ถ้าเอ่ยถึงเมอร์เซเดส-เบนซ์ คงไม่มีใครไม่รู้จักรถยนต์ตราดาว 3 แฉกจากเยอรมนี และสำหรับคนที่ใช้รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ก็คงทราบดีว่า ด้วยปกติสมรรถนะของเครื่องยนต์ก็มีประสิทธิภาพสูงอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่ต้องการประสิทธิภาพเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นก็สามารถหาชุดแต่งเสริมได้ โดยปกติรถเมอร์เซเดส-เบนซ์จะมีบริษัทแต่งประสิทธิภาพเครื่องยนต์รถเมอร์เซเดส-เบนซ์อยู่ประมาณ 3 ค่าย
โดยหนึ่งในนั้นคือค่าย AMG ที่สามารถแต่งรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ให้มีประสิทธิภาพสูงระดับซูเปอร์คาร์ โดยเรื่องราวของ AMG เกิดขึ้นที่หมู่บ้านโกรซาชปาค (Großaspach) โดยนาย ฮานส์ แวเนอร์ อาวฟเรชท์ (Hans-Werner Aufrecht) และนาย แอร์ฮาร์ด เมลเชอร์ (Erhard Melcher) ทั้ง 2 คนใช้โรงโม่แป้งเก่าเป็นที่ตั้งของโรงปรับแต่งรถแห่งแรกเพื่อใช้ในกีฬามอเตอร์สปอร์ตในปี 1967 นั่นคือที่มาของ AMG (Aufrecht – Melcher at Großaspach)
ด้าน นายโรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส–เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ชี้ว่า “Mercedes-AMG มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมือง Affalterbach ประเทศเยอรมนี โดยถือเป็นบริษัทลูกของกลุ่ม Daimler AG ซึ่ง Mercedes-AMG จะต้องมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย พร้อมด้วยนวัตกรรมเพื่อมอบ ความโฉบเฉี่ยวและเร้าอารมณ์ให้กับผู้ขับขี่ ด้วยมาตรฐานแบบ One Man, One Engine ทำให้ Mercedes-AMG ได้รับความนิยมจากทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยยอดขายที่สูงถึงหกหลักในปี 2560 และ 2561”
หนึ่งในความสำเร็จของ Mercedes-AMG คือกลยุทธ์ “Customer Centric” ที่เน้นให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง นั่นเพราะลูกค้าชาวไทยมีความต้องการที่เป็นเอกลักษณ์และแตกต่างอย่างชัดเจนจากตลาดทั่วโลก Mercedes-AMG จึงนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด
นั่นจึงทำให้ Mercedes-AMG มีแผนในการประกอบรถยนต์ในประเทศไทยเพื่อช่วยให้ราคาของ Mercedes-AMG สามารถจับต้องได้ โดยมีรถยนต์ Mercedes-AMG ที่ประกอบในประเทศไทยถึง 5 รุ่นด้วยกัน เมื่อรวมกับการนำเข้ารถยนต์ Mercedes-AMG จะช่วยให้เกิดความหลากหลายกับผลิตภัณฑ์ที่สามารถ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน
ส่งผลให้ Mercedes-AMG มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดจากยอดขายในปีที่ 2561 ถึง 309% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และยอดขายในหกเดือนที่ผ่านมาของปี 2562 ยังเติบโตขึ้นกว่า 200% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยอดขายในไตรมาสที่สองยังเติบโตขึ้นถึง 394% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมาอีกด้วย
“ในโลกดิจิทัลปัจจุบันทำให้ลูกค้าเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เด็กลงจะมีการหาข้อมูลอินเตอร์เน็ตมาก่อนแล้ว ส่งผลให้พนักงานขายจำเป็นต้องมีข้อมูลให้มากกว่าลูกค้าเพื่อนำเสนอจุดเด่นและบริการที่โดนใจลูกค้าได้ ขณะที่รถไฟฟ้ามีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับรถซูเปอร์คาร์ ซึ่งในอนาคตรถไฟฟ้าจะเป็นคู่แข่งที่สำคัญ”
