หากพูดถึงตลาดกลางคืนในกรุงเทพฯ ที่มีชื่อเสียงและสามารถยืนระยะมาได้ยาวนาน “ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา” ต้องเป็นหนึ่งในชื่อแรกที่หลายคนนึกถึง เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือ คุณทศพล วชิรเดชา หรือ คุณทศ ผู้ก่อตั้งตลาดที่มองเห็นโอกาสและไม่เคยหยุดพัฒนา
จากศูนย์การค้าสู่ตลาดกลางคืน : เส้นทางของผู้บุกเบิก
ก่อนจะมาเป็นเจ้าของตลาดนัดกลางคืนที่ได้รับความนิยม คุณทศเป็นนักบริหารศูนย์การค้าระดับแถวหน้า โดยดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการ (MD) และผู้ถือหุ้นของศูนย์การค้าเซียร์ รังสิต ตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม ผ่านประสบการณ์หลากหลาย ทั้งอสังหาริมทรัพย์ คอนโดมิเนียม และคอมมูนิตี้มอลล์
ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา เริ่มต้นจากโอกาสที่ไม่ได้คาดคิด ในปี 2550 คุณทศซื้อที่ดินขนาด 20 ไร่ บริเวณรามอินทรา โดยตอนแรกไม่ได้วางแผนจะพัฒนาอะไร ตั้งใจเพียงซื้อมาถือครองไว้เพื่อขายต่อ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทำให้ต้องมองหาวิธีใช้ประโยชน์จากที่ดินผืนนี้
ปี 2554 เขาเริ่มต้นโครงการคอนโดมิเนียม “วี คอนโด เอกมัย-รามอินทรา” ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังตลาดในปัจจุบัน โดยวางแผนให้ที่ดินด้านหน้าพัฒนาเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ เพื่อเสริมความน่าสนใจให้โครงการ แต่เมื่อเริ่มดำเนินการในปี 2555 สถานการณ์ตลาดเปลี่ยนไป ทำให้แนวคิดคอมมูนิตี้มอลล์ไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป
“ผมเริ่มมองว่า การทำตลาดนัดน่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า เพราะตอนนั้นในกรุงเทพฯ ยังมีผู้เล่นตลาดกลางคืนรายใหญ่เพียงรายเดียว” คุณทศเล่า
ในที่สุด “ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา” จึงถือกำเนิดขึ้น และเปิดให้บริการเป็นวันแรกในวันที่ 1 มิถุนายน 2556 โดยมีจำนวนล็อกค้าขายกว่า 1,000 ล็อก ใช้พื้นที่เต็ม 20 ไร่ รวมโซนจอดรถ แรกเริ่มเปิดให้บริการเฉพาะ วันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ก่อนจะค่อยๆ ขยายวันทำการเพิ่มขึ้นจนเปิดครบ 7 วันต่อสัปดาห์
“1 มิถุนายน 2568 นี้ ตลาดจะครบรอบ 12 ปี ถือเป็นหลักไมล์ที่เราภูมิใจ เพราะตลาดกลางคืนหลายแห่งอาจอยู่ได้แค่ช่วงเวลาหนึ่ง แต่เรายังสามารถยืนหยัดและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง”
เคล็ดลับของความสำเร็จ: การไม่หยุดนิ่งและการเข้าใจผู้บริโภค
เมื่อพูดถึงปัจจัยที่ทำให้ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรายังคงได้รับความนิยมมายาวนาน คุณทศกล่าวอย่างชัดเจนว่า “อย่ายึดติด ต้องพร้อมปรับตัวตลอดเวลา”
“ผู้บริโภคแต่ละยุคมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปเสมอ เราต้องสังเกตและปรับให้ทัน ถ้าอะไรไม่ตอบโจทย์ก็ต้องเปลี่ยนให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า”
ตลาดนัดเลียบด่วน แดนเนรมิต: ก้าวใหม่ของตลาดกลางคืน พร้อมสร้างโอกาสให้ผู้ค้า
หลังจากประสบความสำเร็จกับตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรามานาน 12 ปี คุณทศกำลังขยายธุรกิจสู่ทำเลใหม่อย่าง “แดนเนรมิต” จุดเชื่อมต่อสำคัญของย่านลาดพร้าว พหลโยธิน และรัชโยธิน ที่พร้อมรองรับผู้ค้าและลูกค้ากลุ่มใหม่ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและพฤติกรรมผู้บริโภค
คุณทศเล่าว่า ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา ได้ผ่านการพัฒนาและปรับโครงสร้างมาหลายครั้งจนอยู่ตัวแล้ว แต่เมื่อพิจารณาถึงสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่คนตกงานมากขึ้น มีความต้องการสร้างอาชีพสำรองเพิ่มขึ้น ตลาดกลางคืนจึงกลายเป็นโอกาสสำหรับหลายๆ คนที่อยากเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง
จังหวะที่พอดีคือ ที่ดินของแดนเนรมิตเปิดโอกาสให้เช่า จึงมีความคิดว่า
“ที่นี่มีศักยภาพสูง การเดินทางสะดวกกว่าตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทราด้วยซ้ำ เพราะอยู่ในโซนที่มีประชากรหนาแน่น แหล่งงาน สถานศึกษาเยอะ และใกล้กับระบบขนส่งมวลชน ทั้งรถไฟฟ้าและการเดินทางจากหลายจังหวัดรอบกรุงเทพฯ”
ตลาดกลางคืนในย่านศูนย์การค้า : แข่งขันหรือเติมเต็ม?
แม้ย่านนี้จะมีห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง แต่คุณทศมองว่า ตลาดกลางคืนไม่ได้เป็นคู่แข่งโดยตรงกับห้าง เพราะพฤติกรรมของลูกค้าต่างกัน
“เขาหากินกลางวัน เราหากินกลางคืน เวลาที่คนออกจากห้างพอดี ซึ่งตลาดจะเป็นแหล่งช้อปปิ้งและแฮงค์เอาท์อีกทางเลือกหนึ่ง” คุณทศกล่าว
แม้จะเป็นตลาดกลางคืน แต่คุณทศมองว่า จุดขายของตลาดแดนเนรมิตซึ่งจะมีความหลากหลายกว่าตลาดเลียบด่วนรามอินทรา 1-2 เท่า ไม่ได้ต่างจากห้างสรรพสินค้ามากนัก เพียงแต่เป็นการให้บริการในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน โดยตลาดเปิดตั้งแต่ 16.00 น. – 24.00 น. เพื่อรองรับลูกค้าหลังเลิกเรียนเลิกงานและต้องการพื้นที่พักผ่อนและจับจ่ายในช่วงค่ำคืน
ตลาดแดนเนรมิตจะมีจุดเด่นที่ชัดเจน เน้นของกินราคาจับต้องได้ พร้อมคัดเลือกร้านค้าคุณภาพเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ของตลาดแดนเนรมิตคือ คนไทย 80-90% ต่างชาติ 10-20%
“ถ้าเราไปตรงไหน เราต้องโพสิชั่นตัวเองให้ได้ว่าเราจะขายใคร ซึ่งโซนแดนเนรมิตไม่ใช่ต่างชาติ แต่เป็นคนไทย ซึ่งการตกแต่งหน้าร้านในการขายไม่เหมือนกัน สินค้าก็คนละรูปแบบ รวมทั้งเรื่องราคา” คุณทศชัดเจนในเรื่องนี้มาก
โครงสร้างตลาดที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ค้าและลูกค้า
หนึ่งในจุดแข็งของตลาดแดนเนรมิต คือการออกแบบพื้นที่ใหม่ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าและเพิ่มโอกาสให้ผู้ค้า
“จากประสบการณ์ที่ตลาดเลียบด่วน เราเรียนรู้ว่าการจัดร้านค้าแบบแถวยาวๆ ไม่มีซอยกลาง ทำให้ลูกค้าที่เดินเข้าไปสุดทางแล้วต้องย้อนกลับ ทำให้ร้านกลางๆ ตายหมด เราเลยปรับโครงสร้างใหม่หมด ใช้โมเดลบ้านเดี่ยว หนึ่งหลังมีประมาณ 8 ร้านค้า (ขนาด 8×4 เมตร) และมีซอยรอบตัว ลูกค้าสามารถเดินได้ทั่วร้าน ไม่ต้องเดินจนสุดทางแล้วหันหลังกลับ” คุณทศอธิบาย
อีกหนึ่งจุดเด่นของตลาดนี้คือการใช้ แพลตฟอร์มที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ แทนการเทปูน ซึ่งเป็นแนวคิดจากตลาดเลียบด่วนรามอินทรา ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ง่าย ไม่จำเจ และตอบสนองความต้องการของพ่อค้าแม่ค้าได้ดียิ่งขึ้น
ตลาดที่เข้าถึงง่าย ทั้งในแง่ทำเลและค่าเช่า
ตลาดแดนเนรมิตมีเป้าหมายให้เป็นพื้นที่ค้าขายที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ไม่ใช่แค่พ่อค้าแม่ค้ารายใหญ่ ค่าเช่าถูกกว่าตลาดในย่านเดียวกัน ไม่มีค่าเซ้ง และเงินประกันเพียง 1 เดือน (จากปกติที่เก็บ 2 เดือน)
“เราเตรียมโครงสร้างร้านค้าให้เสร็จหมดแล้ว เพื่อให้ผู้ค้ามาเริ่มขายได้เลย ค่าเช่าร้านจะอยู่ในระดับที่ทุกคนจับต้องได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางที่เรายึดมั่นมาตลอด”
บรรยากาศตลาดที่แตกต่างและคัดเลือกร้านค้าอย่างมีคุณภาพ
- อาหารเป็นตัวนำ มีทั้งโซนสตรีทฟู้ด และโซนนั่งทานขนาดใหญ่ รองรับลูกค้าหลายพันคน พร้อมทั้งร้านดังๆ ที่เคยโดนปิดจากการไล่รื้อของ กทม. มาเปิดใหม่ที่นี่
- เสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่น ถูกจัดโซนให้อยู่ในส่วนด้านในของตลาด เพื่อให้ลูกค้าได้เดินเลือกสินค้าแบบสบายๆ
- โซนเสริมความงาม เช่น ทำเล็บ ตัดผม ต่อผม นวดหน้า นวดตัว
- โซนดนตรีสด 4-5 จุด เพื่อสร้างบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา
- เน้นที่จอดรถ รองรับได้ 400-500 คัน
คุณทศยังเน้นว่า ตลาดนี้จะคัดกรองร้านค้าพอสมควร โดยให้สัดส่วนของมืออาชีพอยู่ที่ 70% และ ผู้ค้าหน้าใหม่ 30% เพื่อสร้างความสมดุลในการแข่งขัน
“ถ้ามีหน้าใหม่มากเกินไป อาจทำให้ร้านค้าหลายรายอยู่ไม่รอด เพราะตลาดกลางคืนเป็นธุรกิจที่ต้องอดทนสูง โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนซึ่งเป็นบททดสอบสำคัญ สุภาษิตผม ผมบอกแม่ค้าท่องไว้เลย 4 ระกำ 8 สบาย คือเจอฝน 4 เดือน ถ้าคุณฝ่าไปได้ อีก 8 เดือนคุณสบายละ หน้าขายคุณ คุณรับทรัพย์ไป 8 เดือน” คุณทศกล่าว
ตลาดแดนเนรมิตมีกำหนดเปิดอย่างเป็นทางการ ในช่วงเวลาประมาณสิ้นเดือนเมษายน หรือต้นเดือนพฤษภาคม 2568 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเข้าหน้าฝน เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าได้ตั้งหลักก่อนเผชิญกับฤดูฝนที่อาจเป็นอุปสรรค
ความมั่นใจของพ่อค้าแม่ค้าและอนาคตของตลาด
การเปิดตลาดใหม่ย่อมมาพร้อมกับความกังวลของพ่อค้าแม่ค้าว่าจะสามารถประสบความสำเร็จได้หรือไม่ แต่คุณทศมั่นใจว่าตลาดแห่งนี้มีศักยภาพ เพราะกลุ่มลูกค้าในพื้นที่มีจำนวนมาก และยังขาดพื้นที่ค้าขายที่ตรงใจผู้บริโภค โดยเฉพาะตลาดกลางคืนที่เน้นสินค้าและอาหารสำหรับคนไทยเป็นหลัก
คุณทศย้ำว่า ตลาดนัดเลียบด่วน แดนเนรมิต ไม่ใช่ตลาดทั่วไปที่เปิดแล้วปล่อยให้ดำเนินไปตามยถากรรม แต่มีการบริหารจัดการและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายคือการสร้างตลาดที่มีความหลากหลายและตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างแท้จริง โดยคาดว่าภายในหนึ่งปีหลังเปิดให้บริการ ตลาดแห่งนี้จะสามารถพัฒนาได้ครบทุกเฟส และกลายเป็นหนึ่งในตลาดกลางคืนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
ก้าวต่อไปของแบรนด์ตลาดเลียบด่วน: จาก 4 ดาวสู่ 5 ดาว
“เรามาเปิดตลาดที่นี่เพราะต้องการให้ตลาดเลียบด่วนยกระดับขึ้นไปอีกขั้น จากเดิมที่รามอินทราอยู่ในระดับ 3-4 ดาว เราต้องการให้แดนเนรมิตกลายเป็นตลาดนัดระดับ 5 ดาว” คุณทศเผยถึงเป้าหมายของโครงการใหม่ แม้ตลาดกลางคืนในไทยจะเผชิญความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่เขายังเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดนัดที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่
อย่างไรก็ตาม แผนขยายตลาดไปยังทำเลอื่นยังไม่อยู่ในแผนตอนนี้ เพราะคุณทศต้องการมุ่งพัฒนา ตลาดนัดเลียบด่วน แดนเนรมิต ให้กลายเป็นต้นแบบของตลาดกลางคืนที่ครบวงจรและดึงดูดผู้คนได้อย่างแท้จริงก่อน
โอกาสใหม่สำหรับพ่อค้าแม่ค้า : ลงทุนง่าย ต้นทุนต่ำ
สำหรับผู้ค้าที่ต้องการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตลาดเลียบด่วน แดนเนรมิต คุณทศเน้นย้ำว่าการลงทุนในครั้งนี้เป็นโอกาสที่จับต้องได้ง่ายกว่าที่เคย
“เราไม่มีเก็บค่าเซ้งล็อก 20,000 บาท เป็นเงินปากถุง ผมไม่เอา เพราะเราอยากให้พ่อค้าแม่ค้าทำธุรกิจได้จริง ต้นทุนที่เคยสูงตอนนี้หายไปครึ่งหนึ่ง เราทำโครงสร้างร้านให้เกือบหมด เพียงแค่จัดดิสเพลย์ให้สวยงามก็สามารถเปิดร้านได้เลย”
การสมัครเช่าพื้นที่สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่าน Line Official @Liabduan2 ซึ่งเป็นช่องทางหลักที่ใช้ติดต่อและบริหารจัดการผู้ค้าทั้งหมด
ข้อคิดสำหรับคนอยากเริ่มธุรกิจตลาดนัด
แม้ว่าตลาดนัดกลางคืนจะเป็นธุรกิจที่ดูน่าดึงดูดสำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่ แต่คุณทศย้ำว่าความสำเร็จของตลาดไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่เงินลงทุน
“โลเคชั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด หลายครั้งเราอาจคิดว่าทำเลที่เลือกมานั้นใช่ แต่กลับไม่ใช่จริงๆ บางตลาดลงทุนเป็นร้อยล้านแต่สุดท้ายไปไม่รอด เพราะไม่เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าในพื้นที่”
คุณทศยังกล่าวถึงสิ่งที่ทำให้ตลาดเลียบด่วนเติบโตได้อย่างมั่นคง นั่นคือ เครือข่ายพ่อค้าแม่ค้าเดิมที่แข็งแกร่ง และ ความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดสามารถพัฒนาและปรับตัวได้ตามเทรนด์ที่เปลี่ยนไป
“สิ่งปลูกสร้างสามารถเนรมิตขึ้นมาได้ถ้ามีเงิน แต่คำถามคือ มีคนมาเดินจริงหรือเปล่า? นั่นแหละคือหัวใจของตลาด”
ตลาดนัดเลียบด่วน แดนเนรมิต : ทางเลือกใหม่ของตลาดนัดกลางคืน
ด้วยแนวคิดที่เน้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภค และการเปิดโอกาสให้พ่อค้าแม่ค้าได้ลงทุนในต้นทุนที่ต่ำลง ตลาดนัดเลียบด่วน แดนเนรมิต กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของตลาดนัดกลางคืนในกรุงเทพฯ
หากคุณกำลังมองหาพื้นที่ทำธุรกิจในตลาดนัดที่มีศักยภาพ หรืออยากสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของตลาดกลางคืน ตลาดนัดเลียบด่วน แดนเนรมิต อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหา
Copyright © Marketing Oops!
