ใครหลายคนพอพูดถึง LinkedIn เชื่อว่าสิ่งแรกที่จะนึกถึงก็คือ คลังตำแหน่งงานต่างๆ ทั่วโลก ใครที่มองหาโอกาสทำงาน หรือต้องการพนักงานมีศักยภาพทั้งหลาย LinkedIn คือหนึ่งในแพลตฟอร์มยอดนิยมของคนทั่วโลก
แต่ล่าสุดคำพูดของ Penry Price รองประธานฝ่ายโซลูชั่นการตลาดของ LinkedIn ประกาศในระหว่างที่รายงานผลประกอบการ สำหรับไตรมาส 1 ของปีงบประมาณ 1022 ระบุว่า LinkedIn มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นประมาณ 42% ส่วนรายได้จากการโฆษณาเพิ่มขึ้น 61% เทียบปีต่อปี (YOY)
“รายได้ที่แข็งแกร่งของ LinkedIn ทำให้เราคิดว่าอาจจะปรับเปลี่ยนรูปแบบแพลตฟอร์มให้ต่างไปจากเดิม โดยเพิ่มหรือให้ความสำคัญกับฟีเจอร์ใหม่ๆ โดยเฉพาะที่จะทำให้ภาพลักษณ์ LinkedIn เป็นแพลตฟอร์มสื่อสังคมมากกว่านี้”
อันที่จริงสำหรับ Marketing Solutions ของ LinkedIn ถูกมองว่าเป็นธุรกิจโฆษณา(เกี่ยวกับอาชีพ) อยู่บ่อยๆ แต่ความเป็นจริงเรามีฟีเจอร์ที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน หรือจะเป็นเพื่อจุดประสงค์อื่น เช่น การหาข้อมูลอยู่แล้ว ซึ่งมองว่าควรต่อยอดจุดนี้ให้แข็งแรงขึ้น
โดยในปีที่ผ่านมา Penry Price เปิดเผยว่า พนักงานบริษัทต่างๆ ทั่วโลกใช้ LinkedIn ในการสื่อสารกัน เข้ามามีส่วนร่วมในแพลตฟอร์มมากขึ้นประมาณ 45-48% โดยเฉพาะการพรีเซนต์องค์กรที่ตัวเองทำงานอยู่ อย่างเช่น “ฉันรักที่จะทำงานที่นี่” หรือ “บริษัทนี้น่าสนใจมากหากได้ร่วมงาน” ซึ่งมองว่าเป็น interaction อย่างหนึ่งระหว่างผู้คนในโซเชียลมีเดีย
ทั้งนี้ เขายังเปรยๆ ด้วยว่า ต้องการเพิ่มการมองเห็นในอัลกอริทึมในลักษณะนี้มากขึ้นบน LinkedIn รวมไปถึง การแชร์ข้อมูล หรือความรู้บางอย่างที่มีประโยชน์ต่อกลุ่มคนหางาน หรือแนวคิดของระดับผู้บริหาร
ขณะที่แผนการขยายฟีเจอร์บน LinkedIn ยังอยู่ในระหว่างศึกษาก่อนลงทุน คาดว่าอาจจะเป็นฟีเจอร์เพื่อกิจกรรมเสมือนจริงบน LinkedIn หรือเป็นการไลฟ์วิดีโอก็ได้ ซึ่งเครืองมือเหล่านี้คือตัวช่วยในยุคดิจิทัลที่ควรศึกษา และเป็นประโยชน์ต่อผู้คนที่ยังเผชิญกับการแพร่ระบาด
อย่างที่ Melanie Aronson, CEO ของ Panion ที่พูดว่า สำหรับ LinkedIn มีอะไรมากกว่านั้นไม่ใช่แค่มีไว้หางาน เวลาที่ฉันต้องการข้อมูลบางอย่างจากคนหนึ่งในแพลตฟอร์ม ฉันสามารถติดต่อเขาได้โดยตรงเพื่อขอข้อมูลนั้น หรือแลกเปลี่ยนข้อมูลบางอย่างระหว่างกันได้ โดยที่ไม่รู้สึกอึดอัดหรือเกรงใจ ฉันมองว่า LinkedIn เป็นพื้นที่ของผู้เชี่ยวชาญหลายคน รวมไปถึงระดับผู้บริหาร, เจ้าของกิจการ, นักพัฒนา ฯลฯ ดังนั้นในอนาคตการเพิ่มฟีเจอร์เพื่อการปฏิสัมพันธ์อาจจะมีอะไรน่าสนใจมากกว่าที่เห็น
Penry Price พูดทิ้งท้ายว่า “มีความเป็นไปได้ที่จะเห็น LinkedIn ถูกใช้แทนเว็บไซต์ของบริษัทในอนาคต เพราะบุคคลภายนอกสามารถเช็คข้อมูลของบริษัท/บุคคลนั้นๆ ได้ที่ LinkedIn เช่นกัน”
ที่มา: martech