คุณ กิตติวรรณ อนุเวชสกุล ผู้นำหญิงคนแรกของแมคโดนัลด์ ที่มีประสบการณ์ด้านการตลาด และโฆษณามากกว่า 25 ปี ให้กับบริษัท International Companies และมีความผูกพันกับแมคโดนัลด์ประเทศไทยมาอย่างยาวนาน เริ่มต้นการทํางานทางด้านการตลาดกับแมคไทย ตั้งแต่สมัย คุณเดช บุลสุข ผู้ก่อตั้งแมคโดนัลด์ในประเทศไทย
ก่อนผันตัวไปเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทโฆษณา และเป็นที่ปรึกษาทางด้านการตลาดมามากกว่า 7 ปี จากนั้นกลับสู่ครอบครัวแมคไทยอีกครั้งในฐานะที่ปรึกษา จนปัจจุบันได้รับตำแหน่งเป็นประธานกรรมการบริหาร พร้อมผลักดันแบรนด์ผู้นำ QSR ระดับโลก สู่ผู้นำแบรนด์ QSR ของเมืองไทย
คุณ กิตติวรรณ อนุเวชสกุล กล่าวกับผู้สื่อข่าวครั้งแรก หลังเข้ารับตำแหน่ง CEO บริษัท แมคไทย จำกัด ผู้บริหารแบรนด์แมคโดนัลด์ไทยในปี 2565 เปิดเผยว่าเมื่อปีที่แล้ว มูลค่าธุรกิจของร้านอาหารทั้งหมดในประเทศไทยอยู่ที่ 3.6 แสนล้านบาท ลดลงถึง 11%
เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ร้านอาหารถูกจำกัดด้วยมาตรการต่าง ๆ ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลงลง ถึงแมคจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในครั้งนี้ แต่ก็สามารถฟันฝ่าอุปสรรคจากยอดขายที่ตกในปี 2564 ซึ่งพลิกสถานการณ์และกลับมาเติบโตอย่างต่อเนื่อง ได้อย่างหน้าประทับใจในครึ่งแรกของปี 2565 ที่เติบโตถึง 30% และในปีหน้าคาดการณ์ไว้ว่าจะสามารถเติบโตได้ถึง 20% เลยทีเดียว
ล่าสุด คุณกิตติวรรณ อนุเวชสกุล เปิดเผย เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติค่อย ๆ เริ่มกลับมาสู่สภาวะปกติ ปีนี้จากข้อมูลคาดว่ามีประมาณ 6 ล้านคน มาเที่ยวในประเทศไทย และปีหน้าคาดการณ์น่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาราว ๆ 10 ล้านคน ด้วยการผ่อนคลายมาตรการการล็อกดาวน์ลง ทำให้ส่งผลดีต่อธุรกิจโดยรวม
ปัจจัยที่ทำให้แมคโดนัลด์เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง…
1. การเติบโตของ 3D (Delivery, Drive-thru และ Digital) เป็นการเพิ่มช่องทางการให้บริการแก่ลูกค้าในช่วงโควิด-19 ได้แก่ ได้แก่ บริการจัดส่งอาหาร (Delivery) บริการไดรฟ์ทรู (Drive Thru) โดยในปี 2564 ธุรกิจดีลิเวอรีเติบโต 232% และยอดธุรกิจไดรฟ์ทรูเติบโต 34% นับจากปี 2562 ก่อนหน้าที่จะเกิดสถานการณ์โควิด-19 ขณะนี้สัดส่วนรายได้จากไดรฟ์ทรูเป็น 20% แล้ว สัดส่วนดีลิเวอรี 40% และสัดส่วนนั่งรับประทานในร้าน 60% ซึ่งเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดที่น่าประทับใจของแมคเลยทีเดีย
2. การสร้างสรรค์เมนูคุ้มค่า (Menu & Value) เพื่อตอบโจทย์ ในเรื่องของราคาที่เข้าถึงง่าย ซึ่งแมคโดนัลด์มีเมนูในกลุ่มชุดสุดคุ้ม (EVM-Extra Value Meal) และแมคเซฟเวอร์ (McSaver) ในการเข้าถึงลูกค้า
3. การสร้างประสบการณ์ที่ทันสมัยให้แก่ลูกค้า ผ่านการออกแบบร้านใหม่และการรีโนเวตร้านเดิม ปีนี้จะปรับใหม่ประมาณ 20 สาขา
4 กลยุทธ์หลักสู่การเป็นแบรนด์ร้านอาหาร QSR ได้แก่
1.การยกระดับการส่งมอบอาหารคุณภาพดี และมีความปลอดภัยสูงสุด (Food Quality & Safety)แมคโฟกัสพื้นฐานที่เป็นคุณค่าของแบรนด์คือ QSC : Quality คือ คุณภาพอาหารที่ดีได้มาตรฐาน Service คือ การบริการที่รวดเร็วและ Cleanliness คือ ความสะอาดถูกสุขอนามัย แมคจัดทำระบบ Digital Food Safety เพื่อตรวจสอบคุณภาพอาหารให้มั่นใจว่ามีคุณภาพที่ดีตามมาตรฐานระดับโลกซึ่งนับเป็นครั้งแรกของร้านอาหารในประเทศไทยที่มีการนำเทคโนโลยีคลาวด์และ IoT (Internet of Things) มาใช้ในการเก็บและประมวลผลข้อมูลด้าน food safety โดยจะนำไปใช้กับสาขาทั้งหมดภายในปีนี้
2. สร้างสรรค์เมนูอร่อยเพื่อเข้าถึงง่ายและคุ้มค่าสำหรับทุกคน (Menu Innovation & Brand Affordability) ใช้นวัตกรรมในการพัฒนาเมนูทั้งเมนูหลักและเมนูใหม่ให้มีคุณภาพดี ให้ลูกค้าได้สัมผัสรสชาติที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ นอกจากนี้ต้องนึกถึงความคุ้มค่าของลูกค้าที่ได้รับจากตัวแบรนด์ ผ่านการตั้งราคาอย่างเหมาะสมอีกด้วย
3. สร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ (EotF-Experience of the Future) แมคนำเสนอประสบการณ์ที่ทันสมัยให้กับลูกค้า เหนือกว่าแบรนด์ร้านอาหาร QSR ทุกแบรนด์ โดยเน้นบริการเสิร์ฟอาหารที่โต๊ะ (Table Service) และมีพนักงานต้อนรับ (GEL – Guest Experience Leader) เสมือนเป็นผู้ช่วยที่คอยบริการลูกค้าทุกเรื่องในร้าน เรายังได้นำเทคโนโลยี่ต่างๆมาใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าโดยเฉพาะ
4. การเชื่อมโยงทุกแพลตฟอร์มด้วยดิจิทัล (Digital Transformation & Omnichannel) การเติบโตของ 3D – Delivery, Drive Thru และ Digital โดยเชื่อมเชื่อมทุกแพลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็น การทานอาหารที่ร้าน บริการซื้อกลับบ้าน บริการไดร์ฟ ทรู บริการจัดส่งอาหารแมคดิลิเวอรี บริการจัดส่งอาหารโดยพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ และการใช้สิทธิพิเศษจากแมคโดนัลด์ แอปพลิเคชัน เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน
สำหรับการเข้ามารับตำแหน่ง CEO ของคุณ กิตติวรรณ อนุเวชสกุล มองว่าความท้าทายของแมคในปีนี้ กับในอดีตไม่มีความเปลี่ยนแปลงไปมากนัก ซึ่งความท้าทายที่เห็นได้ชัดในปีนี้เรื่องของการนำเทคโนโลยีมาใช้กับการให้บริการ เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมความต้องการของผู้บริโภค และมองเป้าหมายในอนาคต คือการเป็นผู้นำในตลาดเบอร์เกอร์ที่ไม่มีแบรนด์ไหนมาแทนได้
