ถอดกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ Made by Todd ของ “ปิติ ภิรมย์ภักดี” กับเส้นทางการเติบโตที่น่าจับตามอง

  • 2.2K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ทำไมใครๆ ก็พูดถึง ‘ซอสต๊อด’?

ใช้เวลาเพียงแค่ 4 ปี “ซอสต๊อด” ก็เป็นที่พูดถึงและเริ่มติดปากใครหลายคน แน่นอนเป็นเพราะส่วนหนึ่งที่ “ต๊อด – ปิติ ภิรมย์ภักดี”เอาชื่อเสียงของตัวเองผลักดันออกมา และส่วนหนึ่งก็เพราะรสชาติในความอร่อยที่คนบอกต่อกันปากต่อปาก แต่ทั้งหมดนี้เพียงพอแล้วหรือที่เราจะบอกว่าทำให้ “ซอสต๊อด” ประสบความสำเร็จ ดังนั้น เราลองมาถอดรหัสแกะกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ “ซอสต๊อด” ของ “ต๊อด – ปิติ ภิรมย์ภักดี” ทายาทสิงห์ กับการพิสูจน์ตัวตนในการเป็น Young Successful Entrepreneur ตัวจริงกันดีกว่าเขามีดีอะไร

 

 

เส้นทาง “ซอสต๊อด” จุดกำเนิดจากแพสชั่นและไลฟ์สไตล์ Foodie

แม้จะเรียกกันอย่างติดปากว่า “ซอสต๊อด” แต่อันที่จริงแล้ว ชื่อแบรนด์ที่ถูกต้องของเขาจริงๆ ก็คือ Made by Todd” โดยจุดเริ่มต้นของแบรนด์นี้เกิดขึ้นมาจากแพสชั่นส่วนตัวของ “ต๊อด” ที่ชื่นชอบในการทำอาหารเป็นทุนเดิม และเมื่อครั้งไปเรียนที่ต่างประเทศ เขาได้ไปเห็นซอสพริกศรีราชา ซึ่งเป็นชื่อของอำเภอหนึ่งในประเทศไทย แต่วางขายในนามของผู้ผลิตเวียดนามมีวางเต็มเชลฟ์ร้านค้าในต่างประเทศ จึงเกิดความคิดว่าทำไมเราไม่มีแบรนด์เครื่องปรุงดีๆ ของไทยมาขายต่างประเทศบ้าง ทั้งๆ ที่อาหารไทยมีของดีเต็มไปหมด จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจที่จะทำซอสของตัวเองขึ้นมา โดยมีเอกลักษณ์และรสชาติของความเป็นไทยออกมาวางจำหน่าย

หลังจากที่เก็บไอเดียนี้ไว้กับตัว “ต๊อด” ไม่ได้เพียงแค่เก็บเข้าลิ้นชัก แต่เขาใช้เวลาถึง 2 ปีในการพัฒนาสูตรซอสของตัวเองขึ้นมา แล้วก็นำไปปรับปรุงสูตรให้เกิดความลงตัวยิ่งขึ้นกับ “เชฟชุมพล แจ้งไพร” จนได้มาเป็นซอสพริกอเนกประสงค์ เป็นสินค้าสูตรแรกวางจำหน่ายกลางปี 2560 โดยใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า ซอส Made by Todd และชื่อที่เรียกเล่น ๆ ว่า “ซอสต๊อด” จดทะเบียนในชื่อบริษัท ฟาเธอร์ ออฟ ออล ซอส จำกัด

 “ ซอสต๊อด  เป็นซอสที่มีรสชาติเฉพาะตัว เผ็ดจัดจ้าน ครบรส  จะจับคู่กินกับอะไรก็เข้ากันดี ด้วยความแตกต่างจากซอสพริกในตลาดปัจจุบัน เป็นรสชาติแบบไทยแท้ ถูกปากผู้บริโภค ซึ่งหลังวางจำหน่ายช่วง 2 เดือนแรก ผู้บริโภคก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดี จนกลายเป็นหนึ่งในซอสที่แทบทุกบ้านต้องมีติดครัว ”

 

จับกระแส Healthy Trend สู่สินค้าเพื่อไลฟ์สไตล์ยุคใหม่

ความสำเร็จในช่วง 1-2 ปีแรก ยังอาจจะไม่ใช่บทพิสูจน์ของแบรนด์น้องใหม่ในตลาดนี้ ด้วยตลาดซอสและเครื่องปรุงมีมูลค่าสูงถึง 47,977 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 4.8% ทำให้มองว่ายังมีโอกาสในการเติบโตต่อไปได้อีก ประกอบกับในช่วงปี 2563-2564 ที่โลกเผชิญกับภาวะโรคระบาดโควิด-19 ส่งผลให้วิถีชีวิตและไลฟ์สไตล์ของผู้คนเปลี่ยนไป ผู้บริโภคหันมาสนใจใส่ใจในการดูแลสุขภาพมากขึ้น เน้นผลิตภัณฑ์ที่ดูแลร่างกาย รวมไปถึงการที่ผู้คนหันมาสนใจในการประกอบอาหารทางเองที่บ้านมากกว่าออกไปทานนอกบ้าน

ดังนั้น ด้วยสายตาผู้บริหารอย่าง “ต๊อด” จึงมองเห็นถึงโอกาสที่แบรนด์ Made by Todd จะเติบโตต่อไปข้างหน้าได้ จึงได้วางเป้าหมายผลักดัน ซอสต๊อด ก้าวสู่เป็น Top 5 แบรนด์ในใจของผู้บริโภคให้ได้ พร้อมกับเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ออกมาสู่ตลาดมากมายให้สอดรับเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ และการเปลี่ยนพฤติกรรมของคอนซูมเมอร์ ที่สำคัญ ยังวางกลยุทธ์การตลาดแบบนอกกรอบไว้มากมายได้อย่างน่าสนใจทีเดียว

 

คิดนอกกรอบแบบ “ต๊อด ปิติ” กับกลยุทธ์ที่รอบด้าน ปั้นแบรนด์จนติดตลาด

กลยุทธ์การคิดนอกกรอบในแบบของ “ต๊อด ปิติ” มีหลากหลายรูปแบบมากทีเดียว เริ่มต้นจากการที่ ใช้ทั้งใบหน้าและชื่อเสียงตัวเองโปรโมทสินค้า ซึ่งต้องบอกว่าน้อยนักที่จะมีผู้บริหารกล้าลงมาเล่นเองลุยตลาดเองแบบนี้ แต่

“ต๊อด” ก็ตัดสินใจไม่ผิดเพราะการปั้นแบรนด์ใหม่บุกตลาดใหญ่อย่างนี้ก็ต้องกล้าที่จะเขย่าตลาดให้เกิดการรับรู้ สร้างอิมแพ็คให้ได้มากๆ ถึงจะสร้างการจดจำได้

ตามมาด้วยการทำมาร์เก็ตติ้งแบบออนกราวนด์ นั่นก็คือการเดินสายโรดโชว์ตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งถือเป็นท่าไม้ตายของแบรนด์ใหม่เพื่อให้ผู้บริโภครู้จักสินค้าแบบใกล้ชิดให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะไปยังตลาด ย่านการค้า ชีพจรลงเท้าเคาะประตูหน้าบ้าน เพื่อให้เกิดการทดลองใช้ทดลองชิม และถ้าชอบถูกใจในรสชาติก็สามารถสั่งซื้อกลับบ้านได้เลย ต่อด้วยการขยี้ต่อบนช่องทางออนไลน์ บนโซเชียลมีเดียต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือว่า LINE เพื่อเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ที่ชอบลองของใหม่อยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรก “ต๊อด” ตัดสินใจไม่พึ่งพาช่องทางโมเดิร์นเทรด เพราะต้องการเซฟต้นทุนอีกทั้งจุดกระจายสินค้ายังไม่ครอบคลุม แต่เมื่อมีความพร้อมแล้วก็ตัดสินใจส่งสินค้าขึ้นเชลฟ์บนชั้นโมเดิร์นเทรด ซูเปอร์มาร์เก็ต อีมาร์เก็ตเพลส เรียกได้ว่าวางกลยุทธ์ไว้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ไม่ผลีผลาม แม้คนจะมองว่าเป็นแบรนด์กระเป๋าหนาแต่ก็เล่นเกมอย่างรอบคอบ

 

หัวใจสำคัญคือการสร้างเอกลักษณ์ให้โปรดักส์ พร้อมมาตรฐานคุณภาพระดับสากล

นอกเหนือจากกลยุทธ์การตลาดที่หลากหลายแล้ว ในความเป็นโปรดักส์ด้านอาหารอย่างไรเสียเรื่องของความอร่อยก็หนีไม่พ้น  จะต้องมีจุดขายที่โดดเด่นเช่นกัน สำหรับจุดเด่นของ Made by Todd ซอสพริกพริก สร้างความแตกต่างในตลาดได้ดีทีเดียว เนื่องจากว่าเป็นซอสพริกอเนกประสงค์ สามารถนำไปจิ้ม ปิ้ง ต้ม ผัด ทอด หมัก หรือผสมกับซอสประเภทอื่นๆ เพื่อใช้ในการประกอบอาหารได้ จึงช่วยในการลดปริมาณการใช้เครื่องปรุงต่างๆ ในการทำอาหารลงได้ถึง 75% ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีซอสปรุงรสใดทำแบบนี้ได้มาก่อนเลย ทำให้ซอสต๊อดจึงเป็นโปรดักส์ที่ไร้คู่แข่ง ดังนั้น ในเรื่องรูปแบบการใช้งานจึงแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดเมืองไทย

ที่สำคัญคือ Made by Todd เป็นซอสที่มีรสชาติเฉพาะตัว เป็นรสชาติแบบไทยแท้ ไม่ใช่ซอสพริกแบบที่มีอยู่ในตลาดแบบปัจจุบันที่เน้นรสเปรี้ยวและหวานเหมือนๆ กันหมด แต่เป็นซอสพริกที่เป็นพริกจริงๆ มีเนื้อพริกผสมอยู่ ผ่านการคัดเลือกพริก 4 สายพันธุ์ ได้แก่ พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า พริกกะเหรี่ยง และพริกยอดสน โดย 1 ใน 4 เป็นพริกที่เผ็ดที่สุดในประเทศไทย ทำให้ซอสมีความหอม รสชาติจัดจ้าน ใช้วิธีการเคี่ยวแบบภูมิปัญญาชาวบ้านมาใช้ในกระบวนการผลิต ที่ได้มาตรฐานการผลิต HACCP สามารถเก็บรักษาได้ 1 ปี ดังนั้น เรื่องของความอร่อยและคุณภาพจึงไม่เป็นสองรองใคร

 

 

ต่อยอดความสำเร็จ กับการพัฒนาโปรดักส์ที่ตอบทุกโจทย์ความต้องการ

หลังจาก Made by Todd ซอสพริกพริก ซึ่งเป็นสินค้าตัวแรกประสบความสำเร็จ ต๊อด ปิติ ต่อยอดความสำเร็จไปยังซอสอื่น ๆ ที่มีรสชาติแตกต่างจากคู่แข่ง เช่น ซอสมะเขือเทศรสเผ็ด ซอสผัดไทย น้ำจิ้มไก่ น้ำจิ้มซีฟู้ด รวมถึงขนมขบเคี้ยวที่มีซอสเป็นส่วนประกอบหลัก เช่น หนังท้องปลาแซลมอนรสซอสต๊อด กล้วยทอดกรอบรสซอสต๊อด ฯลฯ รวมถึงการขยายธุรกิจไปยังอาหารที่ปรุงจากซอสต๊อด เช่น อาหารแช่แข็งพร้อมรับประทาน ในรูปแบบ Ready to Eat อย่างก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นรสจัดจ้าน และการทำรถป๊อปอัพขายอาหาร Made by Todd Popup Restaurant ที่ La Villa Ari เพื่อสร้างรายได้และประสบการณ์ในการรับประทานอาหารรูปแบบใหม่ๆ ที่ทำจากซอสต๊อด และตอกย้ำความอเนกประสงค์ของซอสที่สามารถทำอาหารได้หลากหลาย

 

 

และล่าสุดกับ “ซอสเย็นตาโฟ Made by Todd” ที่ยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ด้วยรสชาติความเผ็ดจัดจ้าน ซึ่งแม้เพิ่งจะลอนช์ออกมาไม่นานก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดี โดย ซอสต๊อดเย็นตาโฟ ด้วยรสชาติความเผ็ดจัดจ้าน และพิถีพิถันการคัดสรรวัตถุดิบเต้าหู้ยี้เกรดพรีเมี่ยม จึงทำให้มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวอันเป็นเอกลักษณ์ สามารถนำมาสร้างสรรค์เมนูอาหารใหม่ๆ เปลี่ยนจากเมนูธรรมดาให้มีรสชาติอร่อยจัดจ้านและสามารถทำกินเองง่ายๆ ได้ที่บ้าน สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ ซอสต๊อดเย็นตาโฟนี้ไม่เพียงแต่นำมาทำก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟหรือเย็นตาโฟหม้อไฟได้เท่านั้น แต่สามารถนำมาครีเอทเมนูได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ข้าวผัดเย็นตาโฟ, เย็นตาโฟผัดแห้ง หรือนำมาใช้เป็นน้ำจิ้มสำหรับสุกี้และชาบูได้อีกด้วย ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของเหล่า Foodie ตัวยงมากมาย

สำหรับโปรดักส์ตัวนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่คนรุ่นใหม่เปลี่ยนไปหันมาเข้าครัวปรุงอาหารทานเองมากขึ้น ชอบความสะดวกรวดเร็ว ที่สำคัญคือ ใส่ใจในการดูแลสุขภาพมากกว่าเดิม แต่ต้องการความสะดวกสบายและความหลากหลายในการปรุงอาหาร

ซอสเย็นตาโฟ Made by Todd บรรจุภัณฑ์ขวดแก้ว ขนาด 330 กรัม ราคา 65 บาท การันตีคุณภาพรางวัล Superior Taste Award 2020 จากสถาบันรับรองด้านรสชาติและคุณภาพอาหารนานาชาติ (ITQI) และรับรองมาตรฐานฮาลาล ซึ่งในช่วงแรกวางจำหน่ายผ่านช่องทาง Facebook ซอสพริกพริก By Todd และหน่วยงานภายใต้บริษัทฯ ในนามของ เทรด แฟคเตอร์ ทั้งช่องทาง Facebook, Line และ Website รวมถึง Shopee, Lazada และ JD Central หลังจากนั้นจะขยายสู่การให้บริการ ฟู้ด เซอร์วิส ขยายฐานลูกค้าผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนสู่อุตสาหกรรมอาหาร ทั้งในธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยงต่อไป นอกจากนี้ซอสต๊อดได้เริ่มขยายสู่ตลาดต่างประเทศ ได้แก่  สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, และฝรั่งเศส เป็นต้น 

จากแพสชั่นส่วนตัวที่เกิดจากความชอบทำอาหาร สู่การปั้นแบรนด์ในฝันของ “ต๊อด – ปิติ ภิรมย์ภักดี” ก่อนหน้านี้หลายคนอาจจะกังขาว่าเขาจะทำสำเร็จได้หรือไม่ แต่ด้วยความมุ่งมั่นและประสบการณ์ที่มี ทุกอย่างที่ “ต๊อด” ทำทั้งคิดค้นเอง ศึกษาด้วยตัวเอง ที่สำคัญคือ การคิดอะไรนอกกรอบแบบที่ไม่ใช่นักธุรกิจทุนใหญ่ทำ แต่เน้นการสู้ที่ใช้กลยุทธ์แบบถึงลูกถึงคน ลุยอย่างมีชั้นเชิงและค่อยเป็นค่อยไป แต่มีหมัดเด็ดไว้ฮุคเมื่อพร้อม วันนี้ “ต๊อด” ได้พิสูจน์ฝีมือของตัวเองแล้วว่าเขาคือ Young Successful Entrepreneur ตัวจริง ที่สามารถปลุกปั้นแบรนด์ของตัวเอง Made by Todd ให้เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคและเข้าไปอยู่ในครัวของทุกคนได้แล้ว


  • 2.2K
  •  
  •  
  •  
  •