โลตัส หลังรีแบรนด์ครั้งใหญ่ และกลับมาอยู่ในบ้านเดิม ได้แก่ “เครือซีพี” พร้อมกับเปลี่ยนสโลแกนใหม่เป็น “รู้สึกดีดีทุกวัน ที่โลตัส” พร้อมกับเติม ตัว “S” มาอีก 1 ตัว ซึ่งปรากฏว่าหลายคนสงสัย เหตุใดถึงเติมตัว “S” เพราะอันที่จริงก็ค่อนข้างผิดหลักทางภาษาอังกฤษ เราก็มีคำตอบมาอธิบายให้ฟัง
สำหรับ ตัว “S” ที่เพิ่มเข้ามา ทางโลตัส ต้องการสื่อถึง คำว่า “SMART” เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์การช้อปิ้งแบบ Smart ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคปัจจุบันและในอนาคต ทั้งนี้คำว่า SMART ก็ยังมีที่มาของแต่ละตัวอีกด้วย ได้แก่
S = Simple
M = Motivation
A = Agile
R = Responible
T = Transformative และ Sustainability
นอกจากความหมายของตัวอักษรด้านบนแล้ว คำว่า Smart ยังสื่อถึงความครอบคลุมทุกด้าน ที่มาจากเอกลักษณ์ที่สร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ 4 ข้อด้วยกันดังนี้
- Total smart supply chain and innovative products คัดสรรคุณภาพที่ดีที่สุด เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น
- Seamless omni-channel experience ให้คุณรู้สึกดีดี ได้ทุกที่ ทุกเวลา
- Integrated technology and data innovation ความคุ้มค่าที่มากกว่าแค่ราคา และออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ
- Committed sustainability living เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคน
ในขณะที่เครื่องหมาย ’ ที่ออกแบบเป็นรูป Drop Pin ยังสื่อถึงการปักหมุดให้โลตัสเป็นจุดหมายที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าอีกด้วย
และตามข่าวที่ปรากฏคือ ขณะนี้ โลตัส ที่มีการรีแบรนด์ดิ้ง นำร่องอยู่ 2 สาขา ได้แก่ 1)โลตัส สาขาเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา ซึ่งเป็นร้านค้าขนาดใหญ่ ที่ได้รับการปรับพื้นที่ทุกบริเวณของสาขา ทั้งในส่วนซูเปอร์มาร์เก็ตและศูนย์การค้า เพื่อให้เป็น Mega Food Store ที่มีอาหารครบครัน ทั้งในส่วนของซูเปอร์มาร์เก็ต แผนกอาหารสด อาหารพร้อมทาน และอาหารแห้ง รวมถึงร้านค้าเช่า และศูนย์อาหาร โดยบริการใหม่ๆอีกมากมายเพื่อชิวิตที่สะดวกสบายกว่าเดิม และ 2)โลตัสสาขาเอกชัย 99 ซึ่งเป็นร้านค้าขนาดเล็ก ได้รับการปรับโฉมเป็นแบรนด์ “Lotus’s go fresh” ที่เน้นการมอบสินค้าอาหารสุดคุณภาพสูงอย่างครบครัน พร้อมสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคนิวนอร์มัลที่ขยับมาซื้ออาหารสดในร้านขนาดเล็กที่ใกล้บ้านมากกว่าเดิม