ขับขี่จะได้ใช้เทคโนโลยีทั้ง 3 ซึ่งมีมาให้ใน New Mitsubishi Xpander HEV และ Xpander Cross HEV  โดย Mitsubishi e:MOTION มีไฮไลท์อยู่ด้วยกัน 3 อย่างนั่นก็คือ

 

1. MITSUBISHI FULL HYBRID SYSTEM ขุมพลังฟูลไฮบริดใหม่

 

MITSUBISHI FULL HYBRID SYSTEM เป็นระบบขุมพลังฟูลไฮบริด แบบเต็มรูปแบบ เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ 1.6L MIVEC และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง แรงบิดสูงสุด 255 นิวตันเมตร ปรับระบบการขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติตั้งแต่ออกตัวความเร็วต่ำด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ก่อนจะยืนระยะความเร็วสลับโหมดอัตโนมัติขณะเร่งความเร็ว ในขณะที่ การขับลงเนินหรือการเบรกสามารถ regenerate พลังงานกลับสู่แบตเตอรี่ได้ช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น

ข้อดีของระบบฟูลไฮบริด ในรถยนต์ทั้งสองรุ่น ก็คือ  “ความเงียบ” ‘สมูท’ และ  “อัตราเร่งในการออกตัว” ซึ่งผู้ขับขี่จะได้สัมผัสในการใช้  EV PRIORITY MODE และ TARMAC MODE ซึ่งสิ่งนี้จะมีประโยชน์ในชีวิตการขับขี่จริงโดยเฉพาะการใช้ความเร็วต่ำในที่ชุมชน การประหยัดน้ำมันในสภาพการจราจรติดขัดรวมไปถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศได้น้อยกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน 100% นั้นเอง

 

2. 7 DRIVE MODE โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบใหม่

จุดที่โดดเด่นอีกอย่างใน New Mitsubishi Xpander HEV และ Xpander Cross HEV คือโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือกตอบสนองความต้องการในสถานการณ์รูปแบบต่างๆมากขึ้น ซึ่งในรถยนต์ทั้งสองรุ่นมีมาให้เลือกมากถึง 7 รูปแบบ พร้อมที่จะตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ในการเดินทางในยุคปัจจุบัน และทั้ง 7 โหมดนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรม Mitsubishi e:MOTION VERSE เปิดมิติตการขับขี่สุดท้าทาย จะได้ลองใช้ทั้งหมด ซึ่งทั้ง 7 โหมดจะมีดังนี้

  1. CHARGE MODE: โหมดการชาร์จพลังไฟฟ้าขณะขับขี่ที่จะสามารถชาร์จไฟฟ้ากลับสู่แบตเตอรี่ได้เร็วขึ้น
  2. EV PRIORITY MODE: โหมดพลังงานไฟฟ้าที่จะเป็นการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ 100%
  3. NORMAL MODE: โหมดขับขี่ธรรมดา สำหรับการขับขี่ในสภาพถนนทั่วไปในชีวิตประจำวัน
  4. WET MODE: โหมดถนนเปียกลื่น สำหรับการขับขี่บนสภาพถนนที่มีความลื่นสูง เช่น ขณะฝนตก
  5. GRAVEL MODE: โหมดถนนลูกรัง สำหรับการขับขี่บนสภาพถนนขรุขระหรือถนนลูกรัง
  6. TARMAC MODE: โหมดถนนลาดยาง สำหรับการขับขี่บนถนนลาดยางมะตอย
  7. MUD MODE: โหมดถนนโคลน สำหรับการขับขี่บนถนนที่เป็นดินโคลน

 

3. AYC ระบบควบคุมการขับเคลื่อน และสมดุลขณะเข้าโค้ง

อีกโหมดที่เป็นไฮไลท์ของ New Mitsubishi Xpander HEV และ Xpander Cross HEV ที่ผู้ร่วมกิจกรรมจะได้สัมผัสในหลายๆ Station ก็คือ AYC ระบบควบคุมการทำงานของล้อด้านในและด้านนอกขณะเข้าโค้ง ให้ทำงานสัมพันธ์กันและรักษาสมดุลของตัวรถทำให้สามารถเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจมากกว่าเดิม

 

 

กิจกรรม Mitsubishi e:MOTION VERSE เปิดมิติการขับขี่สุดท้าทาย ที่ยกระดับประสบการณ์ Test Drive ที่ Immersive มาขึ้นครั้งนี้นอกจากจะได้สื่อสารถึงเทคโนโลยีใหม่ๆที่ Mitsubishi Motors มีมาให้ในรถรุ่นใหม่ทั้งสองรุ่นให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมแล้ว ยังเพิ่มความพิเศษด้วยการได้ใกล้ชิดกับศิลปินดาราชื่อดังมากมาย ที่มาสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งเรื่องนี้ยืนยันโดยผู้โชคดีที่ได้มาร่วมกิจกรรม ที่ระบุถึงงาน Mitsubishi e:MOTION VERSE ครั้งนี้ว่า “ช่วงล่างหนึบ ชัดทุกโหมด ไม่หลุดโค้งด้วย AYC”

“TARMAC MODE เหยียบพุ่ง เร่งแรงสุด ขับกี่รอบก็ชอบ”

“เงียบ สบาย ขับสมูทมากครับ เหมาะกับครอบครัวผมเลย”

 

 

อย่างไรก็ตามสำหรับใครที่พลาดโอกาสเข้าร่วมกิจกรรม Mitsubishi e:MOTION VERSE เปิดมิติการขับขี่สุดท้าทาย ครั้งนี้ไป ก็ยังสามารถไปลองสัมผัสประสบการณ์ล้ำๆ แบบ Mitsubishi e:MOTION ได้ที่โชว์รูม Mitsubishi Motors ทั่วประเทศได้ โดยเฉพาะในช่วงนี้ ทาง Mitsubishi Motors Thailand มีโปรโมชันพิเศษด้วย คือ สำหรับ 500 ท่านแรก ที่ลงทะเบียนผ่าน Google Forms 👉 https://bit.ly/3LyVplr ภายในวันที่ 15 ส.ค. 67 พร้อมออกรถ New Xpander HEV ภายในวันที่ 31 ส.ค. 67 รับฟรี! บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 4,000 บาท

กิจกรรม Mitsubishi e:MOTION VERSE เปิดมิติการขับขี่สุดท้าทาย นี้เป็นกลยุทธ์ที่ดีที่จะสื่อสารให้คนได้เห็นถึงประสิทธิภาพที่แท้จริงของประสบการณ์การขับขี่แบบ Mitsubishi e:MOTION ที่ Mitsubishi Motors มีให้ในNew Mitsubishi Xpander HEV และ Xpander Cross HEV สิ่งสำคัญที่เป็นเหตุผลหลัก ที่ทำให้รถยนต์ทั้งสองรุ่นมีกระแสตอบรับที่ดีมากๆ นับตั้งแต่เปิดตัว นอกจากนี้ยังเป็นตัวอย่างที่ดีของการที่แบรนด์ปรับกลยุทธ์ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการ Immersive Experience มากขึ้นในยุคนี้ ด้วยการยกระดับประสบการณ์ Test Drive ให้ดำดิ่งไปกับรถยนต์รุ่นใหม่ นอกจากนี้ยังสามารถสร้างกระแสบอกต่อจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่ได้ภาพสวยๆ จากสนาม Night Test Drive ที่น่าจะไม่เคยมีมาก่อนด้วย

ไปสัมผัสประสบการณ์แบบ Mitsubishi e:MOTION ด้วยการลงทะเบียนทดลองขับได้ที่โชว์รูมมิตซูบิชิ มอเตอร์สทั่วประเทศ: https://bit.ly/3xQLWmD

รายละเอียดเพิ่มเติม: https://bit.ly/4cdzM5T

 

#eMOTIONVerse #เปิดมิติการขับขี่สุดท้าทาย #NewXpanderHEV

#NewXpanderCrossHEV #มิตซูบิชิeMOTION #MitsubishiMotors

#MitsubishiMotorsThailand #ผลิตไทยมั่นใจคุณภาพ

 


  • 5
  •  
  •  
  •  
  •