เรียกว่าปีนี้เป็นปีที่ธุรกิจธนาคารกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากต้องประคับประคองลูกหนี้ในช่วงที่ผ่านมา เพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ “หนี้เน่า” โดยในช่วงที่ผ่านมาธนาคารจะเน้นเจาะไปที่กลุ่มคนมีเงิน (Wellness) ซึ่งได้รับผลกระทบน้อยทั้งในช่วงที่ผ่านมาและในภาวะวิกฤติในปัจจุบัน ไม่ว่าตจะะเป็นปัญหาด้านเงินเฟ้อและการปรับอัตราดอกเบี้ยในขาขึ้น ที่เริ่มมีสัญญาณแนวโน้มที่ดีขึ้น
โดย กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้นำในธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ยังคงเดินหน้าพร้อมเป็นผู้นำต่อเนื่องในปี 2566 พร้อมรุกธุรกิจด้วยนวัตกรรมและข้อมูล ตอบโจทย์และเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่ม เล็งขยายธุรกิจสินเชื่อในรูปแบบ BNPL และสินเชื่อเพื่อรายย่อยสู่ภูมิภาคอาเซียน ตั้งเป้าภายในปี 2566 มียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 3.5 แสนล้านบาท เพิ่มยอดสินเชื่อใหม่ 9.7 หมื่นล้านบาท และจำนวนลูกค้าผ่านช่องทางดิจิทัลเติบโต 20%
เผยข้อมูลการใช้จ่ายบัตรเครดิต
ด้าน คุณ ณญาณี เผือกขำ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ชี้ว่า ในปี 2565 ผลประกอบการของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เติบโตดีกว่าเป้าหมาย โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 333,000 ล้านบาท เป็นยอดสินเชื่อใหม่ 87,000 ล้านบาท โดยการใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุด เป็นการใช้จ่ายด้านประกันภัย, ปั๊มน้ำมัน, ช้อปปิ้งออนไลน์และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์, ตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ในครัวเรือน และไฮเปอร์มาร์ทและซูเปอร์มาร์เก็ต
ขณะที่การใช้จ่ายในหมวดสายการบินเตบโตขึ้น 329%, หมวดัวแทนการท่องเที่ยวเติบโต 186%, หมวดสถานเสริมความงามเติบโต 93%, หมวดรถเช่าและโรงแรมเติบโต 81% และร้านอาหารและเครื่องดื่มเติบโต 66% สำหรับในส่วนของสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ระดับ 1% สำหรับบัตรเครดิต และระดับ 2.5% สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อผ่อนชำระ ซึ่งถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในธุรกิจ
ปีนี้เศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากการท่องเที่ยวและการบริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลน่าจะมีการแข่งขันสูงขึ้น ผู้ประกอบการมีแนวโน้มจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปิดรับเทคโนโลยีมากขึ้น จากข้อมูลชี้ว่า อัตราการเติบโตของจำนวนลูกค้าใหม่ผ่านช่องทางดิจิทัลของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ในปี 2565 เติบโตกว่า 3 เท่าตัว เมื่อเทียบกับปี 2564
ชู 4 กลยุทธ์หลักเจาะกลุ่มผู้บริโภค
เพื่อให้ก้าวทันความเปลี่ยนแปลง กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เตรียมปรับกลยุทธ์เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ผ่านกลยุทธ์หลัก คือ การใช้นวัตกรรมและข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ และพัฒนาผลิตภัณฑ์, บริการทางการเงินคุณภาพ ที่ตอบโจทย์และเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้นสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม, ผสานความร่วมมือกับพันธมิตรในหลากหลายธุรกิจ รวมถึงกับบริษัทในเครือกรุงศรี เพื่อสร้างความเติบโตสู่อนาคต และการขยายธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อยสู่ภูมิภาคอาเซียน
สำหรับ การใช้นวัตกรรมและข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และสร้างรายได้ผ่านช่องทางใหม่ๆ เช่น สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล FirstChoice Snapcash, สินเชื่อส่วนบุคคล GrabFirst โดยมีการใช้ข้อมูล Credit Score ในการพิจารณาสินเชื่อ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อให้ง่าย สะดวก รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกมาใช้ในการทำการตลาดเฉพาะบุคคล (Personalize) และการพัฒนาการให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัล เช่น U CARD, U CASH, Automated Collection, AI Manow ผู้ช่วยอัตโนมัติของศูนย์บริการสมาชิกบัตรฯ ผ่านช่องทาง UCHOOSE, Facebook และ Call Center เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้น
นั่นหมายความว่า กรุงศรี คอนซูเมอร์ กำลังปรับรูปแบบการขอสินเชื่อใหม่ โดยอาศัยข้อมูล (Data) จากหลายๆ ด้านมาประกอบกันกลายเป็น Credit Scoring และจะถูกนำมาใช้ในการประเมินความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ นอกจากนี้ Credit Scoring ยังเตรียมถูกนำมาใช้กับบริการทางการเงินเฉพาะกิจอย่าง Buy Now Pay Later (BNPL) โดยกำลังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมความพร้อม คาดว่าจะสามารถให้บริการเต็มรูปแบบได้ในปีนี้
ผสานความร่วมมือกับพันธมิตรในหลากหลายธุรกิจ เพื่อผสานจุดแข็งของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ในด้านผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ขยายโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าได้กว้างขวางยิ่งขึ้น รวมถึงการผสานความร่วมมือของทุกภาคส่วนในเครือกรุงศรีภายใต้กลยุทธ์ Krungsri One Retail ซึ่งมุ่งเน้นการผสานความร่วมมือของหน่วยงานของกรุงศรี เพื่อมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ง่าย ครบ จบทุกเรื่องการเงิน สร้างความผูกพันกับลูกค้าในระยะยาว
และ การขยายธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อยสู่ภูมิภาคอาเซียน โดยเตรียมขยายบริการด้านการเงินไปที่ประเทศ สปป.ลาว, กัมพูชา, ฟิลิปปินส์และเวียดนาม โดยผสานความร่วมมือกับบริษัทในเครือกรุงศรีในภูมิภาค เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่หรือการสร้างรายได้ผ่านช่องทางใหม่ ๆ
สำหรับในปีนี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ยังตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตไว้ที่ 350,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่ 97,000 ล้านบาท และจำนวนลูกค้าผ่านช่องทางดิจิทัลเติบโต 20% ภายในปี 2566 ทั้งเกิดจากความเชื่อมั่นว่า สภาพเศรษฐกิจของไทยกำลังเข้าสู่ภาวะฟื้นตัว