ศึก Digital Banking ระอุ กรุงศรีฯ ไม่หวั่นจับ Pain Point ลูกค้าอัพเกรด KMA ใหม่ ขนทัพเทคโนโลยีใส่ในแอปเพียบ

หลังจากปล่อยให้แบงก์เขียว แบงก์สีม่วง ขยับอัพเดทปล่อยลวดลาย ความเป็นดิจิทัล แบงก์กิ้งกันไปล่วงหน้า ก็ถึงคราว แบงก์สีเหลือง ที่ถ่อมตัวว่าเป็นแบงก์เล็ก แต่ขอจัดหนักๆ กับการอัพเกรด Mobile Application กันแบบชุดใหญ่เลยทีเดียว

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ได้เปิดแถลงข่าวเผยแผนกลยุทธ์ด้านดิจิทัลแบงก์กิ้งและนวัตกรรมของกรุงศรีฯ พร้อมกับเผยโฉมล่าสุดของ Krungsri Mobile Application (KMA)แพลตฟอร์มโมบาย แบงก์กิ้ง ที่ใช้งานง่ายขึ้น เร็วขึ้น และครบทุกผลิตภัณฑ์ ตอกย้ำคอนเซ็ปต์ “เรื่องเงินเรื่องง่าย” และพร้อมรองรับเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงิน อาทิ AI, Robo Advisor, Digital Lending และ Mobile Payment ที่จะทยอยนำเสนอภายในสิ้นปี 2560 นี้

ง่ายกว่า เร็วกว่า ครบกว่า

นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงก์กิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรุงศรีมีวิสัยทัศน์การเป็นผู้นำด้านดิจิทัลแบงก์กิ้งและนวัตกรรม ชูไอเดียคอนเซ็ปต์ “ง่ายกว่า เร็วกว่า ครบกว่า” ที่สำคัญคือการปรับโฉมครั้งนี้ของ KMA ได้ทำบนการศึกษาผ่าน Pain Point ของผู้บริโภคอีกด้วย ซึ่งเราได้ให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมในการออกแบบและคิดค้นนวัตกรรมกรรมไปพร้อมกับเรา

“จึงเป็นที่มาของการออกแบบให้ผู้ใช้งานได้มีอิสระในการปรับเข้า-เปลี่ยนออกเมนูฟังก์ชั่นการใช้งานตามที่ต้องการ ซึ่งเรามั่นใจว่า KMA จะเป็นแพลตฟอร์มสำคัญเพื่อรองรับการพัฒนาและนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงินให้แก่ลูกค้ากรุงศรีอย่างต่อเนื่อง ภายในสิ้นปี 2560 กรุงศรีคาดว่าจะมีจำนวนผู้ใช้งาน (Active Users) อยู่ที่ 1.5 ล้านคน และจะเพิ่มเป็น 2.5 ล้านคนในปี 2561”

ล้ำด้วยการนำเทคโนโลยี AI, ROBO ADVISOR ใส่ในแอพฯ

จุดที่น่าสนใจของ KMA คือการนำเอาเทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) และ Machine Learning มาประยุกต์ใช้ในลักษณะ chatbot ซึ่งจะสามารถช่วยตอบคำถามผู้ใช้งานทั้งในแบบข้อความและเสียง (Voice Response) ในอนาคต

นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีที่เรียกว่า Robo Advisor เสมือนที่ปรึกษาส่วนตัวในการให้คำแนะนำในการลงทุนแก่ลูกค้า ซึ่งจะให้ข้อมูลและคำแนะนำที่แม่นยำมากกว่ามนุษย์ก็ว่าได้ เพราะเป็นคำแนะนำบนข้อมูลของ data ล้วน ปราศจากการใช้อารมณ์ จึงทำให้มีประสิทธิภาพมากกว่า ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเทสตติ้งอยู่และพร้อมที่จะให้บริการในปีนี้แน่นอน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Digital Lending ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาส 4 ของปีนี้ ถือเป็นช่องทางดิจิทัลที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการสินเชื่อของกรุงศรีแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการให้กู้ยืมผ่านดิจิทัล การสมัครสินเชื่อ ติดตามผล และรับเงิน(end-to-end digital lending) หรือ Virtual Card ดู statement แบบเรียลไทม์ผ่าน KMA แพลตฟอร์มได้อีกด้วย

เทคโนโลยี QR Code

เทคโนโลยี QR Code ที่ค่อนข้างมาแรงในช่วงบูมเรื่อง Cashless เพื่อรองรับโครงสร้างระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment) ซึ่งปัจจุบัน QR Scan เป็นส่วนหนึ่งในเมนูการใช้งานหลักของ KMA เรียบร้อยแล้ว และธนาคารกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับร้านค้าให้สามารถรองรับการจ่าย-โอนเงินผ่าน QR Code ที่เป็นมาตรฐานเดียว พร้อมทั้งมีฟังก์ชั่นการใช้งานเพิ่มเติมที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของร้านค้า

ตอบรับ Lifestyle ในยุคดิจิทัล

ง่ายด้วยการ Login ด้วยลายนิ้วมือ หรือ PIN ที่ตั้งเองได้
ทุกเมนูในหน้าเดียว ปรับเปลี่ยนได้เมนูตามความต้องการ
รวมทุกผลิตภัณฑ์และบริการในหน้าเดียว
ออกแบบใหม่ ให้ใช้งานง่ายด้วยมือเดียว (จะซ้ายหรือขวาก็ได้)

ก้าวต่อไปในอนาคต ผ่าน 7 Pillars

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2560 กรุงศรี ได้ให้ความสำคัญด้านดิจิทัลแบงก์กิ้งและนวัตกรรมเพื่อมุ่งยกระดับประสบการณ์การใช้งานของลูกค้า เพื่อเป็น Digital Banking อย่างสมบูรณ์ จึงได้กำหนดกลยุทธ์การดำเนินงานด้านดิจิทัลและนวัตกรรม 7 ประการ ดังนี้

1) Multi-channel และ Omni-channel

2) Branch Transformation

3) Process Digitization

4) Digital Marketing and Social Media

5) Innovation Culture

6) StartUp/FinTech Experiment

7) National e-Payment

นี่คือโร้ดแมพในอนาคตที่ กรุงศรีจะก้าวไปเพื่อการเป็นดิจิทัลแบงก์กิ้งที่สมบูรณ์แบบ พร้อมตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้จะมีรายการทำธุรกิจเพิ่มขึ้น 350 รายการ และปีหน้าจะโตเพิ่มขึ้นอีก 90%