การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็น ที่ดิน คอนโด บ้าน ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน ฯลฯ มีนักลงทุนทั้งมือเก่าและมือใหม่เข้ามาให้ความสนใจกันมากขึ้น เป็นเพราะการลงทุนอสังหาริมทรัพย์สามารถสร้างรายได้ดีมากๆ แถมถ้าเกิดเปลี่ยนใจไม่คิดจะลงทุนแล้วก็ยังสามารถเปลี่ยนมาเป็นที่อยู่อาศัยของเราเองโดยที่มูลค่าทรัพย์สินไม่มีตกอีกด้วย
ทั้งนี้ 3 กลวิธีสำคัญในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ และสามารถสร้างกำไรได้อย่างง่ายๆ มีดังนี้
- การลงทุนแบบปล่อยเช่ารายวัน/รายเดือน สำหรับการปล่อยเช่ารายเดือน คีย์หลักสำคัญคือต้องอยู่บนทำเลที่ดีก็จะทำให้ตั้งราคาเช่าที่สูงได้ แต่ที่ควรคำนึงที่สุดคือรายได้จะต้องไม่ต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินกู้กรณีกู้เงินมาลงทุน ส่วนการปล่อยเช่ารายวันนั้น จะใช้ในกรณีที่ทำเลฮ็อตๆ มีคนหมุนเวียนแวะมาพักบ่อยๆ เช่น นักท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันมีแอพพลิเคชั่นอย่าง AIRBNB ซึ่งช่วยในการหาลูกค้าได้ง่ายขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือการใส่ไอเดียในห้องพักของเราก็จะช่วยเพิ่มแรงดึงดูดให้กับผู้ที่จะมาพักได้
- การลงทุนแบบซ่อมแล้วขายต่อ คีย์หลักของการลงทุนแบบนี้คือ เบื้องแรกจะต้องได้ทรัพย์มาในราคาที่ถูกมากๆ ก่อน แล้วเมื่อเราลงทุนด้วยการปรับปรุงซ่อมแซมให้น่าอยู่ ด้วยวัสดุคุณภาพดีในราคาไม่แพงมากนัก ก็จะสามารถทำกำไรจากการลงทุนนี้ได้
- การลงทุนแบบเก็งกำไร กรณีนี้ส่วนใหญ่จะเน้นการซื้อใบจองแล้วปล่อยขายทำกำไร ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดที่จะสร้างกำไรได้ คือจะต้องมีทำเลที่มีศักยภาพเพียงพอ หรือตัวโครงการที่ลงทุนไปนั้นมีชื่อเสียง มีประสบการณ์เพื่อเรียกความสนใจของผู้ซื้อได้
แต่การตัดสินใจเลือกอสังหาริมทรัพย์ว่าจะเป็นที่ไหนที่จะสร้างกำไรและตอบโจทย์ชีวิตได้ดีที่สุด จุดสำคัญอยู่ที่การเลือก “ทำเล” หรือ โลเคชั่น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการลงทุนแบบซื้อมาขายไป ลงทุนปล่อยเช่า หรือแม้แต่เพื่อการอยู่อาศัยเอง เรื่องการเลือกโลเคชั่น เป็นปัจจัยสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ของการเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ และสำหรับกรุงเทพฯ นั้น โลเคชั่นที่ได้ชื่อว่าเป็นทำเลทอง ที่แม้จะแพงแต่สร้างกำไรเกินคุ้มให้กับกับผู้ซื้ออย่างแน่นอน ได้แก่ สาทร-สีลม, สุขุมวิท, สยาม (ราชเทวี), รัชดา และลาดพร้าว-จตุจักร ซึ่ง 5 ทำเลนี้แม้แต่นักลงทุนต่างชาติก็ทราบดีว่าเป็นพื้นที่ที่น่าลงทุนเป็นอย่างยิ่ง
แต่หลายคนอาจจะคิดว่าทำเลเหล่านี้ น่าจะมีผู้จับจองไปหมดแล้ว อาจจะมาถึงมือได้ยาก ทว่า ที่จริงแล้วเราพบว่ายังมีหลายยูนิตของ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวดิ่งเชี่ยวชาญโครงการที่อยู่อาศัยระดับบน ที่ยังมีพื้นที่ว่างให้ได้ลองลงทุนใน 5 ทำเลหลัก ดังกล่าว ลองมาตรวจสอบกันค่ะ
1. สาทร-สีลม
MAESTRO 01 SATHORN – YEN AKAT พื้นที่ย่านเย็นอากาศ ที่เงียบสงบใจกลางเมือง ลักษณะโครงการเป็นโลว์ไรส์ 8 ชั้น พร้อมชั้นใต้ดิน 2 ชั้น มีทั้งสิ้น 88 ยูนิต ดีไซน์ในสไตล์ยุโรปหรูคลาสสิค เรียกว่าเป็นทำเลสงบส่วนตัวที่มากับความสะดวกสบายในย่านสาทร ใจกลางแหล่งธุรกิจหลักของกรุงเทพฯ ราคาพิเศษ เริ่ม 4.7 ล้านบาท*
M SILOM ตั้งอยู่ บน ถ.นราธิวาสราชนครินทร์ สะดวกสบายในการเดินทางเพราะห่างจากจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ช่องนนทรี แค่ 400 เมตร 53 ชั้น 161 ยูนิต รูปแบบการดีไซน์เน้นการเล่นระดับ ลดหลั่นสูงต่ำ แต่เพิ่มพื้นที่ว่างที่เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น ทำให้มองเห็นวิวกรุงเทพฯ ในมุมมองใหม่ได้ ดึงดูดด้วย Infinity Panoramic Swimming Pool สระว่ายน้ำแนวพาโนราม่าที่ขยายเต็มพื้นที่ด้านยาวของตัวตึก และยังโดดเด่นด้วย Sky Lounge ชั้น 52 ที่เชื่อมต่อกับ Karaoke Room และ Pool Lounge พร้อมให้คุณจัดปาร์ตี้ส่วนตัว พร้อมชมวิวกรุงเทพฯ ราคาพิเศษ เริ่ม 8.3 ล้านบาท*
2. สุขุมวิท
M THONGLOR 10 ทองหล่อ แหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหารชั้นนำ นับได้ว่าเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิต ของคนรุ่นใหม่ โดยโครงการตั้งอยู่ที่เอกมัย ซอย 12 บนพื้นที่กว่า 1 ไร่ มี 172 ยูนิต การออกแบบโครงการนั้นนับว่าพิเศษกว่าโครงการไหนเพราะไม่ใช่แค่ทันสมัยแต่มีความล้ำสมัยในแบบ Futuristic เน้นเส้นสายของโลกอนาคตผสมผสานกับแสงสีเพื่อสร้างบรรรยากาศ ที่ไม่เหมือนใคร ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ อีกทั้งยังเดินทางสะดวก สามารถเข้าออกได้จากถนนหลายสาย เช่น สุขุมวิท เอกมัย ทองหล่อ ฯ และใกล้กับ สถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ และเอกมัย พร้อม facilities ที่จะมาสร้างสีสันการใช้ชีวิตอย่างเต็มรูปแบบ เช่น Skyscape Gym Aeroboxing Retreated Onzen และที่จอดรถ Superbike เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่เป็นอย่างยิ่ง ราคาพิเศษ เริ่ม 4.29 ล้านบาท*
MAESTRO 39 SUKHUMVIT 39 อีกหนึ่งโครงการในย่านสุขุมวิทตั้งอยู่ในซอย สุขุมวิท 39 บนเนื้อที่ 1 ไร่ 4 ตร.ว. การออกแบบเน้นสถาปัตยกรรมยุโรปคลาสสิค สะท้อนการใช้ชีวิตที่หรูหรามีระดับ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งสระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ห้องเด็กเล่น ห้องสมุด และบริการรถรับส่ง และการออกแบบตกแต่งภายในในสไตล์ญี่ปุ่น ตั้งอยูใกล้ศูนย์การค้าชั้นนำอย่าง Emquatier และ สถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งน่าลงทุนสำหรับปล่อยเช่า โดยเฉพาะกับคนญี่ปุ่น 2 ห้องนอน ราคาพิเศษ เริ่ม 8.5 ล้านบาท*
MAESTRO 02 RUAMRUDEE ผสานความทันสมัยเข้ากับความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวในใจกลางเมืองกรุงเทพฯ สถานที่ตั้งโครงการ อยู่ในถนนร่วมฤดี ซอย 2 บนพื้นที่ 1 ไร่ 62 ตร.ว. ด้วยสถาปัตยกรรมที่ออกแบบเน้นถึงความโอ่อ่าโปร่งสบายด้วยผนังกระจกสูงจรดเพดานที่เปิดรับแสงธรรมชาติและวิวเมืองตอกย้ำรสนิยมการใช้ชีวิตด้วยดีไซน์ภายนอกที่คลาสสิกสง่างามมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร พร้อม facility ครบครันตั้งอยู่ใน ซ.ร่วมฤดี อีกหนึ่ง Neighborhood ที่น่าอยู่ที่สุดใน กทม. ใกล้ สถานีรถไฟฟ้าชิดลม และห้างสรรพสินค้าชั้นนำมากมาย เช่น เซ็นทรัลชิดลม เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ และในอนาคตอันใกล้บริเวณเพลินจิตก็จะเป็นแหล่งรวมของอาคารสำนักงานชั้นนำ และสถานพยาบาลครบวงจรระดับโลกด้วยเช่นกัน ราคาพิเศษ เริ่ม 4.6 ล้านบาท*
3. ลาดพร้าว-จตุจักร
M JATUJAK จัดว่าเป็นทำเลที่สะดวกสบายที่สุดแห่งหนึ่ง เพราะนอกจากจะใกล้กับแหล่งช้อปปิ้งอย่างสวนจตุจักรแล้ว ยังสะดวกสบายสำหรับการเดินทางเพราะอยู่ไม่ห่างทั้งสถานีรถไฟฟ้าหมอชิตและสถานีรถไฟใต้ดินกำแพงเพชร โครงการนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่มากถึง 4 ไร่ มีแนวคิดมาจาก Urban Forest หรือป่าในเมืองรอบล้อมไปด้วยต้นไม้และที่พิเศษที่สุดคือ Sports Arena อย่างเต็มรูปแบบที่จะมาตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างเต็มรูปแบบ ราคาพิเศษ เริ่ม 3.95 ล้านบาท*
M LADPRAO อีกทำเลที่จัดว่ากำลังบูมมาก ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว เดินทางสะดวกด้วยBTSและMRT พร้อมกับการออกแบบที่โมเดิร์น กับแนวคิดหลักของโครงการ “Luxury Living Space” เน้นการสะท้อนจุดเด่นไฮไลท์ส่วนต่างๆ ในทุกพื้นที่ อีกทั้งยังเดินทางสะดวกใกล้ สถานีรถไฟฟ้าลาดพร้าว และสถานีรถไฟใต้ดินพหลโยธิน ราคาพิเศษ เริ่ม 5.8 ล้านบาท*
4. รัชดา พระราม 9
MAESTRO 03 RATCHADA – RAMA 9 ณ รัชดาซอย 3 บนเนื้อที่กว่า 3 ไร่ การออกแบบภายในสะท้อนชีวิตทันสมัยและความคลาสสิกที่ลงตัว คัดเลือกวัสดุสิ่งทอชั้นเลิศพร้อมเครื่องประดับที่มีสไตล์ นอกจากนี้รัชดาซอย 3 ยังเป็นทำเลที่สะดวกต่อการเดินทาง ด้วยสถานีรถไฟใต้ดินพระราม 9 และยังแวดล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวก เช่น เซ็นทรัลพระรามเก้า เอสพลานาด อาคารสำนักงานต่างๆ และในอนาคตยังจะเป็นแหล่งธุรกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ราคาพิเศษ เริ่ม 3.69 ล้านบาท*
5. สยาม-ราชเทวี
MAESTRO 14 SIAM – RATCHATHEWI สถานที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยพญานาค เพียงแค่ 300 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ราชเทวี มีเส้นทางเข้าออกได้ทั้ง ทางเพชรบุรีและพญาไท ส่วนทางด่วนที่ใกล้สุดคือ ยมราช โครงการออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมคอนเทมโพรารี ที่ได้รับอิทธิพลจากสไตล์ คอนเทม-มินิมอลิซึม เน้นชีวิตที่ทันสมัย พร้อมพื้นที่ที่โล่งกว้างท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ที่แผ่ร่มเงา รวมทั้งพื้นที่สีเขียวรอบโครงการพร้อมสระว่ายน้ำใจกลางโครงการ เพื่อเพิ่มบรรยากาศความเป็นธรรมชาติให้กับการใช้ชีวิตแม้จะอยู่ใจกลางเมือง ราคาพิเศษ เริ่ม 4 ล้านบาท*
MAESTRO 12 RATCHATHEWI เป็นอีกสถานที่ที่เน้น สถาปัตยกรรมได้รับการสร้างสรรค์ผ่านการผสมผสานระหว่างความคลาสสิคและความทันสมัยไว้ได้อย่างลงตัว พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น สระว่ายน้ำ, ห้องสมุด, ห้องคาราโอเกะ, พื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ต่างๆ, ลานปาร์ตี้บาร์บีคิว ก็ได้ถูกออกแบบไว้อย่างดีและลงตัว สถานที่ตั้งโครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่เพชรบุรี ในช่วงที่เป็นสะพานข้ามแยกพญาไท ใกล้สถานีรถไฟเพลินจิต ตัวโครงการสามารถเข้าออกได้ทั้งหมดสองทาง คือถนนเพชรบุรีหรือซอยเพชรบุรี 12 ซึ่งจะเชื่อมไปยังซอยพญานาค รวมแล้วมีทางเข้าออกได้ 3 จากถนนใหญ่ คือ เพชรุบรี, บรรทัดทองและพญาไท ราคาพิเศษ เริ่ม 7.5 ล้านบาท*
และทุกโครงการที่กล่าวมานี้ เป็นโครงการที่แต่งครบ และเลี้ยงสัตว์ได้ ที่สำคัญทั้ง 5 ทำเลฮ็อตนี้ ยังจัดราคาพิเศษให้ด้วย ทั้ง M Project และ Maestro Residences ทุกทำเล
พิเศษ! ผ่อนชำระ 0% 6 เดือน สำหรับเงินจองและ/หรือเงินทำสัญญากับ บัตรเครดิต ธ.กรุงเทพ และ KTC
พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย ตั้งแต่วันที่ 1-31 มีนาคมนี้เท่านั้น และไม่ว่าคุณจะซื้อเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อการลงทุนก็คุ้ม โดยเฉพาะในช่วงนี้ กับแคมเปญโปรโมชั่น Major Prime Time ตั้งแต่วันนี้ – ถึง 31 มี.ค. นี้ เท่านั้น เพิ่มเติมที่ www.mde.co.th หรือ โทร 02 116 1111