บัญชีเงินฝากดิจิทัลแห่งแรกของไทย ภายใต้แบรนด์ ME by TMB ที่ธนาคารทหารไทย หรือ TMB ปั้นขึ้นมา ถือว่าสร้างปรากฎการณ์เขย่าวงการแบงก์เมื่อย้อนเวลาไปกว่า 5 ปีที่แล้ว ดิจิทัลแบงก์กิ้งนับว่าเป็นเรื่องใหม่สำหรับหลายคน และต่างตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ว่าจะมีลูกค้าเข้าใจในบริการ จนถึงขั้นเปิดบัญชีเงินฝากที่ตอนนั้นดูเหมือนจะยากได้จริงหรือ! ต้องเปิดบัญชีออนไลน์ต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์เอง แถมไม่มีสมุดบัญชี เพียงแค่มีดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงกว่าดอกเบี้ยออมทรัพย์ทั่วไป
และคำตอบ…จนถึงวันนี้ เกือบทุกธนาคารในประเทศไทย มุ่งตรงมาในแนวทางเดียวกันสู่ธนาคารดิจิทัล!! ณ วันนี้ ME by TMB ถือว่าติดตลาดเป็นที่เรียบร้อย ก็ด้วยความเป็นดิจิทัลแบงก์กิ้งตัวจริงที่ให้คุณทำธุรกรรมทางการเงินตั้งแต่เปิดบัญชีไปจนถึงการทำธุรกรรมต่างๆ ด้วยตนเองเพื่อผลตอบแทนที่มากกว่าซึ่งตอบโจทย์กลุ่มผู้ฝากเงินที่ต้องการดอกเบี้ยที่สูงกว่าดอกเบี้ยออมทรัพย์ทั่วไป เรียกว่ากระตุกต่อมสังคมให้เลิกทนกับ “ความน้อย” ของดอกเบี้ย แบบเข้าใจความต้องการอย่างแท้จริง แม้ว่าตั้งแต่ต้นปี 2560 การแข่งขันเงินฝากยังคึกคักเพราะหลายธนาคารต่างออกเงินฝากพิเศษเพื่อดึงดูดลูกค้ามากขึ้น แต่ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเงื่อนไขตามมามากซึ่งปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ในตลาดเงินฝากเฉลี่ยอยู่ที่ 0.30% แต่ ME ยังมีจุดยืนที่ให้ดอกเบี้ยมากกว่าออมทรัพย์ทั่วไป โดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของ ME อยู่ที่ 1.70% ต่อปี หรือคิดเป็น 4.5 เท่าของออมทรัพย์ทั่วไป
ME by TMB ครองแชมป์ขวัญใจ ลูกค้าเจนวาย (25-35 ปี)
“นอกเหนือจาก ME จะให้ดอกเบี้ยสูงกว่าแล้ว ยังเป็นบัญชีเงินฝากดิจิทัลที่มีสภาพคล่องสูงสามารถฝาก-ถอนได้ตามต้องการ ไม่กำหนดขั้นต่ำในการฝาก สะดวกรวดเร็ว พร้อมทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลและยังมีคอลเซ็นเตอร์ที่สามารถช่วยคุณทำธุรกรรมได้อย่างปลอดภัย 24 ชั่วโมง ทำให้กลุ่มลูกค้า ME เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นร้อยละ 20 ต่อปี และกว่า 80% เป็นคนรุ่นใหม่ถึงวัยทำงานช่วงอายุตั้งแต่ 25-35ปี โดยมีสัดส่วนอยู่ในกรุงเทพฯ 60% และต่างจังหวัด 40%” นางสาวมิ่งขวัญ พัฒนวงศ์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารส่งเสริมการตลาดลูกค้าบุคคลทีเอ็มบีและ ME by TMB
สำหรับไตรมาสที่ 3/2560 ที่ผ่านมา ME มีจำนวนลูกค้าที่เติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 20%เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2559 และคิดเป็น 18% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2559โดยมีเงินฝากเฉลี่ย1.5 – 2 แสน
บาทต่อบัญชี และมีสัดส่วนจำนวนลูกค้า ME คิดเป็น 4.6%ของลูกค้ารายย่อยทั้งหมดของ TMB และเป็นเงินฝากประมาณ 11% ของเงินฝากรายย่อยของ TMB โดยภายในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีลูกค้าใหม่เติบโต 20% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน ปิดท้ายด้วย ME เราได้มีความพร้อมกับ ระบบ “อี-เควายซี” พิสูจน์ตัวตนผ่านอิเล็กทรอนิกส์และล่าสุด แบงก์ชาติได้ประกาศความพร้อมรุกพัฒนาดิจิทัลแบงก์กิ้งดัน’อี-เควายซี’หรือกระบวนการพิสูจน์ตัวตนผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ชี้ว่าจะพัฒนาระบบนี้เต็มที่ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมทุกอย่างผ่านระบบออนไลน์โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปสาขาทำให้ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้นตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ทั้งเปิดบัญชี ฝาก ถอน โอน จ่าย หรือแม้กระทั่งการขอสินเชื่อต่างๆคาดว่าอีกไม่นานเมืองไทยจะเข้าสู่ยุคเควายซี และจะก้าวเป็น ดิจิทัลแบงก์กิ้ง อย่างเต็มตัวแน่นอน
