เป็นองค์กรวิถีไฮบริดอย่างไรให้สำเร็จ ? เรียนรู้ผ่าน “กรุงศรี คอนซูมเมอร์” ชูแนวคิด “Flexi Workplace, Flexi Work-Life” รับเทรนด์การทำงานยุคใหม่

  • 1K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ผลจาก Covid-19 และการพัฒนาเทคโนโลยี รวมทั้งการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัย ทำให้หลายองค์กรต้องปรับโมเดลธุรกิจและรูปแบบการทำงานใหม่ หลายองค์กรต้องเผชิญกับความท้าทาย ทั้งการสรรหาบุคลากรและการรักษาคนให้อยู่กับองค์กร ดังนั้น การจะเป็นองค์กรที่คนอยากทำงานด้วย จึงต้องให้ความสำคัญกับการสร้าง Employer Branding” และ Employee Experience” ที่ปรับให้สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป

หนึ่งในองค์กรที่เป็นกรณีศึกษาด้านการปรับตัวของงานทรัพยากรบุคคลและเดินหน้าพัฒนาประสบการณ์การทำงานของพนักงานให้ดียิ่งขึ้น ต้องยกให้กับ “กรุงศรี คอนซูมเมอร์” (Krungsri Consumer) ผู้ให้บริการบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล อันประกอบไปด้วย บัตรเครดิต กรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิตโลตัสได้ปรับนโยบายการทำงานสู่รูปแบบ Hybrid Workplace” ภายใต้แนวคิด Flexi Workplace, Flexi Work-Life”

พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สะดวกและคล่องตัว ตลอดจนปรับปรุงสถานที่ทำงานให้ทันสมัย มี Co-Working Space และพัฒนาระบบการเรียนรู้แบบผสมผสาน (Blended Learning) ให้พนักงานได้ Upskill และ Reskill อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานที่เปิดกว้างและสร้างสรรค์ เพื่อปลูกฝัง Innovation Culture และขับเคลื่อนองค์กรให้เป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมที่ก้าวทันการทำงานในโลกธุรกิจยุคใหม่

Marketing Oops! ชวนมาเจาะลึกเบื้องหลังความสำเร็จของการเป็น Hybrid Workplace และคอนเซ็ปต์ Flexi Workplace, Flexi Work-Life และระบบการเรียนรู้แบบผสมผสาน ไปกับ คุณอุณา วัชโรบล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานบริหารทรัพยากรบุคคล กรุงศรี คอนซูมเมอร์

 

  

ชูแนวคิด “Flexi Workplace, Flexi Work-Life” รับวิถีการทำงานแบบ Hybrid  

นับตั้งแต่ช่วง Covid-19 “กรุงศรี คอนซูมเมอร์” ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายการทำงานด้วยวิธีการทำงานแบบ Hybrid” ภายใต้แนวคิด Flexi Workplace, Flexi Work-Life” เพื่อตอบโจทย์รูปแบบการทำงานของคนยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบสภาพแวดล้อมการทำงานขององค์กรให้มีความยืดหยุ่น คล่องตัว โดยมีระบบและเทคโนโลยีรองรับ เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็ยังสามารถบริหารจัดการชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงานได้อย่างลงตัว

เพราะกรุงศรี คอนซูมเมอร์ มองว่าถึงแม้ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดจะคลี่คลายแล้ว แต่ยังมีปัจจัยอื่นที่กระทบต่อการเดินทางมาทำงานของพนักงาน เช่น ปัญหาฝุ่น PM 2.5, ปัญหาการจราจร หรือพนักงานบางคนต้องดูแลคนในครอบครัวอย่างใกล้ชิด การทำงานแบบ Hybrid จึงตอบโจทย์ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับพนักงานสามารถมี Work-Life Balance ที่ดียิ่งขึ้น

“การทำงาน Hybrid เรามีแนวทางปฏิบัติให้กับพนักงาน เช่น ควรเข้ามาออฟฟิศขั้นต่ำกี่วันต่อสัปดาห์ โดยขึ้นอยู่กับลักษณะงานของแต่ละคน ถ้าเป็นพนักงานที่สาขา อาจจะต้องประจำที่สาขา แต่ถ้าเป็นพนักงานที่ลักษณะงานสามารถทำแบบ Hybrid ได้ ก็สามารถตกลงกับหัวหน้างานได้ว่าวันไหนจะเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศ และวันไหนทำงานที่บ้าน พนักงานบางคน หรือบางทีม มีงานเอกสารที่ต้องเข้ามาออฟฟิศก็จะเข้ามากัน หรือบางครั้งอยาก Brainstorm กับทีมแบบเจอหน้าก็สามารถเข้ามาประชุมที่ออฟฟิศได้ 

เหตุผลหลักที่เรายังคงเลือกรูปแบบการทำงานแบบ Hybrid เพราะที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่า การทำงานรูปแบบนี้ ไม่ได้กระทบกับประสิทธิภาพและประสิทธิผลขององค์กรและพนักงานแต่อย่างใด เรายังสามารถออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และทำงานบรรลุตามเป้าหมายขององค์กรที่วางไว้ได้ ขณะเดียวกัน พนักงานก็มีคุณภาพชีวิตที่ดี มี Work-Life Balance มากขึ้น นอกจากนี้เราพบว่ารูปแบบการทำงานเป็น Hybrid Workplace ยังช่วยดึงดูดคนรุ่นใหม่ รวมทั้งคนที่อยากทำงานแบบ Hybrid ให้มาสมัครงานกับเราเพิ่มมากขึ้นด้วย” คุณอุณา เล่าถึงเหตุผลที่กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ยังคงเลือกทำงานในรูปแบบ “Hybrid Workplace”

 

 

พลิกโฉมออฟฟิศใหม่ สร้าง “Co-Working Space” ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน

การออกแบบออฟฟิศในอดีต บริษัทส่วนใหญ่นิยมติดตั้งฉากกั้น แบ่งโซน และกำหนดที่นั่งชัดเจน ขณะที่แนวคิดการออกแบบสำนักงานยุคใหม่ในปัจจุบันให้ความสำคัญกับการสร้างพื้นที่ Common Space เน้นดีไซน์เปิดโล่ง เรียบง่าย สบายตา และที่นั่งในโซน Work Station เป็นแบบ Hot Seat เพื่อให้พนักงานสามารถเลือกนั่งได้ ทำให้สภาพแวดล้อม หรือ บรรยากาศการทำงานโดยรวมมีความทันสมัย มีความเป็นกันเอง ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ให้ความรู้สึกเปิดกว้าง และยังส่งเสริมให้เกิดการระดมไอเดียร่วมกัน

 

 

ด้วยเหตุนี้เองเมื่อปรับเป็น Hybrid Workplace “กรุงศรี คอนซูมเมอร์” จึงใช้โอกาสนี้ปรับปรุงสถานที่ทำงานใหม่เช่นกัน ตอกย้ำคอนเซ็ปต์ Flexi Workplace, Flexi Work-Life” เพื่อส่งเสริมบรรยากาศที่ดีในการทำงานให้กับพนักงาน สะท้อนรูปแบบการทำงานที่กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เปิดกว้างสำหรับทุกคน และให้โอกาสอย่างเท่าเทียม

“เมื่อก่อนเราทำงานแบบมี Partition กั้นหมดเลย แต่พอเป็น Hybrid เราบริหารจัดการพื้นที่สำนักงานใหม่ ดูว่าต้องการ Work Station แค่ไหน และจัดสรรพื้นที่ด้านหน้าให้เป็น Common Space หรือพื้นที่ Co-Working Space เพื่อให้เป็นพื้นที่ที่พนักงาน ไม่ว่าจะแผนกไหน มาใช้พื้นที่ตรงนี้ในการพูดคุย ระดมความคิด หรือแม้แต่ทำกิจกรรมต่าง ๆ ทำให้เกิด Engagement ร่วมกัน”

 

 

นำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

หัวใจสำคัญของการทำงานรูปแบบ Hybrid ให้สำเร็จ สิ่งสำคัญอันดับแรกที่องค์กรต้องมี คือ ระบบและเทคโนโลยีที่ซัพพอร์ตการทำงานของพนักงาน เพื่อให้การทำงานไม่ว่าจะในออฟฟิศ ที่บ้าน หรือ ที่ไหนก็ตามทำได้อย่างสะดวก ไร้รอยต่อ และมีประสิทธิภาพ

กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ได้ลงทุนอุปกรณ์ ระบบ และนำเทคโนโลยีมาใช้สนับสนุนการทำงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งระบบไอทีที่รองรับการทำงานแบบ Remote Working  การพัฒนาช่องทางต่าง ๆ เพื่อติดต่อสื่อสารและสร้างปฏิสัมพันธ์กับพนักงาน เช่น – แอปพลิเคชันWE Connect” ที่ใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารกับพนักงานกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ขององค์กรได้อย่างสะดวก เช่น ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ขององค์กร, ข้อมูลสวัสดิการของพนักงานแต่ละคน, ระบบ Check-In ออนไลน์, ระบบ E-Leave เพื่อบริหารและจัดการวันลาหยุดต่าง ๆ, มี Notification แจ้งเตือนประกาศสำคัญ เป็นต้น รวมทั้งยังได้พัฒนา AI Chatbot ชื่อ “สายฟ้า” ที่ทำหน้าที่ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับงานด้านบุคคลได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพนักงาน และลดงานซ้ำซ้อนในหน่วยงาน HR

 

 

Blended Learning” หัวใจในการพัฒนาทักษะและความสามารถของพนักงานเพื่อรับมือกับโลกอนาคต 

อีกหนึ่งปัจจัยที่จะดึงดูดคนให้อยากมาร่วมงานกับองค์กรและรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กร คือ การพัฒนาทักษะความรู้ความสามารถให้กับบุคลากร ยิ่งปัจจุบันโลกได้เปลี่ยนผ่านจาก Digital Disruption เข้าสู่ยุค AI Disruption จึงเป็นโจทย์ใหญ่ขององค์กรในการยกระดับทักษะที่พนักงานเชี่ยวชาญอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น (Upskill) ควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้พนักงานได้เรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill)

สำหรับ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ได้พัฒนาการเรียนรู้ในรูปแบบผสมผสานที่เรียกว่า Blended Learning” เป็นการเรียนรู้ทั้งแบบ Online โดยมีทั้งคอร์สจากสถาบันชั้นนำข้างนอก และหลักสูตรเฉพาะที่กรุงศรี คอนซูมเมอร์  พัฒนาขึ้นเอง ผสานกับการเรียน On-Site (Face to Face) เพื่อ Upskill และ Reskill พนักงานอย่างรอบด้านและต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังได้ส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ผ่านการอ่าน เพื่อเป็นหนทางในการพัฒนาตัวเองทั้งในแง่มุมมองการทำงานและเสริมสร้างทักษะในการใช้ชีวิต โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้เพิ่งเปิดตัวบริการใหม่ คือ “กรุงศรี คอนซูมเมอร์ E-Library” แหล่งรวบรวมหนังสือในรูปแบบ E-Book และ E-Magazine ให้พนักงานได้มีทางเลือกในการเรียนรู้ตามสไตล์ของตัวเอง เข้าถึงแหล่งข้อมูลความรู้ต่าง ๆ ได้ง่ายและสะดวกผ่านช่องทางออนไลน์

ขณะเดียวกันเพื่อให้พนักงานได้เห็นเส้นทางการเติบโตของตัวเองในองค์กร กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จึงได้ออกแบบการพัฒนาอย่างเป็นระบบ เริ่มจากการวางแผน Individual Development Plan” (IDP) ที่เป็นการวางแผนการพัฒนาทักษะ และความก้าวหน้าในองค์กรของพนักงานแต่ละคน และเนื่องด้วยกรุงศรี กรุ๊ป มีบริษัทในเครือต่าง ๆ มากมาย ที่นี่จึงเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถหมุนเวียนเปลี่ยนข้ามสายงานได้ (Job Rotation) เพื่อเรียนรู้ทักษะใหม่ ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับการพัฒนา Leadership Skill เพื่อสร้างผู้นำรุ่นใหม่ต่อเนื่อง

 

 

ปลูกฝัง “Growth Mindset” และ “Resilience”

ด้วยความที่กรุงศรี คอนซูมเมอร์ มุ่งส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานที่เปิดกว้างและสนับสนุนให้พนักงานเรียนรู้ พัฒนาตัวเอง ที่นี่จึงเชื่อมั่นในศักยภาพคน สร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมความคิดและบรรยากาศการทำงานที่สร้างสรรค์ เน้นปลูกฝังGrowth Mindset” และ Resilience” ให้กับพนักงาน เพื่อพัฒนาพนักงานให้เติบโตไปพร้อมกับองค์กร และขับเคลื่อนกรุงศรี คอนซูมเมอร์ สู่การเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมที่ก้าวทันการทำงานยุคใหม่และการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย

“เราพยายามส่งเสริมให้พนักงานมี “Growth Mindset” เพราะเราเชื่อว่าคนเราเรียนรู้ได้ พัฒนาได้ เปลี่ยนแปลงได้ และ “Resilience” คือ ล้มแล้วลุกได้ ไปต่อได้ เรียนรู้จากความผิดพลาด เรียนรู้จากความสำเร็จของผู้อื่น แล้วนำมาปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้น ทำให้พนักงานกล้าคิด กล้านำเสนอไอเดีย”

จากการให้ความสำคัญในการบ่มเพาะและพัฒนาศักยภาพบุคลากรนี่เอง ทำให้เมื่อพูดถึงคนกรุงศรี คอนซูมเมอร์ จะมี DNA เดียวกัน คือ เป็น ‘ตัวจริง พลิกเกม’ หรือ ‘Game Changer’ คือ กล้าที่จะท้าทาย Status Quo เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้ดีกว่าเดิม ทั้งยังมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ และมีความยืดหยุ่น คล่องแคล่วสูง ปรับตัวเก่ง ล้มแล้วลุกเร็ว

 

 

คว้ารางวัล “Excellence in Hybrid Working”

จากความมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรด้วยวิถีการทำงานรูปแบบใหม่ Hybrid Working ทำให้เมื่อปีที่แล้ว “กรุงศรี คอนซูมเมอร์” ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมด้านกลยุทธ์ขับเคลื่อนการทำงานแบบไฮบริด (“Bronze”Excellence in Hybrid Working) จาก HR Excellence Awards Thailand 2023 ที่จัดขึ้นโดยนิตยสาร Human Resources Online

ถือเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จการวางนโยบายเชิงกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนวิถีการทำงานรูปแบบใหม่ Hybrid Working/Remote Working ภายใต้แนวคิด ‘Flexi Workplace, Flexi Work-Life’ เพื่อสร้างความยืดหยุ่น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และความต้องการของพนักงานที่หลากหลายในองค์กร ควบคู่กันกับการรักษามาตรฐานระบบความปลอดภัยของข้อมูลและคุณภาพการให้บริการแก่ลูกค้า

“การทำงานแบบ Hybrid จะสำเร็จหรือไม่นั้น ต้องมีกฎระเบียบและมีแนวทางปฏิบัติให้กับหัวหน้าและพนักงาน รวมทั้งเตรียมความพร้อมด้านระบบและเทคโนโลยีการทำงาน ขณะเดียวกันต้องมี “ความเชื่อใจ” ของหัวหน้างานกับพนักงานหรือทีม เพราะถ้ามีความเชื่อใจกันแล้ว จะไปต่อเรื่องอื่นได้ เช่น การสื่อสาร เนื่องจากการทำงานแบบ Hybrid การสื่อสารอย่างทั่วถึง คือ หัวใจสำคัญที่จะทำให้กระบวนการทำงานราบรื่นและบรรลุเป้าหมายได้ 

นอกจากนี้การสร้าง Engagement เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคนในทีมก็เป็นเรื่องสำคัญ อย่างที่ผ่านมาจะเห็นการทำกิจกรรมสนุก ๆ ร่วมกันภายในทีมอยู่เสมอ ๆ เช่น บางทีมจะนัดกันแต่งตัวธีมเดียวกันเข้ามาออฟฟิศเพื่อมาพบปะและทำกิจกรรมสนุก ๆ ร่วมกัน หรือบางทีมแม้จะไม่ได้เข้าออฟฟิศแต่หาโอกาสจัดกิจกรรมทางระบบออนไลน์ด้วยกัน จึงทำให้ความสัมพันธ์ภายในทีมต่าง ๆ ยังคงผูกพันอย่างเหนียวแน่น” คุณอุณา เล่าถึง Learning Success จากการเป็น Hybrid Workplace ของกรุงศรี คอนซูมเมอร์

 

 

ให้ความสำคัญกับ Well-Being และเดินหน้าพัฒนาทักษะให้พนักงาน

หลังจากกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ปรับองค์กรเป็น Hybrid Workplace ผลตอบรับทั้งจากผู้บริหาร และพนักงานพบว่าทุกคนมีความสุขมากขึ้น ดังนั้น จึงยังคงนโยบายการทำงานนี้ต่อไป พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับ Well-Being” ของพนักงานมากขึ้นและการจัดเตรียมหลักสูตร หรือคอร์สสำหรับพัฒนาทักษะความรู้ให้กับพนักงานอย่างต่อเนื่อง

“ด้วยความที่ทำงานแบบ Hybrid เราจึงเน้นการดูแล Well-Being ของพนักงานอย่างรอบด้าน ทั้งสุขภาพจิตใจ (Mental Health) รวมถึงเรื่องส่วนตัวอย่างเช่น เรื่องสุขภาพทางการเงิน เพราะการที่เราเป็นองค์กรสถาบันการเงิน เราจึงอยากให้พนักงานมีความรู้ความเข้าใจด้านการเงินด้วย

 

 

ขณะเดียวกันงาน HR ยังมีโจทย์ในการนำเอาเทคโนโลยีมาพัฒนาการทำงานของพนักงานอีกมาก อย่างทุกวันนี้เรามี Mobile Application ซึ่งเรายังวางแผนจะต่อยอดการให้บริการกับพนักงานในเรื่องอื่น ๆ ควบคู่กับการช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผ่านการพัฒนาหลักสูตรเพื่อส่งเสริมการพัฒนาทักษะและให้ความรู้ใหม่ ๆ แก่พนักงานอย่างต่อเนื่อง เช่น เรื่อง ESG ที่กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ในการดำเนินธุรกิจยุคนี้ เราจึงอยากเข้าไปช่วยให้พนักงานสามารถพัฒนาได้ตามเป้าหมาย

เพราะเราเชื่อว่าเมื่อพนักงานแข็งแรงทั้งกายและใจ มีโอกาสได้ทำงานที่มีคุณค่า มีความหมาย ได้พัฒนาทักษะของตัวเอง ทั้ง Upskill และ Reskill อย่างต่อเนื่อง เขาจะอยากทำงานกับเรา เกิดความรักและผูกพันกับองค์กร รู้สึกว่าองค์กรนี้ดูแลพนักงานเป็นอย่างดี ” คุณอุณา สรุปทิ้งท้าย

 


  • 1K
  •  
  •  
  •  
  •