ยิ่งเทคโนโลยีการเงินพัฒนาไปมากเท่าไหร่ เหล่าโจรไซเบอร์ก็พัฒนารูปแบบและเทคโนโลยีในการหลอกลวงตามเท่าทัน นั้นทำให้หลายคนระมัดระวังการใช้จ่าย โดยเฉพาะบัตรเครดิตที่มักได้เห็นข่าวคราวการขโมยบัตรไปใช้ หรือเก็บข้อมูลบนหน้าบัตรไปใช้ โดยเฉพาะรหัสลับ CVV ที่อยู่หลังบัตรที่สามารถนำไปใช้ในการซื้อสินค้าออนไลน์แบบที่เจ้าของบัตรไม่รู้ตัว และกว่าจะรู้ตัวก็สายเกินแก้ไปแล้ว
แม้จะมีนโยบายออกมาแล้วว่า หากมีการขโมยหรือลักลอบใช้บัตรเครดิต ผู้ให้บริการบัตรเครดิตรายนั้นๆ ต้องเป็นผู้รับผิดชอบและต้องคืนวงเงินที่ถูกลักลอบใช้ให้ผู้ถือบัตรทันที โดยที่ผู้ถือบัตรไม่ต้องมีส่วนรับผิดชอบใดๆ แต่นั่นเป็นเพียงมาตรการแก้ไขหลังเกิดเหตุ แต่การป้องกันต่างหากที่สำคัญกว่า
เปิดตัวบัตรเครดิตใหม่ชูเทคโนโลยีและความปลอดภัย
เคทีซี (KTC) ผู้ให้บริการบัตรเครดิต โชว์ยอดสมัครบัตรเครดิต KTC Digital Platinum ที่เปิดตัวเมื่อช่วงต้นปี 2567 ทะลุเป้า 100,000 ใบ ช่วยชี้ให้เห็นถึงความต้องการใช้บัตรเครดิตที่ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และเพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์พิเศษต่อเนื่อง จึงได้เปิดตัวบัตรเครดิต KTC DIGITAL VISA SIGNATURE และบัตรเครดิต KTC DIGITAL WORLD REWARDS MASTERCARD โดยจะเน้นขยายฐานกลุ่มสมาชิกพรีเมียมที่ชื่นชอบการใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์
โดยโชว์ 3 จุดเด่นที่ช่วยให้การสมัครบัตรเครดิตเป็นเรื่องง่ายสามารถดำเนินการได้จากสมาร์ทโฟน รวมไปถึงการออกแบบบัตรโดยเน้นเรื่องความปลอดภัยป้องกันการโจรกรรมลักลอบนำบัตรไปใช้ และยังช่วยให้สามารถใช้จ่ายผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างสบายใจ พร้อมสิทธิพิเศษจากบัตรระดับพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็น
- Digital First ใช้จ่ายได้ทันทีหลังได้รับการอนุมัติผ่านช่องทางออนไลน์ สามารถสแกนจ่ายด้วย QR Pay รวมถึงการผูกบัตรฯ กับระบบชำระเงินบนอุปกรณ์ต่างๆ เช่น Google Pay, Swatch Pay
- Dynamic CVV (CVC2) รหัสความปลอดภัยหลังบัตรฯ ที่จะเปลี่ยนแปลงทุกครั้งที่มีการร้องขอ และสามารถใช้งานได้ภายใน 24 ชั่วโมงต่อการขอ 1 ครั้ง (ไม่จำกัดจำนวนการขอ)
- Numberless Card ด้วยการออกแบบบัตรพลาสติกใสโปร่งแสง ไม่มีหมายเลขบนหน้าบัตร และไร้แถบแม่เหล็ก เพื่อเสริมความปลอดภัยเมื่อสมาชิกใช้จ่ายผ่านบัตรฯ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการถูกขโมยข้อมูลส่วนตัว
จากการศึกษาพฤติกรรมสมาชิกบัตรเครดิต KTC ที่ใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์พบว่า ตลอดปี 2567 กลุ่มสมาชิกที่มีรายได้ 50,000 บาทขึ้นไปมีปริมาณการใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนทั้งในด้านยอดรวมการใช้จ่าย (Volume) ที่เพิ่มขึ้น 16% และจำนวนความถี่ (Transaction) เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยหมวดการใช้จ่ายยอดนิยม 3 อันดับแรกได้แก่ ร้านอาหารรวมถึงบริการสั่งอาหารออนไลน์ ช้อปปิ้งออนไลน์ และท่องเที่ยว
มอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตร
สำหรับบัตรเครดิต KTC DIGITAL VISA SIGNATURE และบัตรเครดิต KTC DIGITAL WORLD REWARDS MASTERCARD ยังมาพร้อมจุดเด่นด้านสิทธิพิเศษที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ อาทิ รับคะแนน KTC FOREVER 2 เท่า เมื่อใช้จ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศ (ยกเว้น 31 ประเทศในเขตเศรษฐกิจยุโรป และสาธารณรัฐประชาชนจีน) และรับสิทธิ์เข้าใช้ห้องรับรองพิเศษ MIRACLE LOUNGE ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ 2 ครั้ง/ปี เมื่อแสดงบัตรเครดิต KTC DIGITAL VISA SIGNATURE และบัตรเครดิต KTC DIGITAL WORLD REWARDS MASTERCARD พร้อมบัตรโดยสารระหว่างประเทศของสายการบินไทย
นอกจากนี้ ยังเพิ่มช่องทางสำหรับผู้สนใจสมัครบัตรเครดิตผ่านช่องทางออนไลน์ด้วยตนเอง (Apply Online Service) สามารถทำรายการได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพียงเตรียมบัตรประชาชนและเอกสารแสดงรายได้ อัปโหลดเอกสาร ทำการยืนยันตัวตนได้ด้วยตนเองผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยข้อมูลจะถูกส่งตรงเข้าระบบทันที สามารถสมัครได้ที่ https://apply.ktc.co.th หรือ KTC LINE Official account (@ktc_card)
โดยผู้ที่สมัครบัตรเครดิต KTC DIGITAL VISA SIGNATURE (บัตรหลักใหม่) ผ่านบริการสมัครออนไลน์ด้วยตนเองและได้รับอนุมัติภายในระยะเวลาที่กำหนด รับ e-Coupon ร้านโคเอ็น พรีเมียม บุฟเฟ่ต์ สำหรับ 1 ท่าน มูลค่า 705 บาท เมื่อมีการใช้จ่ายตั้งแต่ 3 รายการขึ้นไป ภายใน 30 วันนับจากวันที่อนุมัติบัตร
และผู้ที่สมัครบัตรเครดิต KTC DIGITAL WORLD REWARDS MASTERCARD (บัตรหลักใหม่) ผ่านบริการสมัครออนไลน์ด้วยตนเองและได้รับอนุมัติภายในระยะเวลาที่กำหนด รับโค้ดส่วนลด Lazada มูลค่า 500 บาท เมื่อมีการใช้จ่ายตั้งแต่ 3 รายการขึ้นไป ภายใน 30 วันนับจากวันที่อนุมัติบัตร
ย้อนรอยการพัฒนาบัตรเครดิต
ข้อดีของบัตรเครดิตคือการใช้จ่ายได้โดยไม่ต้องใช้เงินสดที่เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก โดยในยุคแรกของการใช้บัตรเครดิต ร้านค้าจะทำการพิมพ์หน้าบัตรด้วยเครื่องพิมพ์มือ และจะทำการส่งเอกสารซื้อขายพร้อมด้วยหลักฐานบัตรเครดิตไปที่ผู้ให้บริการบัตร ซึ่งจะต้องใช้เวลาส่งเอกสารและอนุมัติการชำระเงินประมาณ 7 วัน ระบบดังกล่าวถือว่ามีความปลอดภัยขั้นสุด เนื่องจากต้องผ่านการตรวจสอบก่อนอนุมัติ ช่วยให้สามารถเห็นความผิดปกติของการชำระเงิน
แต่…นั่นไม่สะดวก!!!
จึงเกิดการพัฒนาเครื่องรูดบัตร EDC แบบแถบแม่เหล็กในยุคต่อมา ซึ่งช่วยให้การอนุมัติชำระเงินเร็วขึ้น สะดวกมากขึ้น แต่รูปแบบดังกล่าวแม้จะสะดวก แต่ก็ถูกดูดข้อมูลผ่านทางแถบแม่เหล็กได้ ทำให้มีการพัฒนาการจัดเก็บข้อมูลผ่านรูปแบบชิป แม้จะช่วยป้องกันการคัดลอกข้อมูล แต่ก็ยังมีการคัดลอกข้อมูลสำคัญที่หน้าบัตร ทั้งเลขบัตรและชื่อผู้ถือบัตร นั่นทำให้เกิดการพัฒนาอีกครั้งในรูปแบบการแตะสัมผัส
ขณะที่ยุคปัจจุบันคือการใช้บัตรเครดิตผ่านระบบออนไลน์ ทำให้มีการพัฒนารหัสลับ CVV ที่อยู่บริเวณหลังบัตร ซึ่งแม้จะมีการพัฒนาอย่างไรก็ตามเหล่าคนร้ายก็พัฒนารูปแบบเพื่อแก้เกมได้ตลอด เพราะแม้จะมีระบบสัมผัสบัตรแล้ว แต่ก็ยังมีข้อมูลสำคัญอยู่บนบัตรและรหัสลับ CVV ก็จะผูกกับบัตรตลอด หากคนร้ายรู้ข้อมูลหน้าบัตรและรหัสลับก็สามารถโคลนนิ่งบัตรใบใหม่ได้
นั่นคือที่มาที่ทำให้ KTC ออกแบบให้เป็นบัตรใสแบบไม่มีข้อมูลใดๆ อยู่บนบัตร พร้อมด้วยระบบสัมผัสบัตรที่ช่วยให้ไม่ต้องส่งบัตรให้ใครทั้งสิ้น และรหัสลับ CVC2 ที่เปลี่ยนรหัสให้ทุกครั้งที่มีการขอ ช่วยให้ปลอดภัยในการใช้จ่ายบนระบบออนไลน์
ทั้งนี้ เคทีซีมั่นใจว่าเทคโนโลยีและความปลอดภัยขั้นกว่าของบัตรเครดิตดังกล่าวจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของสมาชิกและส่งผลให้ทุกการใช้จ่ายมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าสมาชิกจะสนใจสมัครบัตรเครดิต KTC DIGITAL VISA SIGNATURE และบัตรเครดิต KTC DIGITAL WORLD REWARDS MASTERCARD รวม 100,000 ใบ ภายในสิ้นปี 2568 ทั้งนี้ควรใช้บัตรเครดิตเท่าที่จำเป็นและชำระคืนตามกำหนดเพื่อที่จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี