ในยุคดิจิทัล ไม่มีธุรกิจใดที่ไม่ถูก Disrupt ไม่เว้นแม้แต่วงการความสวยความงามที่เกิด “Beauty Tech” ดังนั้นธุรกิจที่จะอยู่ได้คือ ธุรกิจที่ปรับตัว และสร้าง Business Model ใหม่
เหมือนเช่น “ลอรีอัล กรุ๊ป” (L’Oréal) ในวันนี้ไม่จำกัดตัวเองอยู่แค่การเป็นผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงามภายใต้แบรนด์ต่างๆ ในเครือเท่านั้น แต่ได้ยกระดับไปอีกขั้นด้วยการเป็น Beauty Innovator ที่ผสานทั้งการคิดค้นผลิตภัณฑ์ความงาม กับเทคโนโลยีความงามเข้าด้วยกัน
ในงาน CES 2020 “ลอรีอัล” ได้ใช้จังหวะนี้เปิดตัว “Perso” เทคโนโลยีความงาม 3 in 1 ที่ใช้ “AI” มาวิเคราะห์สภาพผิว – สภาพภูมิอากาศ และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้บริโภคผสมสี และสูตร “ผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิว – ลิปสติก – รองพื้น” ที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล โดยมีความสูง 6.5 นิ้ว และน้ำหนัก 1 ปอนด์
“เราสร้าง และสืบทอดมรดกทางด้านวิทยาศาสตร์ และความเป็นผู้นำนวัตกรรม การเปิดตัว “Perso” เป็นอีกครั้งที่เราพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ และบริการความงามอัจฉริยะ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ลงลึกระดับเฉพาะบุคคล (Personalization) ที่มีความแม่นยำ“ Nicolas Hieronimus รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารลอรีอัล เล่าถึงวิสัยทัศน์
พร้อมทั้งขยายความเพิ่มเติมต่อว่า “เรามุ่งมั่นที่จะผลักดันให้ลอรีอัลเป็นผู้นำด้าน Beauty Tech และ “Perso” คือ ก้าวต่อไปในการเดินทางที่น่าตื่นเต้นของลอรีอัล”
ทำความรู้จัก Perso มีกระบวนการทำงานอย่างไร ?
อุปกรณ์เทคโนโลยี 3 in 1 “Perso” มีกระบวนการทำงานใน 4 ขั้นตอน
1. วิเคราะห์สภาพผิวส่วนบุคคล
ผู้ใช้งานเปิดแอปพลิเคชัน Perso บนสมาร์ทโฟน จากนั้นถ่ายภาพด้วยกล้องมือถือ แอปฯ ดังกล่าวมีเทคโนโลยี AI ที่เรียกว่า “ModiFace” ทำหน้าที่วิเคราะห์สภาพผิวของผู้ใช้งานคนนั้นๆ เช่น ริ้วรอยร่องลึก, จุดด่างดำ, รูขุมขน
2. การประเมินผลด้านสิ่งแวดล้อม
การเอาข้อมูลตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ผ่านการวิเคราะห์โดย “Breezometer” แพลตฟอร์มวิเคราะห์สภาพอากาศแวดล้อม อุณหภูมิ มลภาวะ ค่ารังสี UV และความชื้น เนื่องจาปัจจัยเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อสภาพผิวด้วยเช่นกัน
3. ตั้งค่าผลิตภัณฑ์ ให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานแต่ละคน
ขั้นต่อมา ผู้ใช้งานป้อนข้อมูลปัญหาสภาพผิวของตัวเองลงไปในแอปฯ Perso รวมทั้งสามารถระบุเนื้อสัมผัส และระดับความชุ่มชื้นของครีมผิวหน้า, เซรั่ม, และครีมบำรุงใต้ตาที่ต้องการต้องการ
4. ผสมสูตรผลิตภัณฑ์เฉพาะคุณ
เมื่อป้อนข้อมูลเข้าไป อุปกรณ์ Perso จะคำนวณ และผสมสูตรออกมาเป็นครีมบำรุงผิว, ลิปสติก, รองพื้นของแต่ละบุคคล โดยจะออกมาด้านบนของอุปกรณ์ Perso เพื่อการใช้งานที่ง่าย และสะอาด โดยครีม, ลิปสติก, รองพื้นที่ออกมาจากอุปกรณ์นี้ สามารถตั้งค่าได้ว่าจะผลิตสำหรับใช้เพียงครั้งเดียว หรือผลิตออกมาในปริมาณที่มากขึ้น เพื่อใช้สำหรับการเดินทาง
“ลอรีอัล” วางแผนจะเปิดตัว Perso สู่ตลาดพร้อมกับพันธมิตร และแบรนด์ในเครือลอรีอัลในปี 2021
“Perso” จิ๊กซอว์ทำให้ “ลอรีอัล” ได้ Data ผู้ใช้งาน
เมื่อวิเคราะห์ถึงเทคโนโลยี Perso ที่ตอบโจทย์ยุค Personalization ในอีกมุมหนึ่งคาดว่าสิ่งที่ “ลอรีอัล” จะได้กลับมาคือ Big Data ซึ่งเป็นข้อมูลต่างๆ ที่ผู้บริโภคป้อนลงไป จะทำให้ในระยะยาว “ลอรีอัล” สามารถนำ Data ดังกล่าวมาวิเคราะห์ เพื่อทำความเข้าใจผู้บริโภคในวันนี้
พร้อมทั้งคาดการณ์เทรนด์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สำหรับพัฒนาผลิตภัณฑ์ – บริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค จึงนับได้ว่าเจ้าอุปกรณ์ Perso สร้าง Win-Win ให้กับทั้งฝั่งผู้บริโภค ที่ได้ครีมบำรุงผิว – ลิปสติก – รองพื้นแบบที่ตัวเองต้องการ ขณะเดียวกันเป็นจิ๊กซอว์ให้กับฝั่งลอรีอัลได้ฐานข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค มาใช้ต่อยอดธุรกิจในอนาคต
source : PR Newswire
