เจาะเหตุผล Lazada กับการปรับโฉม Sponsored Display โฆษณาบนพื้นที่สุดไพรม์ ให้เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับแบรนด์บน LazMall ที่แรกในวงการอีคอมเมิร์ซ

 

การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายและแม่นยำ เป็นหัวใจสำคัญที่จะสามารถช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับแบรนด์ได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์ม e-marketplace ที่มีการแข่งขันรุนแรงและมีสินค้าให้เลือกมากมายแถมหลากหลาย ด้วยเหตุผลนี้ทาง Lazada จึงได้มีการพัฒนาโซลูชั่นทางการตลาดต่าง ๆ ออกมา เพื่อช่วยเหลือแบรนด์และผู้ค้าอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้น ได้แก่ ฟีเจอร์ Sponsored Display หรือ การโปรโมทผ่านดิสเพลย์ ที่ทาง Lazada ได้พัฒนาและนำมาใช้เป็น ‘ที่แรกของวงการอีคอมเมิร์ซ’ โดยเปิดให้ใช้พื้นที่โฆษณาสุดไพรม์บนแพลตฟอร์ม ช่วยสนับสนุนให้แบรนด์ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ใน LazMall สามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอย่างเท่าเทียมกัน แต่หลายคนอาจเกิดคำถามตามมาว่า ฟีเจอร์นี้ดีจริงหรือไม่ และทำไมแบรนด์หรือผู้ค้าถึงควรต้องใช้

 

Sponsored Display ตอบโจทย์แบรนด์อย่างไร

LazMall เป็น ‘ห้างสรรพสินค้าเสมือนจริง’ ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะรวบรวมร้านค้าและแบรนด์ชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศมากกว่า 9,000 แบรนด์ โดยจุดแข็งอยู่ที่ลูกค้าจะได้ช้อปแบรนด์แท้ 100% จากเจ้าของแบรนด์โดยตรง ในราคาคุ้มค่า สะดวกสบาย พร้อมบริการจัดส่งฟรีถึงบ้าน และรับประกันสินค้าคืนภายใน 15 วัน

แน่นอนเมื่อมีสินค้าให้เลือกมากมาย ดังนั้นการให้ลูกค้าได้เห็นแบรนด์หรือสินค้า และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ จึงเป็นอีกปัจจัยหลักในการสร้างและเพิ่มยอดขายได้มากกว่าเดิม ซึ่ง Sponsored Display เป็นหนึ่งในฟีเจอร์เครื่องมือโปรโมทสินค้า Sponsored Solution ของลาซาด้า ที่จะมาช่วยเพิ่ม value และการมองเห็นของแบรนด์คู่ค้าใน LazMall ทำให้เข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเทคโนโลยีนี้ทาง Lazada ยังเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่แรกๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่พัฒนาได้  โดยจะสามารถเพิ่มการมองเห็นได้มากถึงหลักล้านครั้ง ลูกค้าจะได้เห็นโปรโมชั่นของคุณ คลิกสินค้า และสั่งซื้อผ่านพื้นที่และช่องทางต่างๆ ของ Lazada ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่โปรโมทที่สำคัญที่สุดอย่าง Homepage Banner, LazMall page, App Notification และ Social Media บน channel ของ Lazada ที่สำคัญ ยังสามารถเลือกใช้ได้ตามวัตถุประสงค์ของการโปรโมทได้ด้วย

ทั้งนี้ Sponsored Display จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

• CPM (Cost per impression) โปรโมทต่อการมองเห็น สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายและงบประมาณเองได้ รวมถึงโปรโมทได้หลายๆ วัน
• CPD (Cost per day) โปรโมทต่อวัน เน้นเพิ่มจำนวนการมองเห็นและส่วนแบ่งของการมองเห็น (Share of Voice) ให้ได้มากที่สุด รวมถึงแพ็กเกจพื้นที่โปรโมทต่างๆ ในช่วงเมก้า หรือแคมเปญ A+

 

เจาะจุดเด่น Sponsored Display

เราได้ทำความรู้จัก Sponsored Display ไปแล้ว ทีนี้เรามาลงลึกถึงจุดเด่นของฟีเจอร์ตัวนี้กันบ้าง นั่นคือ

1.Sponsored Display เป็นเทคโนโลยีที่สามารถการันตีจำนวนการมองเห็น (impression) แบรนด์จะถูกเรียกเก็บเงินก็ต่อเมื่อมียอดการมองเห็นเท่านั้น นั่นหมายความว่า คุณจะกำหนดและได้ความคุ้มค่ากับงบประมาณที่ลงไป และความพิเศษใหม่ก็คือ สามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ตามเพศ อายุ หรือหมวดหมู่ที่ลูกค้ามีความสนใจ โดยการเลือกกลุ่มเป้าหมาย มีให้เลือกด้วยกัน 3 แบบ

• โปรโมทแบบกว้าง (Broad targeting) ที่เน้นทุกกลุ่มเป้าหมาย
• โปรโมทแบบเลือกกลุ่มหมาย (Custom targeting) ตามเพศ ช่วงอายุ หรือหมวดหมู่ที่ลูกค้ามีความสนใจ
• โปรโมทโดยติดตามลูกค้าที่เคยเข้าชมร้านของคุณใน 180 วันที่ผ่านมา (Store Visitor Targeting)

แน่นอนการเลือกเจาะกลุ่มเป้าหมาย จะทำให้โปรโมทสินค้าได้ตรงจุด ขณะเดียวกันจะเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าที่มีความสนใจกลับมาซื้อสินค้าได้ง่าย ไม่ว่าจะหมวดหมู่ไหน ก็มีให้เลือกโปรโมทได้ตรงตามต้องการ ตั้งแต่แฟชั่น, ความสวยความงาม, สุขภาพ, แม่และเด็ก, เฟอร์นิเจอร์ หรืออุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ ฯลฯ อีกทั้งยังสามารถเลือกโปรโมชั่นและสินค้าบนแบนเนอร์ได้ เช่น โปรโมทส่วนลด ของแถม หรือสินค้าตัวใหม่

2.เพิ่มความสะดวกในการจัดการแคมเปญ ทั้งบัญชีผู้ใช้แบบพิเศษ (Advanced Account) เหมาะสำหรับกลุ่มบริษัทเดียวกัน ที่ต้องการโปรโมทหลายแบรนด์ในแคมเปญเดียวกัน และบัญชีย่อย (Sub Account) สามารถจัดการแคมเปญในแต่ละร้านค้าด้วยบัญชีเดียว

3. ฟีเจอร์ Smart Creative โดยแบรนด์สามารถอัปโหลดแบนเนอร์ได้มากถึง 5 รูปแบบ ซึ่งจากฟีเจอร์นี้ จะโปรโมทแบนเนอร์ที่มีโอกาสได้จำนวนคลิกสูง โดยสิ่งนี้ถือเป็นหัวใจของการโปรโมทผ่านดิสเพลย์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการโปรโมทให้มากขึ้นทั้งยอดคลิกและยอดขาย พร้อมกับมี metric ที่สามารถดูผลได้ตั้งแต่การรับรู้ (Awareness) ไปจนถึง interaction และสามารถเปรียบเทียบประสิทธิภาพของแบนเนอร์แต่ละรูปแบบในรายงานให้แบรนด์สามารถวางแผนโปรโมทได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนั้น แบรนด์ยังสามารถเช็คประสิทธิภาพของการโปรโมทหลังแคมเปญจบ 1 วัน โดยรายงานประสิทธิภาพจะแสดงบนระบบอัตโนมัติและสามารถดูได้ตั้งแต่ยอดการมองเห็น ยอดคลิก ยอดคนเข้าร้าน ยอดคนคลิกสินค้า ไปจนถึงยอดการเพิ่ม Add to cart และ Wishlist พร้อมลดความเสี่ยงยุคโควิด-19 ด้วยฟีเจอร์ E-signature เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเซ็นใบสั่งขายออนไลน์ ช่วยให้ยืนยัน Sale order ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม เรียกได้ว่า Sponsored Display เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มได้ทั้งโอกาสทางการขาย และสร้างฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น หรือ Loyalty Customers ให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี

 

หลากหลายโซลูชั่นเพิ่มยอดขาย

ที่สำคัญนอกจาก Sponsored Display ทาง Lazada ยังได้มีการพัฒนาโซลูชั่นทางการตลาดมากมาย สำหรับช่วยเพิ่มยอดเข้าชม และยอดขายให้กับแบรนด์หรือผู้ค้าของ Lazada ได้เลือกตามความต้องการ อาทิ

• Sponsored Discovery หรือ การโปรโมทผ่านพื้นที่ค้นหาสินค้าของ Lazada เลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะและโปรโมทสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า รวมถึงโปรโมทผ่านพื้นที่สินค้าเฉพาะคุณ (Just for you) ที่สามารถติดตามลูกค้าที่สนใจสินค้าในหมวดใกล้เคียงกัน
• Sponsored Affiliate หรือ การโปรโมทผ่านพาร์ทเนอร์ ช่วยให้แบรนด์สินค้าหรือผู้ขายโปรโมทผ่านเครือข่ายต่าง ๆ ของพาร์ทเนอร์มากมายใน Lazada เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อสินค้า และกระตุ้นยอดขายให้เติบโตมากขึ้น โดยแบรนด์หรือผู้ขายจะถูกเรียกเก็บเงินก็ต่อเมื่อเกิดยอดขายการันตีผลตอบแทนต่อการลงทุน (ROI)

ทั้ง Sponsored Display และเครื่องมือต่างๆ ข้างต้นนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งในโซลูชั่นทางการตลาดของ Lazada ที่พัฒนาออกมามากมาย เพื่อตอบโจทย์ทางธุรกิจของแบรนด์และผู้ค้าบน LazMall ในยุคออนไลน์ ซึ่งหากใครสนใจสามารถเข้า Lazada Sponsored Solutions Center เพื่อจอง Sponsored Display ได้เลยที่ https://ssc.lazada.co.th/