ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่เราได้เห็นข่าาวร้ายของคนชอบอ่านหนังสือแบบรูปเล่มมากมาย ทั้งหนังสือพิมพ์และนิตยสารต่างๆ ทยอยปิดตัวลงไปนับสิบราย ซึ่งหลายรายก็ยังพยายามพยุงธุรกิจสิ่งพิมพ์ต่อไปด้วยการปรับตัวเองสู่การทำเว็บไซต์เพื่อเข้าถึงผู้อ่านออนไลน์ที่กลายเป็นช่องทางสำคัญของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน
และจากพฤติกรรมการใช้งานโซเชียลและเลือกเสพสื่อออนไลน์ของคนไทยในปัจจุบัน ยังคงส่งผลกระทบต่อธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด นิตยสารชื่อดังที่ทำธุรกิจอย่างยาวนานในประเทศไทยอย่าง “ขวัญเรือน” ก็ประกาศยุติการจัดทำนิตยสารแล้วเช่นกัน
สำหรับนิตยสารขวัญเรือนนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งนิตยสารที่ทำธุรกิจอย่างยาวนานในประเทศ ถึง 49 ปี ซึ่งฝ่ายสมาชิกนิตยสารดังกล่าวได้ทำหนังสือชี้แจงถึงสมาชิก โดยเนื้อหาระบุว่า…
“นิตยสารขวัญเรือนมีความประสงค์จะแจ้งให้ท่านสมาชิกทราบถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เนื่องด้วยสภาวะเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคที่ปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยโดยเฉพาะในยุคที่สื่อโซเชียลเข้ามามีบทบาท ส่งผลต่อสื่อสิ่งพิมพ์มากขึ้น ทั้งในแง่ของการขายโฆษณาและยอดจำหน่าย ทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งพิมพ์เป็นอย่างยิ่ง โดยทางนิตยสารขวัญเรือนได้มีความพยายามที่จะต่อสู้อย่างถึงที่สุดกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและยุคสมัย ซึ่งส่งผลต่อการพิมพ์จำหน่ายที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด
ด้วยเหตุนี้ ทางนิตยสารขวัญเรือน จึงขอแจ้งอนุญาตให้ท่านสมาชิกทราบ เรื่องการยุติการจัดทำนิตยสารขวัญเรือน โดยจะจัดทำฉบับที่ 1102 (ฉบับเดือนธันวาคม) เป็นเล่มสุดท้าย พร้อมกันนี้ฝ่ายสมาชิกจะมีจดหมายแจ้งถึงรูปแบบการคืนเงินให้ทราบอีกครั้ง
ตลอดระยะเวลาของการทำงาน 49 ปี ที่นิตยสารขวัญเรือนโลดแล่นอยู่บนแผงหนังสือมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน ณ โอกาสนี้ทางทีมงานขอขอบพระคุณท่านสมาชิกที่ติดตามและเป็นแฟนนิตยสารขวัญเรือนมาโดยตลอดค่ะ”
พร้อมกันนี้ ยังมีการระบุหมายเหตุเกี่ยวกับนิยายและคอลัมน์ต่างๆ อีกด้วย โดยระบุว่า “สำหรับนิยายและคอลัมน์ต่างๆ ที่ยังคงค้าง ทางทีมงานจะประสานนักเขียนและคอลัมนิสต์ เพื่อให้ทราบว่าผู้อ่านสามารถติดตามได้ทางช่องทางใด โดยทางเราจะแจ้งให้มราบอีกครั้งทางนิตยสารขวัญเรือนฉบับที่ 1102 (เดือนธันวาคม)”
อย่างไรก็ตาม จากข่าวคราวการเลิกพิมพ์นิยตสารขวัญเรือนในครั้งนี้ ยังมีการคาดเดาถึงโอกาสในการนำเสนอเนื้อหาในรูปแบบอื่น เช่น เว็บไซต์ หรือเพจ เพื่อเป็นการเข้าถึงกลุ่มผู้อ่านซึ่งนิยมใช้อินเทอร์เน็ตในปัจจุบันด้วย ส่วนจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไปค่ะ.