อีกข่าวที่วงการค้าปลีกไทยตื่นเต้นกันมากในช่วงโค้งสุดท้ายไตรมาส 1 ปี 65 คือข่าวการเปิดตัว Lotus’s SMART App ซึ่งโลตัสวางจุดขายว่าเป็นแอปพลิเคชันที่รวม “ทั้งโลตัส” มาให้ครบแบบจบในแอปเดียว การที่แอปพลิเคชันได้รวมรีวอร์ดโปรแกรม (Rewards Program) ที่ปรับใหม่และแพลทฟอร์มสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ไว้ในที่เดียวกัน คาดว่าจะยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งให้ SMART และตรงใจกว่าเดิม เพราะมีการใช้ AI (Artificial Intelligence) ประมวลผล big data เพื่อนำเสนอโปรโมชั่นและส่วนลดสินค้าที่ออกแบบโดยเฉพาะสำหรับลูกค้าแต่ละคน
ความน่าตื่นเต้นของ Lotus’s SMART App คือ 3 หลักคิดสำคัญที่เป็นแรงดันหลักให้โลตัสมีภาพความ “สมาร์ทกว่าเดิม” หลักคิดเหล่านี้ประกอบด้วยการอัดแน่น innovative ที่ไม่หยุดอยู่กับที่ การยึดหลักพัฒนาตามดีมานด์ความต้องการที่แท้จริง และการอิงกับไลฟ์สไตล์การช้อปของผู้บริโภคแบบไม่มโน ทั้ง 3 หลักนี้เห็นชัดในแอปจนทำให้ Lotus’s SMART App สามารถเป็นกรณีศึกษาชั้นเยี่ยมเรื่องการยกภาพแบรนด์ให้ทันสมัยขึ้นด้วยแอปพลิเคชัน และแนวคิดการพัฒนาธุรกิจตามอินไซต์ข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคให้โดดเด่น
วันนี้ โลตัสกล้าวางตัว Lotus’s SMART App ให้เป็นขุมพลังหลักในการขับเคลื่อนยอดขายออนไลน์ธุรกิจโลตัสแบบมาราธอน 5 ปีต่อเนื่อง และจะเป็นอาวุธสำคัญในการเพิ่มสัดส่วนยอดขายออนไลน์จากเลขหลักเดียว (single digit) เป็นเลขสองหลัก (double digit) หลังจากที่ธุรกิจออนไลน์ของโลตัสเติบโตแล้วกว่า 250% ในช่วงปี 2564 ที่ผ่านมา ผลจากความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของโควิดและพฤติกรรมการช้อปปิ้งของลูกค้าที่หันมาซื้อของออนไลน์กันมากขึ้น
จับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแบบสมาร์ทขึ้น
อัตราเติบโตธุรกิจออนไลน์ปี 64 ที่โลตัสทำได้ 250% นั้นถือว่านำหน้าเทรนด์ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นปัจจัยเร่งสำคัญที่ทำให้การซื้อสินค้าออนไลน์ในปี 2564 ขยายตัวขึ้นกว่า 30% ซึ่งเป็นผลจากความจำเป็นต้องปิดให้บริการของศูนย์การค้า และความกังวลของประชาชนในเรื่องสุขภาพที่เกิดในช่วงเวลานั้น ตลาดที่เติบโตก้าวกระโดดนี้ไม่เพียงตอกย้ำว่าโลตัสมาถูกทาง ในการประกาศเป้าหมายบริษัทเรื่อง “การขยายธุรกิจ O2O (Online to Offline)” ซึ่งจะรับกับพฤติกรรมการช้อปปิ้งหลังโควิดของลูกค้า แต่ยังสะท้อนถึงความจำเป็นที่โลตัสจะต้องดึง innovation มาจับกับพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไปแบบสมาร์ทขึ้นให้ได้
ความจำเป็นนี้เป็นที่มาของ Lotus’s SMART App ที่เพิ่งเปิดตัวสดๆร้อนๆ ภารกิจนี้ถูกวางจุดยืนเป็นแอปพลิเคชันใหม่ซึ่งรวมออนไลน์ช้อปปิ้งและรีวอร์ดโปรแกรมใหม่ไว้ในที่เดียว ถือเป็นการรวบทุกบริการของโลตัสชนิดจัดมาให้ครบแบบสมาร์ทขึ้นกว่าเดิม เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งาน ทั้งการสะสมและการแลกรีวอร์ดให้ง่ายขึ้น-ทันใจขึ้น-คุ้มขึ้น-และตรงใจขึ้นกว่าเดิม
นางวรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด โลตัส เล่าว่า Lotus’s SMART App เกิดขึ้นเพื่อเป็น one-stop destination และ Lotus’s SMART App จะแทนที่ทุกแอปพลิเคชันทั้งหมดที่โลตัสเคยมี นอกจากแอปพลิเคชั่น Lotus’s SMART App แล้ว โลตัสยังได้เปิดตัว รีวอร์ดโปรแกรม (Rewards Program) ใหม่ ที่มีชื่อว่า My Lotus’s (มายโลตัส) ซึ่งมาแทนที่ระบบเดิม และสามารถใช้ง่านผ่าน Lotus’s SMART App ได้เช่นกัน
ในส่วนโปรแกรม My Lotus’s โลตัสเชื่อว่าโปรแกรมใหม่จะมอบความสะดวกสบายให้กับลูกค้าผ่านแอปพลิเคชันในรูปแบบ 100% paperless ไม่มีการส่งสเตทเมนท์และคูปองไปยังบ้านของลูกค้า ช่วยลดการใช้ทรัพยากรและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และจะมีการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์และประมวลผล big data เพื่อให้สามารถสร้างคูปองส่วนลด โปรโมชั่น สิทธิพิเศษ เสนอแนะสินค้า ที่ตรงใจลูกค้าแต่ละคน
วรวรรณย้ำว่าเป้าหมายของโลตัสคือการให้ลูกค้าทุกคนที่ใช้บริการโลตัส ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกมายโลตัส เพื่อความคุ้มค่าของทุกการใช้จ่าย ซึ่งโลตัสได้วาง 4 จุดเด่นของ My Lotus’s ไว้ชัด ตั้งแต่
1. ความง่ายขึ้นจากการกำหนดให้สมาชิกได้รับ 1 โลตัสคอยน์ทุกการใช้จ่าย 100 บาท
2. ความทันใจขึ้นจากการแปลงค่า 1 โลตัสคอยน์ = 1 บาท ซึ่งสามารถใช้เป็นส่วนลดได้ทันที ทั้งในสาขาและในแอปพลิเคชัน โดยไม่ต้องรอการส่งสเตทเม้นท์รายเดือนและคูปองอีกต่อไป
3.ความคุ้มขึ้น จากกติกาว่าสมาชิกจะสามารถแลก 50 โลตัสคอยน์ เป็นคูปองเงินสด 100 บาทได้ 1 ครั้งต่อเดือน เพิ่มความคุ้มค่า 2 เท่า และ 4. ความตรงใจขึ้นด้วยคูปองเงินสด ส่วนลด และดีลรู้ใจกว่า 200 รายการ จากการประมวลผลของ AI ที่ตรงความต่้องการลูกค้าแต่ละราย
เพื่อขอบคุณลูกค้าที่ดาวน์โหลด Lotus’s SMART App โลตัสยังเน้นความ innovative ด้วยการร่วมมือกับศิลปิน NFT ในการสร้างชิ้นงานศิลปะที่เป็นทรัพย์สินดิจิทัล เพื่อแจกให้ลูกค้าฟรี โดยลูกค้าสามารถเริ่มเก็บ ticket code บนแอปฯ ตั้งแต่ 1-30 เมษายน นี้ เพื่อแลก MyLotus’s NFT Art ด้วย
ไร้รอยต่อ อิงกับไลฟ์สไตล์
อีกส่วนสำคัญของ Lotus’s SMART App คือแพลทฟอร์มออนไลน์ช้อปปิ้ง ที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์การสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ของลูกค้าและเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ O2O ของโลตัส ซึ่งโลตัสเชื่อว่าจะเพิ่มความ SMART และไร้รอยต่อ (seamless) ในช่องทางออมนิแชนแนลของทั้งสาขาและออนไลน์
นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ กลุ่มโลตัสส์ เอเชีย-แปซิฟิก ยกเว้นประเทศจีน กล่าวว่า Lotus’s SMART App คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของยอดขายออนไลน์ในระยะยาว 5 ปีข้างหน้า ตัวแอปพลิเคชันที่ได้มีการพัฒนาออนไลน์ช้อปปิ้งให้มีประสิทธิภาพและสะดวกสบายกว่าเดิมในการใช้งาน จะเสริมกับจุดแข็งของธุรกิจออฟไลน์ของโลตัส เรื่องการมีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งจะเข้ามาช่วยเติมเต็มธุรกิจออนไลน์
ธรินทร์ย้ำว่าสาขาทั้งไฮเปอร์มาร์เก็ตและโลตัส โก เฟรช รวมกว่า 2,300 สาขา จะเป็นจุดกระจายสินค้า ส่งสินค้าตรงถึงมือลูกค้าได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพขึ้น ด้วยระยะทางที่ใกล้บ้านลูกค้ามากขึ้น การจัดส่งสินค้าผ่านแอปทำได้หลายรูปแบบ โดยค่าจัดส่งสมเหตุสมผล เนื่องจากจัดส่งจากสาขาที่ตั้งอยู่ใกล้สถานที่จัดส่งของลูกค้าที่สุด ขณะเดียวกัน โลตัสยังมีการจับมือกับพันธมิตรแพลทฟอร์ม delivery มากมาย และมีฟลีทขนส่งของโลตัสเอง ทำให้สามารถจัดส่งได้ยืดหยุ่น สามารถติดตามสถานะการจัดส่งสินค้าได้
ความไร้รอยต่อของ Lotus’s SMART App ยังอยู่ที่การมีสินค้าที่หลากหลายกว่า 30,000 รายการ ทั้งอาหารสด อาหารแห้ง สินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งหมดอัปเดทสต็อคสินค้าแบบ real-time โดยที่ทุกการใช้จ่ายบนช่องทางออนไลน์ จะสามารถสะสมและแลกใช้โลตัสคอยน์ได้อย่างไร้รอยต่อภายในแอปพลิเคชันเดียว
ทั้งหมดถือเป็นความครบที่แอปพลิเคชันอื่นไม่มี และความเด่นของ Lotus’s SMART App นั้นยิ่งดันให้โลตัสมีภาพความ “สมาร์ท” ยิ่งขึ้นสมชื่อ ซึ่งทำได้บน 3 หลักคิดคือการอัดแน่น innovative การพัฒนาตามดีมานด์ และการอิงไลฟ์สไตล์การช้อปของผู้บริโภค นับว่าเป็นสูตรสำเร็จที่จะทำให้ Lotus’s SMART App สามารถเป็นขุมพลังขับเคลื่อนยอดขายออนไลน์ธุรกิจโลตัสแบบยิงยาว 5 ปีได้ไม่ยาก.