เล่นเกมคนเดียวจะไปสนุกได้ไง นั่นคือเหตุผลที่ทำไมเกมในปัจจุบันเน้นออนไลน์มากขึ้น ยิ่งมีผู้เล่นมากการแข่งขันก็เกิดขึ้นยิ่งสร้างความท้าทาย ด้านการแข่งขันทางธุรกิจก็เช่นกัน ถ้าในตลาดมีผู้เล่นเพียงรายเดียวก็ไม่มีการแข่งขัน แต่หากมีผู้เล่นมากกว่าหนึ่งราย จะได้เห็นการแข่งขันที่นอกจากพัฒนาธุรกิจแล้วยังส่งผลดีต่อผู้บริโภค
อย่างตลาดค้าส่งอาหารสดที่ตลอดระยะหลายสิบปีที่ผ่านมา “makro” อาจเรียกได้ว่าเป็นแบรนด์เดียวในตลาด หากไม่นับตลาด Traditional และคงรูปแบบเดียวมากอย่างยาวนาน จนผู้เล่นหน้าใหม่เริ่มปรากฎและดูมี Power จนทำให้ยักษ์หลับกลับมาขยับตัวสู้ศึกครั้งใหม่ โดยเฉพาะปรับเฮ้าส์แบรนด์สู่ตลาดพรีเมียมอย่าง “aro Gold”
ทำความรู้จักเฮ้าส์แบรนด์ aro
ในอดีต makro เคยเปิดศึกการตลาดเฮ้าส์แบรนด์ครั้งใหญ่มาแล้ว ปัจจุบันไม่มีใครไม่รู้จักเฮ้าส์แบรนด์อย่าง “aro” ภายใต้การดูแลของ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในทุกกลุ่ม เพื่อให้แบรนด์ aro เป็นทางเลือกของผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าราคาที่คุ้มค่า ในอีกทางก็เป็นกลยุทธ์การต่อรองกับแบรนด์ที่จะนำสินค้าเข้ามาขายที่ makro
โดยแบรนด์ aro เป็นแบรนด์เฮ้าส์ที่มีสินค้าหลากหลาย ตั้งแต่สินค้าอุปโภคไปจนถึงสินค้าบริโภค สินค้าทุกชนิดของ aro มีเป้าหมายในการเป็นสินค้าทดแทน (Replacement Product) ให้กับผู้บริโภค โดยสินค้าส่วนใหญ่มักเป็นสินค้าที่ผลิตในรูปแบบ OEM โรงงานเดียวกับที่ผลิตแบรนด์ในตลาด ส่งผลให้สินค้า aro มีคุณภาพเทียบเท่ากับแบรนด์ชั้นนำระดับโลกแต่ยังคงความคุ้มค่าในด้านราคา
ด้วยคุณภาพและความคุ้มค่าทำให้แบรนด์ aro ยังคงยืนหยัดมาจนถึงทุกวันนี้ และในยุคที่ผู้เล่นหน้าใหม่เปิดศึก แบรนด์ aro จะถูกนำมาปัดฝุ่นและกลายเป็นหัวหอกสำคัญในการแข่งขันครั้งใหม่นี้ โดยเฉพาะพัฒนาให้ aro เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบที่มีมาตรฐานสูง ไปจนถึงการจัดการด้านบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามและใช้งานง่ายในรูปแบบ Ready to Finish สำหรับกลุ่มธุรกิจ HORECA
ปรับภาพลักษณ์เจาะกลุ่มพรีเมียม
หนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญของ aro คือการปรับตัวเพื่อเจาะตลาดกลุ่มพรีเมียม โดย คุณธนิศร์ เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจค้าส่งแม็คโคร ประเทศไทย ระบุชัดว่า การพัฒนาแบรนด์ aro ไปสู่ “aro Gold” เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การพัฒนาแบรนด์ makro นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาร่วมกับเชฟและผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารในการในการพัฒนาสินค้ากลุ่มอาหารพร้อมปรุง (Readt to Cook) และอาหารพร้อมทาน (Ready to Eat)
นอกจากนี้ยังมียกมาตรฐานสินค้าเกษตร ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถในกระบวนการผลิต รวมถึงการผลักดันผู้ประกอบการรายย่อยให้สามารถเข้าถึงช่องทางจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ
โดยสรุปแล้ว aro Gold จะเป็นเฮ้าส์แบรนด์ที่เน้นวัตถุดิบระดับพรีเมียมเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องคุณภาพที่คัดสรร ทั้งที่นำเข้าจากต่างประเทศและในประเทศ เช่น ปลา เนื้อสัตว์และพืชผักต่างๆ ที่สำคัญในส่วนของผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุงและพร้อมทานที่ได้ร่วมมือกับเชฟต่างๆ และการร่วมมือกับแบรนด์ต่างๆ ก็อยู่ภายใต้แบรนด์ aro Gold ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ aro Gold ถูกวางเกมเพื่อสร้างความแตกต่างและเสริมสร้างความแข็งแกร่งในตลาด ผ่านสินค้าที่มีคุณภาพและรสชาติที่ยอดเยี่ยม พร้อมทั้งการบรรจุภัณฑ์ที่สะดวกและสวยงาม เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับแบรนด์ aro Gold ซึ่งยังคงแนวคิดเรื่องความคุ้มค่า แต่ก็ต้องยอมรับว่าเมื่อจับตลาดพรีเมียมราคาอาจไม่ถูกเหมือนแบรนด์ aro ปกติ
จับตาการแข่งขันตลาดอาหารสด
ตลาดอาหารสดเป็นหนึ่งในตลาดที่มีการแข่งขันสูงและดุเดือด เนื่องจากผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าที่มีคุณภาพและความสดสูง อย่างที่กล่าวในตอนต้นว่า ในตลาดนี้คู่แข่งที่มีศักยภาพเริ่มปรากฎตัว แน่นอนว่า makro ในฐานะผู้นำตลาดย่อมต้องขยับตัวเพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำตลาด และนำเฮ้าส์แบรนด์อย่าง aro กลับมาสร้างความแข็งแกร่งอีกครั้งในการพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
ซึ่งในการจัดงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2024 ที่ผ่านมา ถือเป็นโอกาสสำคัญในการเปิดตัว aro Gold ในการเจาะกลุ่มพรีเมียม โดยคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ทั่วโลก รวมถึงการสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่นและผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อให้สินค้ามีความสดใหม่และมีคุณภาพสูงสุดเพื่อดึงดูดผู้บริโภคและผู้ประกอบการร้านอาหาร
นอกจากนี้ makro ยังมุ่งเน้นการขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียนและต่างประเทศ โดยเฉพาะสินค้าอาหารไทยเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจอาหารที่ในตอนนี้การท่องเที่ยวที่เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยเฉพาะการสนับสนุนผู้ประกอบการร้านอาหารและโรงแรม
เรียกว่าเป็นการขยับตัวใหญ่ของ makro ในการนำเฮ้าส์แบรนด์อย่าง aro กลับมาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง พร้อมอัพเกรดให้ผลิตภัณฑ์เจาะตลาดพรีเมียมภายใต้แบรนด์ aro Gold เพื่อรับศึกการแข่งขันในตลาดค้าส่งอาหารสดที่จะทวีความรุนแรงการแข่งขันเพิ่มขึ้น