เมื่อ Kodak บริษัทในอุตสาหกรรมภาพที่สินค้าที่เคยขายดีอย่างกล้องฟิลม์ ถูกแทนที่ด้วยกล้องดิจิทัล และสมาร์ทโฟนที่เดี๋ยวนี้ใครๆก็มี หันมาผลิตสกุลเงินดิจิทัลของตัวเองอย่าง Kodak Coin ข่าวที่ออกมาทำให้ราคาหุ้นของ Kodak พุ่งไปมากกว่าเท่าตัว และกำลังนำ Kodak Coin เข้า ICO ในปลายเดือนนี้
แต่เบื้องหลังและเป้าหมายของ Kodak Coin นั้นน่าสนใจมากทีเดียว
เงินดิจิทัล Kodak Coin มาพร้อมกับบล็อกเชน Kodak One
ความสามารถของบล็อกเชนอย่างหนึ่งก็คือ สามารถโอนผลงานให้กับอีกฝ่ายได้อย่างปลอดภัย ทำให้ไม่สามารถละเมิดลิขสิทธิกันได้ เมื่อ Kodak พัฒนา Kodak Coin ขึ้นมา ก็ใช้โอกาสนี้ใช้กับบล็อกเชน Kodak One ไว้เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายภาพ มันแก้ปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ให้กับช่างภาพที่อยากเข้ามาจัดการผลงานและการใช้ผลงาน มองในระยะยาวแล้ว Kodak อยากให้ Kodak One เปรียบเสมือนสื่อสังคมออนไลน์ในการแชร์รูปภาพที่ปลอดภัยจากการละเมิดลิขสิทธิ์ก็ได้
ส่วนใครอยากเข้าใจบล็อกเชนง่ายๆ ลองฟัง TEDx ของ Richie Etwaru ดู
เครื่องขุดเงินดิจิทัล Kodak KashMiner: วาระซ่อนเร้นของ Kodak
ส่วนเจ้าเครื่องขุดเงินดิจิทัลของ Kodak สนนราคาเช่าอยู่ที่ 3,400 เหรียญสหรัฐฯต่อสองปี (ตกประมาณแสนกว่าบาท) Kodak บอกว่าเครื่องนี้ขุดเงินดิจิทัลได้มูลค่าประมาณ $375 เหรียญทุกเดือน แหล่งข่าวจาก CNBC คาดการณ์ไว้ว่า มันจะทำเงินได้ $9,000 เหรียญภายในสองปีเลยทีเดียว ถ้าคิดเป็นเงินไทยตอนนี้ก็ตกประมาณเกือบสามแสนบาท กำไรราวสองแสนกว่าบาท
Kodak KashMiner: เครื่องขุดเงินดิจิทัลของ Kodak
ฟังดูน่าลงทุน แต่ตรงนี้แหละที่น่าสังเกตว่านี่อาจเป็นวาระซ่อนเร้นของ Kodak เพราะ
1. Kodak จะเก็บกำไรที่คนเช่าทำได้ครึ่งหนึ่งด้วย
2. เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าเครื่องนี้มันขุดเงินดิจิทัลให้ได้มูลค่า 375 เหรียญฯเป๊ะๆทุกเดือน
3. เป็นไปไม่ได้ที่ผลตอบแทนจะไม่ลดลงเลย และมูลค่าที่เครื่องนี้ขุดได้ก็ฟังเกินจริงไป
4. คนที่ทำงานในบริษัทขุดเงินดิจิทัลอย่าง Laz Alberto ออกมาให้ความเห็นว่า “ผมต้องใช้เวลาทำสเปรตชีท สร้างโมเดลดูความผันผวนของราคาเงินดิจิทัล ทำบัญชีสารพัด แต่เมื่อเห็น ใบปลิว Kodak Kashminer ผมรู้สึกเหมือนโดนดูถูก อย่าไปลงทุนกับเครื่องมือตัวนี้ดีกว่า”
ฉะนั้นทั้งคนที่คิดจะเช่าเครื่องขุดเงินดิจิทัลของ Kodak และตัว Kodak เองก็อย่างหวังกับกำไรจากเงินดิจิทัลมากนัก
ก่อน Kodak จะหันมาพัฒนา Kodakcoin และ Kodakone
อย่างที่เกริ่นไปว่าเพราะเทคโนโลยีพัฒนาไปเร็วจนสมาร์ทโฟนได้รับความนิยมมากกว่ากล้องฟิลม์เป็นสาเหตุให้กิจการของ Kodak ไปได้ไม่สวยเท่าบริษัทขายสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือสินค้าของ Kodak แต่ก่อนถูก “disrupted” ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ
แต่ Harvard Business Review ได้ให้ข้อสังเกตที่น่าสนใจมากเกี่ยวกับความล้มเหลวของ Kodak (ก่อนที่จะมีสกุลเงินดิจิทัล) ว่าแทบเป็นไปไม่ได้เลยว่า Kodak จะไม่สังเกตเห็นถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ เพราะ Kodak เองก็รู้ด้วยซ้ำว่ารูปภาพมันสามารถแชร์ออนไลน์ได้ แต่ในปี 2001 Kodak เข้าซื้อไซต์บริการแชร์รูปภาพอย่าง Ofoto แทนที่จะมองว่าธุรกิจแชร์รูปภาพอนไลน์จะเป็นธุรกิจ”ใหม่”ที่จะพลิกเกมให้กับตัว Kodak แต่กลับเอา Ofoto ไปใช้ขยายธุรกิจพิมพ์ภาพถ่ายที่เป็นบริการตกยุค
Ofoto ไซต์บริการแชร์รูปภาพที่ Kodak เข้าซื้อ ในปี 2001
Kodak ไม่ได้พลาดที่ไม่รู้เท่าทันเทคโนโลยี แต่ไม่รู้เท่าทันโมเดลธุรกิจใหม่ๆต่างหาก ไม่รู้ว่าการกลับมาของ Kodak พร้อมกับสกุลเงินดิจิทัลและบล็อกเชนจะประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกหรือไม่ แต่ส่วนตัวมองว่า Kodak One อาจเป็นการแก้ไขข้อผิดพลาดในอดีตที่มองไม่เห็นถึงโมเดลธุรกิจการแชร์รูปภาพออนไลน์นั่นเอง
Copyright © MarketingOops.com