กระทบกันระนาวกับการเปลี่ยนของ LINE@ สู่ LINE Official Account ที่มีแพ็กเกจราคาที่แพงขึ้น ทำให้โพสต์ได้น้อยลง เพจดังหลายเพจเริ่มยอมจำนน ล่าสุดเพจดังด้านการลงทุนอย่าง ลงทุนแมน ยังประกาศยุติ LINE@ เพราะสู้ราคาไม่ไหว แต่เพจลงทุนแมนยังมีบ้านใหม่ให้พักพิง คือแอพพลิเคชั่นของตนเอง แต่เจ้าของ LINE@ ทั่วไปจะอยู่อย่างไร โดยเฉพาะ SME ซึ่งเป็นผู้ใช้กลุ่มใหญ่สุด
LINE Official Account คืออะไร
LINE Official Account คือ บริการของ LINE@ กับ Official Account สามารถส่งได้ทั้งข้อมูลทั่วไป กิจกรรมทางการขายและการตลาดหรือโปรโมชั่นพิเศษไปยังลูกค้า เจ้าของ LINE@ สามารถจัดการข้อความหรือ รูปภาพต่างๆ ได้ด้วยตนเองผ่านระบบจัดการคอนเทนต์ของ LINE ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้ LINE@ หลายแสนราย โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ SME ขนาดเล็ก
ราคาและแพ็กเกจที่เปลี่ยนไปของ LINE@ สู่ LINE Official Account
จากเดิมเจ้าของ LINE@ จะจ่ายเงินรายเดือนหลักพันบาท เพื่อส่งข้อความถึงผู้ติดตามได้แบบไม่จำกัด ไม่ว่า LINE@ นั้นจะมีผู้ติดตามเท่าไหร่ แต่เมื่อวันนี้ LINE@ ถูกรวมและบังคับเปลี่ยนให้ใช้เป็น LINE Official Account กับแพ็กเกจการใช้งานที่ถูกเปลี่ยนเป็นคิดค่าบริการตามจำนวนการเข้าถึงแต่ละคน หมายถึง มีผู้ตาม 50,000 followers ก็ต้องจ่าย 50,000 ข้อความ ในราคา ประมาณ 0.1 บาทต่อคน หรือคิดเป็น 5,000 บาทต่อ 1 ข้อความ ยิ่งมีผู้ติดตามมาก ก็ยิ่งจ่ายมากขึ้น เช่น หากส่งข้อความวันละ 1 ข้อความ 1 สัปดาห์จะมีค่าใช้จ่ายที่ 35,000 บาทต่อสัปดาห์ หรือ 140,000 บาทต่อเดือน
แพ็กเกจรายเดือน
- แบบ Basic – แพ็กเกจรายเดือนอยู่ที่ 15.02 USD หรือประมาณ 500 บาท ส่งข้อความได้ไม่เกิน 2,500 ข้อความ
- แบบ Pro – แพ็กเกจรายเดือนอยู่ที่ 45.05 USD หรือประมาณ 1,500 บาท ส่งข้อความได้ไม่เกิน 10,000ข้อความ
- ราคาต่อข้อความที่เกินจากข้อความฟรี แบบ Basic คิด 0.009 USD หรือประมาณ 0.3 บาทต่อข้อความ แบบ Pro คิด 0.003 USD หรือประมาณ 0.1 บาทต่อข้อความ
จะยกเลิกหรือจะไปต่อดี
จะต้องทำอย่างไร หากต้องการใช้ LINE@ ต่อ เพราะมีจำนวน followers มาก เสียดายไม่อยากทิ้งไป และเจ้าของ LINE@ หลายรายก็ใช้ช่องทางนี้ติดต่อกับลูกค้า
ยอมรับสภาพ
- จำกัดจำนวนข้อความที่จะส่งในแต่ละสัปดาห์ จะส่งแบบเดิมเรื่อยๆ เมื่อไหร่ก็ได้ คงไม่ได้แล้ว บางทีการส่ง 1-3 ครั้งต่อสัปดาห์ก็ไม่ได้แย่เกินไป
- ทุกๆข้อความต้องเป็นข้อความที่สำคัญและมีคุณภาพมากขึ้น สามารถสร้างอิมแพคต่อผู้รับ และให้สมกับราคาที่ต้องจ่ายไป โดยเฉพาะกับ LINE@ ที่มีผู้ตามจำนวนมาก
- วางแผนพัฒนาคอนเทนท์ที่สร้างสรรค์มากขึ้น ใช้ข้อความและกราฟฟิกในการดึงดูด
- เรียนรู้ทำความเข้าใจฟีเจอร์ต่างๆของ LINE Official Account บางทีแต่ละข้อความที่ส่ง แม้จะเสียเงินแต่อาจดึงดูดได้มากกว่าเดิม
- ศึกษาวิธีการทำการตลาดผ่าน LINE Official ให้มากขึ้น เพราะลูกเล่นจะมีมากกว่า LINE@ ทั่วไป และถือเป็นการทำการตลาดที่จริงจังขึ้น ไม่ได้ง่ายเหมือนที่ทำทุกวันนี้ กับการส่งข้อความถึงลูกค้าเพียงอย่างเดียว เพราะ LINE Official Account มีบริการ LINE Connect ให้เราพัฒนาการเข้าถึงลูกค้าได้ตรงกลุ่มและสร้างสรรค์กว่าเดิม และสามารถใช้ Sponsor sticker เพื่อสร้างแบรนด์ และเพิ่มจำนวน followers ได้ (แต่ราคาก็ไม่ถูกเหมือนกัน) รวมถึงความสามารถในการตั้งระบบ Notification เพื่อแจ้งเตือนข้อมูลลูกค้าได้ และการสร้าง Chat Bot เชื่อมต่อกับ LINE Official Account ตอบคำถามที่พบบ่อยได้อัตโนมัติผ่านการแชทช่วยให้ลูกค้า โทรติดต่อ Call Center น้อยลงและยังช่วยลดต้นทุนได้มากขึ้น
ละถ้าถอดใจล่ะ
- หากรับสภาพและราคาไม่ไหว ให้ลองหาช่องทางอื่นในการสื่อสารกับผู้ติดตาม เช่น LINE Group, Facebook Group หรือ Facebook Live (แต่อนาคตก็ไม่รู้จะมากับแพ็กเกจอีกรึเปล่านะ)
- รอดูทีท่าว่า LINE จะมีลดราคาลงหรือไม่
- สำหรับ LINE@ ที่เป็นสื่อ หรืออินฟลูเอนเซอร์ อาจจะเปลี่ยนช่องทางไปใช้เป็น LINE Idol แทน เพราะวิธีนี้ LINE จะให้ใช้บริการ Official Account ฟรี แต่แบ่งส่วนในเรื่องของโฆษณาที่เข้ามาแทน
ต่อจากนี้เราคงได้เห็นการถอดใจของหลายๆ LINE@ ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ เพราะอาจสู้ราคาไม่ไหวจริงๆ แต่หากยังมั่นใจว่า LINE@ คือช่องทางที่เรียกลูกค้าได้จริง ก็ควรพิจารณาที่จะยอมรับและปรับตัว หากลยุทธ์ในการส่งข้อความให้มีคุณภาพมากขึ้น สัปดาห์ละ 1-3 ข้อความก็ช่วยได้เหมือนกัน ของดีๆ ฟรีๆ ไม่มีให้เสมอไป การยึดติดอยู่กับสื่อใดสื่อหนึ่งที่ไม่ใช่แพลตฟอร์มของตัวเอง ย่อมเสียเปรียบ การทำธุรกิจต้องมีทางออกและช่องทางสำรองเสมอ
Copyright @ Marketing Oops!