เปิดเหตุผลทำไม Klean&Kare ก้าวสู่การเป็นโปรดักส์ไลฟ์สไตล์ที่ใช้ได้ทุกวัน พร้อมกลยุทธ์ Endorser ผ่านพรีเซ็นเตอร์คนแรก “นาย ณภัทร”

  • 2K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

นับเป็นภาพจำที่เราคุ้นเคยกันเมื่อเรานึกถึงการทำความสะอาดส่วนต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะทำความสะอาดแผล หรือล้างจมูก ล้างตา ฯลฯ เรามักจะใช้น้ำเกลือขวดเขียวมาใช้ทำความสะอาดดูแลอวัยวะส่วนที่สำคัญต่างๆ ของร่างกาย เช่น ล้างจมูก ล้างตา แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้ว น้ำเกลือยังสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันอื่นๆ ได้อีก

ดังเช่นที่ Klean&Kare (คลีนแอนด์แคร์) ผู้นำด้านน้ำเกลือขวดปลายแหลม มองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่จะขยายเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ในชีวิตผู้คน ล่าสุด ได้เปิดตัวแคมเปญ Klean&Kare ใส่ใจดูแลให้มากกว่าทุกวัน Make Everyday Moments” เพื่อตอกย้ำความสำเร็จในการเป็นผลิตภัณฑ์ที่ครองใจผู้บริโภค และที่สำคัญคือรุกตลาดมากขึ้นในการขยับเข้าสู่การเป็นผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ที่สามารถใช้ได้ในทุกๆ วัน ดังนั้น ลองมาถอดรหัสกันว่า Klean&Kare ได้วางกลยุทธ์และวางแผนไปสู่เป้าหมายอย่างไรบ้าง

 

 

พัฒนาด้วยนวัตกรรม ขยายโอกาสสู่ไลฟ์สไตล์ 

Klean&Kare แบรนด์ผลิตภัณฑ์ ภายใต้การบริหารงานโดย A.N.B. LABORATORIES CO., LTD. เราเห็นคุ้นและชินตากับภาพของขวดน้ำเกลือปลายแหลมฉลากสีเขียว ที่คอยดูแลสุขภาพคนไทยต่อเนื่องมากว่า 35 ปี ด้วยจุดเด่นด้านนวัตกรรมของการพัฒนาโปรดักส์ ปราศจากเชื้อ (Sterile) ที่มีตัวยาโซเดียมคลอไรด์ 0.9% ผลิตด้วยเกลือจากประเทศนิวซีแลนด์ สมดุลกับน้ำในร่างกายทำให้ไม่เกิดการระคายเคือง และสามารถใช้ได้ในทุกเพศทุกวัย

มากไปกว่านั้น หลายคนอาจจะคิดแค่ว่าน้ำเกลือไว้ใช้แค่ล้างแผลหรือล้างจมูกเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วยังใช้ดูแลสุขอนามัยในชีวิตประจำวันในเรื่องอื่นๆ ได้อีกมากมาย เช่น กลั้วปากกลั้วคอ ล้างคอนแทคเลนส์ ล้างตา เช็ดทำความสะอาด บางคนก็เอาไว้ล้างหน้าเพื่อรักษาสิวก็มี เพราะด้วยความอ่อนโยนเป็นพิเศษทำให้มั่นใจได้ถึงความสะอาดปราศจากเชื้อโรค ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ได้ในหลายๆ โอกาส เป็นการขยาย Occasion เพิ่มเติมให้กับแบรนด์ จนตอนนี้แบรนด์ได้เข้าไปสู่ไลฟ์สไตล์ประจำวันของผู้บริโภคไปแล้วนั่นเอง

 

มาตรฐานระดับคุณภาพ ที่ทั่วโลกให้การยอมรับ

นอกเหนือไปจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างไม่หยุด ผลิตภัณฑ์ของ Klean&Kare ยังได้รับการรับรองมาตรฐานจากสถาบันระดับโลกมากมาย ด้วยกระบวนการผลิตและควบคุมคุณภาพที่เข้มงวด ภายใต้มาตรฐานหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต (Good Manufacturing Practice, GMP) และหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการจัดเก็บและขนส่ง (Good Storage and Distribution Practices, GSDP) รวมถึง ISO 9001, ISO 13485 และ ISO 17025 ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเน้นเวชภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงแก่ผู้บริโภค

Klean&Kare แบรนด์ที่อยู่ภายใต้ บริษัท เอ.เอ็น.บี.ฯ ซึ่งมีประสบการณ์ด้านผลิตยาและเวชภัณฑ์มากว่า 60 ปี ได้รับความเชื่อถือ และเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบันมีการส่งออกไปในหลายประเทศ อาทิ กัมพูชา ลาว มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เอธิโอเปีย ฮ่องกง เนปาล ศรีลังกา และเยเมน พร้อมยึดถือคุณภาพของผลิตภัณฑ์เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินการผลิตผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ส่งถึงผู้บริโภคมีประสิทธิภาพในการรักษา และเร็วๆ นี้เตรียมที่จะขยายแบรนด์สู่ตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น ตั้งเป้าสร้างยอดขายทั้งในและต่างประเทศเติบโต 25% ในปีนี้

 

วางกลยุทธ์ลองเทิร์ม-ช็อตเทิร์ม อย่างแยบยล

สำหรับการเข้าไปสู่ทุกช่วงเวลาในทุกโมเมนต์ของผู้บริโภค แคมเปญ “Klean&Kare ใส่ใจดูแลให้มากกว่าทุกวัน Make Everyday Moments” ยังได้ทำการสื่อสารการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ด้านภาพลักษณ์ของแบรนด์ ตอกย้ำถึงการเป็นผู้นำตัวจริงด้านน้ำเกลือขวดปลายแหลม โดยเป้าหมายระยะแรกของ Klean&Kare คือแนะนำแบรนด์กับผู้บริโภคเป้าหมายอย่างกลุ่มผู้รักสุขภาพ ได้รู้จักกับ Klean&Kare ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำเกลือ ส่วนเป้าหมายระยะยาว คือการเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคใช้น้ำเกลือในชีวิตประจำวันใช้ได้ในทุกเพศทุกวัย ไม่ใช่เฉพาะกับการล้างแผลเพียงเท่านั้น โดยวางกลุ่มเป้าหมายเป็น 4 กลุ่มลูกค้า ได้แก่ โรงพยาบาล ร้านขายยาชั้นนำ ร้านค้าชั้นนำ และลูกค้าช่องทางออนไลน์ด้วย

 

เลือกพรีเซ็นเตอร์ที่ใช่ ตอบโจทย์ไลฟสไตล์คนรุ่นใหม่ที่แท้จริง  

ดังนั้น เมื่อแบรนด์วางเป้าหมายเพื่อเข้าสู่ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้น ก็นับเป็นครั้งแรกที่แบรนด์เลือกที่จะใช้กลยุทธ์การพูดผ่าน Endorser โดยเลือกพรีเซ็นเตอร์ที่เป็นตัวแทนของแบรนด์ สำหรับ Klean&Kare เลือกหนุ่มฮอตที่สุดในวงการตอนนี้เลยก็คือ “นาย ณภัทร เสียงสมบุญ” หนุ่มมาดคลีนมาเป็นตัวแทนของแบรนด์ ในการสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ เพราะมีไลฟ์สไตล์ของการเป็นคนรักสุขภาพ พร้อมสร้างการรับรู้และตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มคนทุกเพศทุกวัยได้เป็นอย่างดี ซึ่งได้ทำการเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา พร้อมกับให้ “หนุ่มนาย” มาร่วมแชร์แบ่งปันไอเดียของการดูแลสุขภาพของเจ้าตัวกับผู้มาร่วมงานอีกด้วย

เรียกได้ว่ามีการวางแผนการสื่อสารได้รอบด้านครบถ้วนทีเดียว สมแล้วกับการที่ Klean&Kare รักษาความเป็นเบอร์ 1 ในการเป็นผู้นำด้านเวชภัณฑ์น้ำเกลือปราศจากเชื้อ (Sterile) ด้วยขวดปลายแหลม ที่มีจุดเด่นด้านนวัตกรรมและมีตัวยา 0.9% โซเดียมคลอไรด์ผลิตด้วยเกลือจากนิวซีแลนด์ ซึ่งสมดุลกับน้ำในเซลล์ร่างกายทำให้ไม่เกิดการระคายเคือง

สำหรับผู้ที่ต้องการมีสุขภาพดีให้มากกว่าทุกวัน  Klean&Kare  หาซื้อไม่ยาก โดยช่องทางจัดจำหน่ายทั้งออฟไลน์ออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น 7-11, Save Drug, Dr.Pharma, Watsons, Boots, Big C, Lotus’s ร้านขายยาชั้นนำ และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศรวมถึงช่องทางออนไลน์ Shopee, Lazada, BeDee แอปพลิเคชัน อีกด้วย

บทสรุปสำหรับกลยุทธ์ Klean&Kare ในการสร้างแบรนด์เพื่อเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค โดยทำให้แบรนด์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์สำหรับหลายๆ กิจกรรมที่ผู้คนใช้ในชีวิต สร้าง Occasion เพิ่มขึ้น พร้อมกับสร้างภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพบนนวัตกรรมและได้รับการยอมรับในระดับสากล ทำให้แบรนด์เป็น Top of mind ครองใจผู้บริโภคมายาวนาน เกือบ 40 ปี ซึ่งวันนี้แบรนด์ก็ได้ก้าวขยับเข้าใกล้ชิดผู้บริโภคอีกขั้นกับครั้งแรกของการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ เพื่อทำให้การสื่อสารเข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้เรียกได้ว่าเป็นแผนการตลาดที่ครบถ้วนรอบด้านของ Klean&Kare สมแล้วกับการเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์น้ำเกลือขวดปลายแหลมอันดับ 1 ในประเทศไทย

 


  • 2K
  •  
  •  
  •  
  •