ผ่านไปแค่สองเดือนกว่าๆ หลังจากเปิดแถลงข่าวกลยุทธ์ LINE TV2018 ตั้งเป้าขึ้นเป็นอันดับ 1 แพลตฟอร์มออนไลน์วิดีโอในไทย มาวันนี้ LINE TV เดินหน้าผลิตออริจินัลคอนเทนต์ 4 เรื่อง 4 รสชาติ โดยจับมือร่วมกับสตูดิโอหน้าใหม่ในเครือกลุ่มธุรกิจ Ookbee U อย่าง Bearcave Studio เพื่อเตรียมลงจอ LINE TV ในช่วงครึ่งหลัง โดยมั่นใจว่าจะช่วยขยายฐานยุสเซอร์บนโลกออนไลน์ และผลักดัน LINE TV ขึ้นสู่เบอร์ 1 วิดีโอแพลตฟอร์มออนไลน์ในประเทศไทย
การตั้งเป้าเป็นวิดีโอแพลตฟอร์มออนไลน์อันดับ 1 ของประเทศไทย โดยเน้นกลยุทธ์การสร้างคอนเทนต์ที่แข็งแรง และร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความชำนาญในด้านต่างๆ เพื่อนำเสนอและสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่หลากหลาย และคาดว่าจำนวนออริจินัลคอนเทนต์บน LINE TV จะเติบโตขึ้นกว่าเท่าตัวในปีนี้
ก่อนหน้านี้ LINE TV และ TV THUNDER ก็มีการร่วมมือผลิตคอนเทนต์ ทั้งประเภทรายการและซีรีส์ เพื่อผู้ชมบนแพลทฟอร์มทีวีย้อนหลังอย่าง LINE TV ที่ถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ร่วมกัน ของผู้นำการผลิตคอนเทนต์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ชั้นนำของไทย
Platform + Content
“ปีนี้เรามีแผนที่จะผลิตคอนเทต์ร่วมกัน 4 คอนเทนต์ ซึ่งมีจุดเด่นที่แตกต่าง และมีเป้าหมายสร้างกลุ่มผู้ชมที่หลายหลาก ซึ่งตอบโจทย์ LINE TV ในการขยายฐานผู้ชมให้กว้างมากขึ้น มั่นใจว่าทั้ง 4 คอนเทนต์นี้ จะถูกใจแฟนๆ LINE TV ช่วยตอบโจทย์พฤติกรรม และไลฟ์สไตล์ของผู้ชมยุคดิจิทัล ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว ในการรับชม และช่วยผลักดันฐานผู้ชม LINE TV ให้ครอบคลมทุกกลุ่มมากขึ้น และเติบโตไปพร้อมๆ กันอย่างแน่นอน” คุณพัลภา มาโนช หัวหน้าธุรกิจ LINE TV LINE ประเทศไทย กล่าว
ภาพรวมแพลตฟอร์มวิดีโอรีรัน LINE TV เปิดให้เซอร์วิสในประเทศไทยมากว่า 3 ปี ตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2014 ซึ่งเป็นหนึ่งในเซอร์วิสที่เติบโตมากที่สุดของ LINE ประเทศไทย ที่เป็น New-Service รองจาก Chat Apps มี User 20 ล้านดาวน์โหลด ส่วนจำนวน Active User ก็ไม่ได้ต่างกันนักสำหรับผู้ที่เข้ามาใช้ ด้านคอนเทนต์ก็มีการขยายจากละคร วาไรตี้ มิวสิค อนิเมชั่น ไปสู่บิวตี้ สปอร์ต ส่วนพาร์ทเนอร์ปีที่แล้วเติบโตมากกว่า 50% มีพาร์ทเนอร์มากกว่า 160 รายที่ทำงานคู่กับ LINE TV
Bearcave Studio เป็นผู้ผลิตซีรีส์รายใหม่ แต่ Background จะมาจากโลกออนไลน์และสตาร์ตอัพ มี Platform Online Story นิยายแชทซึ่งได้ใกล้ชิดกับผู้ผลิตคอนเทนต์และผู้เสพคอนเทนต์ในโลกออนไลน์ ต่อยอดออกมากลายเป็นผลิตซีรีส์ เป็นสตูดิโอหน้าใหม่ แต่มากประสบการณ์และเชี่ยวชาญด้านคอนเทนต์ รู้ถึงความต้องการ รวมถึงข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคคอนเทนต์ในตลาดปัจจุบัน และ LINE TV มองเห็นว่าศักยภาพของ Bearcave Studio จะช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้ชม LINE TVได้
“จากที่มีอยู่แล้ว แต่เราก็จะหาพาร์ทเนอร์รายใหม่เรื่อยๆ เพื่อที่จะมาผลิตคอนเทนต์ให้ได้ชมกันใน LINE TV ซึ่ง Bearcave Studio เป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์ที่เริ่มคุยกัน Bearcave Studio รู้อยู่แล้วว่าเทรนด์คืออะไร User อยากดูอะไร คุณภาพ และลักษณะต้องฉีกออกมาจากคอนเทนต์บนทีวีทั่วไป นี่จึงเป็นที่มาของการบวงสรวงซีรีส์ 4 เรื่อง ที่จะออนแอร์ภายในปีนี้” คุณพัลภากล่าว
ส่วน Bearcave Studio ก็ต้องการสื่อสารว่า อะไรคือลายเซ็นต์ของพวกเขา อยากสร้างผลงานก้าวแรก อยากทำซีรีส์ให้เป็นแบว่า แม้แต่พวกเขาเองก็อยากดู ซึ่งเป็นจังหวะที่ดีที่ได้คุยกับ LINE TV ความร่วมมือจึงเกิดขึ้น
คุณเปรมวิชช์ สีห์ชาติวงศ์ ประธานกรรมการบริหารBearcave Studio มองว่า สิ่งที่ทำให้ Bearcave แตกต่างจากผู้ผลิตคอนเทนต์รายอื่นๆ นั่นคือ ประสบการณ์ที่คุ้นเคยกับวงการสตาร์ตอัพในอุตสาหกรรมคอนเทนต์มาก่อน ไม่ว่าจะเป็น Ookbee Comic, Storylog, Fictionlog, Joylada และแพล็ตฟอร์มอื่นๆ ใน Ookbee U
ถือเป็นก้าวแรกของ Bearcave สตูดิโอหน้าใหม่ ที่ได้จับมือกับ LINE TV เพื่อผลิตออริจินัลคอนเทนต์ที่สดใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ชม
“ความแตกต่างจากผู้ผลิตคอนเทนต์เจ้าอื่นๆ คือ ประสบการณ์ของทั้งตัวผมเอง และคุณหมู-ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ประธานกรรมการบริหารของ Ookbee และ Ookbee U ซึ่งเล็งเห็นแล้วว่ามีคอนเทนต์ดีๆ มากมาย ในกลุ่มนักเขียนนักอ่านที่เรียกว่า User-Generated Content (UGC) และจากการมีข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ เราสามารถนำเสนอซีรีส์ที่ตอบโจทย์คนดูได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงเป็นการนำ UGC มาพัฒนาต่อยอดให้เป็นซีรีส์ในรูปแบบ Professional-Generated Content (PGC) นั่นเอง”
นอกจากนี้ IP Development เป็นสิ่งที่ทำให้ Bearcave Studio แตกต่างและโดดเด่น โดยในแพล็ตฟอร์มของ Ookbee U ทั้งหมด มี Monthly Active User มากกว่า 8 ล้านคน และมีคอนเทนต์มากกว่า 5 แสนเรื่อง โดยการผลิตคอนเทนต์ซีรีส์ทั้ง 4 เรื่องแรกนี้ Bearcave Studio ยังมีแผนขยายคอนเทนต์ออกไปในรูปแบบต่างๆ ทั้งการ์ตูน หรือนิยาย เป็นต้น โดยจะผ่านบนช่องทางต่างๆ ของ Ookbee U
4 เรื่อง 4 แบบ
ซีรีส์ 4 เรื่องที่สร้างร่วมกันนั้น จะค่อนข้างวัยรุ่นหน่อย ได้แก่
GGEZ เกรียนเมพเทพศาสตร์ เรื่องราวของแชมป์e-Sportsระดับโลก มีทั้งตลก แก๊งค์เกรียนมารวมตัวกันเล่นเกม อาจเป็นอีกยูนิเวิร์สที่หลายๆ คนอาจจะไม่เคยรู้ เริ่มออนแอร์กรกฏาคมนี้
It’s Complicated เพราะรักมันซับซ้อน เมื่อก่อนเส้นทางชีวิตแต่ละคน แต่จะเริ่มโสด มีแฟน แล้วก็แต่งงาน แต่ปัจจุบัน It’s Complicated มันเป็นยังไง เป็นเรื่องวัยรุ่นนิดๆ เป็นความสัมพันธ์ของคนเมืองซึ่งปัจจุบันมันซับซ้อน เล่าผ่าน 3-4 เส้นอย่างตรงไปตรงมาที่สุด ออนแอร์สิงหาคม
Hipster or Loser เป็นเรื่องของ Hipster แบบสุดทาง สุดโต่ง เป็นยูนิเวิร์สที่น่าสนุก บางคนแซวว่า Hipster ทำไมต้องปั่นจักรยาน Hipster ทำไมต้องกินกาแฟดริป แก๊งค์สุดทางมารวมตัวกันแล้วเปิดร้านคาเฟ่ มีแต่ความยุ่งเหยิง แต่น่ารัก เป็นแนวคอมเมดี้ เริ่มออนแอร์กันยายน และ
The Deadline คอนเซ็ปต์พูดถึงผู้หญิงทุกคนจะมีเดดไลน์ไม่เหมือนกัน เช่น อยากแต่งงานก่อนอายุ 30 อยากเป็นBlogger ชื่อดังก่อนถึงจะแต่งงาน อยากมี Follower เท่านั้นเท่านี้ก่อน อยากจะประสบความสำเร็จในการทำงานในอายุเท่าไหร่ ทุกคนมีเดดไลน์หมด แต่มันจะไปถึงไหม และมันจะเป็นยังไง ถ้าเดดไลน์มันสั้น มันมีมะเร็งมาเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องแต่ไม่เศร้า ดูแล้วน้ำตาไม่ไหล แต่ดูแล้วอบอุ่น น่ารัก มีความตลกแทรก สะท้อนให้เห็นถึงชีวิตของผู้หญิงในยุคนี้ เริ่มออนแอร์ตุลาคมนี้
เจาะลึกวิธีทำงานพาร์ทเนอร์ร่วม
“แง่ของการโปรโมท LINE TV และ Bearcave มีการทำงานร่วมกัน เรามีการ Push Marketing ทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ มีแพลนโปรโมทแตกต่างกันไป เราต่างทำแพลนออกมาให้เข้าถึงผู้ชมแตกต่างกันไป Ookbee จะมีสื่อช่วยโปรโมทอยู่แล้ว ส่วนBearcave ก็จะมี Ookbee ซับพอร์ท” คุณพัลภาอธิบาย
อาจจะอธิบายเรื่องที่ไม่มีวัยรุ่นคนไหนไม่รู้จัก ‘จอยลดา’ แอปนิยายแชท ที่มีวิธีการนำเสนอเนื้อเรื่องผ่านแชทไลน์ ซึ่งผู้อยู่เบื้องหลังก็คือ Ookbee นั่นเอง ซึ่งถือเป็น Business model และเป็นไอเดียในการสร้างแอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์กลุ่ม Millennial เหมือนอย่างจอยลดา
“เราจะได้เห็นสิ่งเหล่านี้ เช่น แอปนิยายแชท เป็นการแชทของนักแสดง ตัวละครในเรื่อง ที่น่าสนุก จะได้ครอสโปรโมทไปในตัว มันไม่ได้จะแมสจ๋าขนาดนั้น แต่มีความ Niche ของมันอยู่ เราอาจจะใกล้ชิดกับผู้บริโภคในโลกออนไลน์และดึงกลับมาตรงนี้ สุดท้ายแล้วแคปเจอร์ไปคนหมู่แมสได้ e-Sports เป็นเทรนด์กำลังมา เราพยายามหาคอนเทนต์แบบนี้อยู่แล้ว It’s Complicated เป็นซีรีส์รัก The Deadline ก็จะแมสมากขึ้น มีความดราม่า แต่ละเรื่องมีความดราม่า”คุณพัลภากล่าว
คุณเปรมวิชช์มองถึงความร่วมมือกับ LINE TV ว่า เป็นการลงทุนร่วมกัน Bearcave Studio ผลิตของได้ แต่ก็ต้องมี Distribute ซึ่งนัมเบอร์วันต้องเป็น LINE TV เรา Bearcave มีคอนเทนต์ Ookbee อยู่แล้ว เลยเปิดเป็น Bearcave Studio ซึ่งวิธีการในเลือกคอนเทนต์ทั้ง 4 เรื่องนี้ เฟสแรกเริ่มคุยจากปีที่แล้ว ถ้ามีการเปิดตัว Studio ก็อยากจะได้คอนเทนที่สดๆ fresh คอนเทนต์ทั้ง 4 เรื่องจึงเป็นเรื่องที่เขียนขึ้นมาใหม่ทั้งหมด
“เราพร้อมแล้ว อาจจะเห็นนิยายถูกผลิตเป็นซีรีส์มากขึ้น เมื่อก่อนเรามีทั้งการ์ตูน เพลง และนิยาย การทำเป็นรูปแบบแชท ที่วัยรุ่นคุ้นเคย ดูจากที่พวกเราชอบ ถ้าดีจริง ตัวเราก็จะดู จุดแข็งของคอนเทนต์คือ มีกลุ่มของมันอยู่แล้ว เช่น คนเล่นเกมส์ ซึ่งมีไม่น้อยในปัจจุบัน เราก็อยากเห็นว่าจะขยายผลไปถึงไหน อยากจะรู้เหมือนกัน 2 เรื่องรักดูจะแมสที่สุดใน 4 เรื่อง”
“ถ้าลงแค่ผิวจะไม่รู้ แต่ถ้าลงไปลึกๆ เช่น ถ้าเรารักกัน 3 คน โดยไม่เดือดร้อนใคร เป็นอะไรหรือเปล่า อันนี้เป็นคอนเทนต์ที่คนจะสนใจแน่ๆ เรื่อง Hipster ก็มีกลุ่มที่จะดู ส่วนคาเฟ่ Coffee Culture กำลังมา และเรื่องที่ 4 กลุ่มผู้หญิงวัยทำงาน อาจจะจะสับสนในตัวเอง มีเดดไลน์ในชีวิตหรือเปล่า จะไปยังไงต่อ อาจจะรีเรทกับกลุ่มผู้หญิง เรานั้นรู้ว่าผู้บริโภคต้องการอะไร ถ้าผู้บริโภคชอบทางนี้ เราควรจะมีออฟชั่นให้เขา เดี๋ยวนี้ช่องทางมีเยอะ ไม่ผูกกับทีวี ไม่ต้องมีสลอตเวลา ช่องทางมันมีเยอะ คอนเทนต์ที่ Niche ตรงใจมากๆ คือสิ่งที่คนกำลังมองหามากขึ้น เราเลือกอันนี้ ซึ่งผู้ผลิตรายอื่นก็คงจะมองเหมือนกัน” คุณเปรมวิชช์กล่าว
คำถามที่ว่าแล้วคอนเทนต์แบบไหนที่คนชื่นชอบ คุณพัลภาตอบว่า ดูที่ยอดวิว ผลปรากฏว่า 1 ละครซีรีส์ ยังเป็นอะไรที่คนไทยชอบ 2 เอนเตอร์เทนเมนท์ ซึ่งข้อ 2 นี้ LINE TV จะโฟกัสมากขึ้นในปีนี้ โดยจะทำให้มีคุณภาพมากขึ้น มากจนสามารถส่งออกได้
โดยครึ่งปีหลังจะเป็นเรื่องความหนาแน่นของคอนเทนต์ ซึ่งซีรีส์ทั้ง 4 เรื่อง เป็นคอนเทนต์หลักที่เราจะโฟกัส มีโปรโมทคอนเทนต์เปิดโอกาสให้ลูกค้ามาซื้อโฆษณาในซีรีส์ของเรา เราลองโดลใหม่ๆ บางแบรนด์ก็ให้ความสนใจแล้ว บางเจ้าไม่ได้ลงแค่ซีรีส์แต่จะครอสลงมาถึงการ์ตูนด้วยเพราะมันซิงค์กันได้ รูปแบบการโฆษณาบน LINE TV หลักๆ มีโฆษณาก่อนเข้าคอนเทนต์ เช่น 15 วิ 30 วิ คล้ายๆ กับการขายโฆษณาบนทีวี คอนเทนต์ออริจินัล สามารถทำ tie-in ได้ และหลายรูปแบบ ซึ่งจะโฟกัสมากขึ้นในปีนี้
กับดิจิทัลทีวี มองว่า LINE TV เป็นส่วนเสริมกับทีวีช่องหลักๆ มากกว่า เพราะต้องเริ่มต้นด้วยคอนเทนต์ ถ้าคอนเทนต์ดี ไปที่ไหน ใครๆ ก็ดู เช่น เรื่อง ล่าในช่อง ONE คนชอบ เรทติ้งขึ้น ย้อนหลังกับเรา 2 ชั่วโมง ล่าสุดเป็นหนึ่งในคอนเทนต์ที่ทำยอดวิวได้ดีที่สุดของปีนี้ ถ้า Dilute ทีวีดิจิทัล ก็จะไม่มีพาร์ทเนอร์ทีวีมาคุยกับเรา ปีนี้ 2 ช่องที่ทำงานกับเรา เช่น ช่อง ONE หรือช่อง 3 เปิดโอกาสคุยกับเรามากขึ้น ซึ่งกับ LINE TV ถือเป็นจุดเริ่มต้น
สถิติที่ผ่านมา ผู้รับชม LINE TV จะชมผ่านแอพพลิเคชั่นทั้งโมบายและแท็บเล็ต สัดส่วน 70-80% รองลงมาจะดูมาผ่านเว็บ 20% ซึ่งเป็นส่วนที่มีการเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
“LINE TV และ Bearcave Studio ขอฝากโปรเจคนี้ ซึ่งเป็น 4 เรื่องที่คัดมาแล้ว มีคุณภาพแน่น ทั้งเนื้อเรื่อง บท ผู้กำกับ ทีมงานโปรดักชั่น รวมทั้งนักแสดง ซึ่ง LINE TV ยังคงมุ่งมั่นที่จะหาคอนเทนต์ที่มีคุณภาพให้กับยูสเซอร์ต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่โฟกัสมากๆ ทีม LINE TV ทุกคนทำงานหนักถึงจุดนี้ ก็เพื่ออยากก้าวเป็นวิดีโอแพลตฟอร์มอันดับ 1 ของคนไทย เพื่อคนไทย รวมทั้งเป็นเฟสแรก ก้าวแรก ของ Bearcave Studio ที่อยากให้คนดูเอ็นจอยที่สุด อยากให้ลองดูทุกเรื่อง น่าจะเป็นรสชาติใหม่ๆ ให้ทุกคนลิ้มลอง เรื่องคอนเทนต์ก็เป็นการซื้อหวย ไม่รู้ว่าจะถูกหรือเปล่า แต่เราก็ตั้งใจทำงานกัน”คุณพัลภาทิ้งท้าย
