เปิดกลยุทธ์ LINE TV ปี 2018 ไม่ได้มา Disrupt สื่อเดิม แต่มาเพื่อเติบโตไปด้วยกัน

  • 519
  •  
  •  
  •  
  •  

line tv

จากความสำเร็จในปี 2017 ภายใต้การเป็น Mobile Portal ที่รวมทุกอย่างบนแพลตฟอร์มเดียว วันนี้ LINE TV ได้ประกาศความสำเร็จอีกครั้ง ด้วยการเป็นผู้นำแพลตฟอร์มดูวิดีโอย้อนหลังอันดับ 1 ในไทย (ข้อมูลจาก Nielsen)  ภายในเวลาเพียง 3 ปีเท่านั้น ด้วยยอดดาวน์โหลดกว่า 20 ล้านครั้ง พันธมิตรรวมทั้งสิ้นกว่า 161 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2016 ถึง 90% ส่งผลให้ในปี 2017 LINE TV มีเม็ดเงินโฆษณาเติบโตขึ้น 100% โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากโฆษณา ทั้ง Pre-Roll Ads (โฆษณาที่เล่นก่อนคอนเทนต์) และ Sponsor Ads

Insight ที่น่าสนใจของ LINE TV ในปี 2017

• ผู้ชม LINE TV ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ 15-35 ปี คิดเป็น 60% ของผู้ชมทั้งหมด
• ผู้ชม LINE TV ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ – หัวเมืองใหญ่ 80% และต่างจังหวัด 20%
• ผู้ชม LINE TV ใช้เวลาเฉลี่ย 176 นาทีต่อวัน คิดเป็น 2 ใน 3 ของการรับชมทีวีทั่วไป
• ยอดวิวส่วนใหญ่ของ LINE TV มาจากคอนเทนต์ทางทีวี
• ในปี 2017 คอนเทนต์ที่มียอดวิวสูงสุดใน LINE TV คือ ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ เดอะ ซีรีส์ ซีซั่น 2 มียอดวิว 210 ล้านวิว
• ปัจจุบัน LINE TV มี 7 Category ได้แก่ ละคร-ซีรี่ส์, บันเทิง, เพลง, ไลฟ์สไตล์, อนิเมชั่น, กีฬา และ Live

28312349_10155106201706960_1176172176_o-700

LINE TV ตั้งเป้าขึ้นเป็นอันดับ 1 แพลตฟอร์มออนไลน์วิดีโอในไทย

สำหรับปีนี้ LINE TV ตั้งเป้าขึ้นเป็นอันดับ 1 แพลตฟอร์มออนไลน์วิดีในไทย คุณกวิน ตั้งอุทัยศักดิ์ ผู้อำนวยการธุรกิจคอนเทนต์ LINE ประเทศไทย เล่าถึงกลยุทธ์หลักของ LINE TV ในปี 2018 ว่า แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ คอนเทนต์ และพาร์ทเนอร์

คอนเทนต์ ประกอบไปด้วย 3 ส่วน

• คอนเทนต์ทีวีรีรัน ซึ่งเป็นหัวใจหลักของ LINE TV อาทิ ช่อง 3, เวิร์คพอยท์ และช่อง 8 โดยหลังจากเริ่มออนแอร์ทางทีวี 2 ชั่วโมง ผู้ชมใน LINE TV สามารถชมย้อนหลังในแอพฯ ได้
• Original Content หรือคอนเทนต์ที่ดูได้เฉพาะบน LINE TV เท่านั้น ในปีนี้ LINE TV จะเน้นคอนเทนต์ที่มีคุณภาพมากขึ้น ทั้งซีรี่ส์ และรายการวาไรตี้ โดยร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ อาทิ ONE31, GMM TV, เวิร์คพอยท์ และกันตนา เป็นต้น
• Music experience สร้างประสบการณ์แปลกใหม่ในการฟังเพลง เดินหน้าสู่การเป็น Music destination อาทิ การไลฟ์สด การจัดคอนเสิร์ต ฯลฯ

พาร์ทเนอร์ที่หลากหลาย

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าในปีที่ผ่านมา LINE TV มีพาร์ทเนอร์ 161 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2016 เกือบ 100% มีทั้งช่องทีวี และผู้ผลิตคอนเทนต์ในสื่อออนไลน์ ในปีนี้ LINE TV ตั้งใจจะขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น จึงต้องเสิร์ฟด้วยคอนเทนต์ที่หลากหลาย อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ แน่นอนว่าพาร์ทเนอร์เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ข้อนี้ เนื่องด้วย LINE TV เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เต็มไปด้วยคอนเทนต์จากพาร์ทเนอร์ การร่วมมือส่วนใหญ่ จะเป็นลักษณะการลงทุน ให้อิสระในการทำงานเต็มที่ เพื่อให้เกิดคอนเทนต์ที่หลากหลาย

ในปีนี้ LINE TV ยังได้จับมือกับหลากหลายพันธมิตรเพื่อสร้างสรรค์ออริจินัลคอนเทนต์ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของรายการที่ร่วมมือกับ บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน), บริษัท เจเอสแอล โกลบอล มีเดีย จำกัด, Bear Cave บริษัท โนแมดิค โปรดักชั่น จำกัด, บริษัท จีเอ็มเอ็ม ทีวี จำกัด และ บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เพื่อสร้างสรรค์ซีรี่ส์อย่าง Together With Me: The Next Chapter, GGEZ, It’s Complicated, Hipster or Loser, The Deadline และรายการต่างๆ อย่าง Dance Dance Dance, The Hidden Songs, Food Tribe, ก็กูทำไม่เป็น และ Drag Race Thailand

ไม่ได้มา Disrupt สื่อเดิม แต่มาเพื่อเติบโตไปด้วยกัน

เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงมาโดยตลอด สำหรับการ Disrupt สื่อทีวี คุณกวิน กล่าวว่า เมื่อดูจากเม็ดเงินโฆษณา จะเห็นว่าสื่อทีวียังเป็นสื่อที่แบรนด์ต่างๆ ลงเม็ดเงินโฆษณาไปมากที่สุด นั่นจึงชี้ชัดได้ว่า สื่อทีวียังไม่ตาย เราเชื่อมั่นว่า LINE TV ไม่ได้เข้ามาแทนสื่อทีวี แต่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสนับสนุนสื่อหลัก ขยายฐานผู้ชมจากการรับชมทีวีแบบทั่วไปสู่การรับชมแบบออนไลน์ เรียกว่าเป็นการร่วมมือเพื่อสร้างให้องค์กรเติบโตไปด้วยกัน แพลตฟอร์มออนไลน์เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่เข้ามาตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในทุกวันนี้

สำหรับแผนต่อไป คุณกวิน เผยว่า นอกจากการเพิ่มยอดดาวน์โหลดแล้ว เรายังต้องการเพิ่มคอนเทนต์ที่มีคุณภาพให้มากขึ้น เน้น Local Content เป็นหลัก รวมถึงการพัฒนาแอพฯ ให้รองรับกับการใช้งานบนสมาร์ททีวีด้วย

 

 


  • 519
  •  
  •  
  •  
  •