เพราะ “โอกาส” เป็นเรื่องสำคัญ และเป็นปัจจัยก้าวแรกที่จะทำให้คนเราประสบความสำเร็จ ความเชื่อดังกล่าว และด้วยความหวังที่อยากจะให้คนไทยมี “โอกาส” ได้ยืนอยู่ในเวทีระดับโลกทัดเทียมนานาชาติ
ทำให้ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมศักยภาพคนไทยได้รับโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของตนเอง ไปพร้อมกับการส่งเสริมให้เยาวชน ชุมชน และสังคมมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของชุมชน และสังคมไทย ครบทุกมิติมาต่อเนื่อง ที่ครอบคลุม 3 แกนหลัก ได้แก่ กีฬา (Sport Power) ดนตรี (Music Power) และชุมชน (Community Power) ผ่านโครงการต่างๆ มากมาย รวมถึงในเรื่องของ “ดนตรี” ก็เป็นอีกหนึ่งเวทีที่คิง เพาเวอร์ มีเจตนารมณ์แรงกล้าที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่สร้างพลังบวกพลัง และเป็นหนึ่งในสามแกนหลักที่ทางบริษัทคิง เพาเวอร์ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด
ตอกย้ำความเชื่อมั่น ในพลังของคนไทยด้านดนตรี
จากความเชื่อมั่นในพลังของคนไทยด้านดนตรี ว่าสามารถเป็นที่ยอมรับในระดับโลก โดย 3 ปีที่ผ่านมาคิง เพาเวอร์ ได้ประสบความสำเร็จในการจัดเวทีการประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติแห่งประเทศไทย (TIWSC) มีผู้สนใจเข้าแข่งขันจากทั่วโลกร่วม 2,600 คน ล่าสุด! ปีนี้ คิง เพาเวอร์ พร้อมขยายโอกาสในวงกว้าง จัดเวทีประกวดวงดนตรีน้องใหม่ของประเทศ ภายใต้ชื่อ “THE POWER BAND” หรือการประกวดวงดนตรีสากลสมัยนิยม ผสมเครื่องเป่า ขึ้นเป็นครั้งแรก ร่วมกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ชิงถ้วยรางวัลเกียรติยศ และเงินรางวัลร่วม 680,000 บาท โดยตั้งเป้าให้เป็นเวทีดนตรีคุณภาพที่เปิดกว้างให้กับเยาวชน และคนไทย ได้แสดงพลังอย่างสร้างสรรค์ พร้อมผลักดันให้คนไทยกล้าคิด และกล้าแสดงพลังทางด้านดนตรีของตนเองได้อย่างเต็มที่ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ที่เชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย
ซึ่งงานนี้ อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เผยถึงเป้าหมายสำคัญของการจัดกิจกรรมว่า
“จุดมุ่งหมายที่เราจัดการประกวดนี้ เราอยากเห็นว่าน้องๆ ที่เข้ามาประกวด ไม่ว่าเป็นผู้ชนะหรือผู้แพ้ เขาจะได้มาเห็นว่าการที่จะต้องเริ่มเข้าสู่เส้นทางมืออาชีพจะเป็นอย่างไร ซึ่ง THE POWER BAND จะเป็นเวทีแรกๆ ที่ให้เขาได้ประสบการณ์ว่าการที่เขาเติบโตในเส้นทางดนตรีจะเป็นอย่างไร เราไม่อาจทราบว่าในอนาคตเขาจะไปสู่ระดับโลกหรือไม่ เพียงแต่ว่าแพ้แล้วเขาต้องลุกขึ้นมาสู้ต่อ ซึ่งจากการให้การสนับสนุนตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เราก็ได้เห็นว่าจริงๆ แล้ว เยาวชนคนไทยมีฝีมือด้านดนตรีไม่แพ้ชาติใดในโลก เราเห็นการเติบโตการจัดงานมาหลายครั้ง หลายครั้งที่จัดได้รับความสนใจทั้งจากคนไทยและต่างชาติ และที่ผ่านมาเรามีผู้สนใจที่เข้าร่วมประกวดมีกว่า 2,600 คนแล้ว”
ผลักดันให้เข้าสู่ระบบมืออาชีพ
สำหรับความมุ่งหวังสำคัญของ THE POWER BAND ไม่เพียงเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้แข่งขัน แต่ยังเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่จะทำให้เยาวชนมากความสามารถเหล่านี้มีโอกาสฝึกซ้อมและพัฒนาตัวเอง อภิเชษฐ์ตอกย้ำความเชื่อมั่นว่า
“คิง เพาเวอร์ เชื่อว่าประเทศไทยเป็นเมืองแห่งเพชร เพียงแต่ว่าเพชรเหล่านั้นได้เกิดการเจียระไนและโชว์แสงในตัวเองออกมา ซึ่งเราก็หวังว่าเวทีนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นให้คนไทยแสดงพลังและโชว์ฝีมือให้ทัดเทียมกับทั่วโลก”
นอกจากนี้ เขายังมองว่า THE POWER BAND เป็นเวทีที่เปรียบเสมือนเป็น “สปริงบอร์ด” ที่ผลักดันให้เยาวชนไทย ได้มีโอกาสไปแข่งขันในระดับโลก
โดยเขายังยกตัวอย่างความสำเร็จของเวทีการประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติแห่งประเทศไทย 2562 หรือ Thailand International Wind Symphony Competition 2019 (TIWSC) ที่ได้รับการสนับสนุนโดยคิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของน้องๆ จากโรงเรียนสุรนารีวิทยา จังหวัดนครราชสีมา ที่ได้ต่อยอดความสำเร็จอีกขั้น บินลัดฟ้าไปร่วมงานประกวดดนตรีระดับโลก คือ การแข่งขันวงดุริยางค์เครื่องลมบรรเลงนานาชาติ ครั้งที่ 22 (22nd International Festival of Wind Orchestra Prague 2020) ณ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
“จริงๆ เด็กไทยเก่งมาก และมีความพยายาม เมื่อไหร่มีเวทีทดสอบตัวเองเขาจะมีความตั้งใจ และผมคิดว่าการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดลเป็นตัวอย่างยิ่งว่า คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก”
สำหรับ ความพิเศษของการจัดงานปีนี้ กิจกรรมยังได้รับเกียรติจากผู้คร่ำหวอดในวงการดนตรีที่มีชื่อเสียงระดับประเทศทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลังงานดนตรี อาทิ วิเชียร ฤกษ์ไพศาล ผู้ก่อตั้งค่ายเพลง Genie Records และอัครวิชญ์พิริโยดม หรือ เช่ The Richman Toy พล-คชภัค ผลธนโชติ โปรดิวเซอร์มือทองค่ายเพลง Boxx Music, โอ-ทฤษฎี ศรีม่วง นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ และมิวสิกไดเรกเตอร์ ของวง Jetset’er , นักปั้นศิลปินแถวหน้าของเมืองไทยอย่าง นิค-วิเชียร ฤกษ์ไพศาล รวมไปถึง ฟองเบียร์-ปฏิเวธ อุทัยเฉลิม รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท มิวซิกมูฟ จำกัด ร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสิน
ด้าน ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า
“เรามีโจทย์ที่ว่าทุกคนมีความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานตัวเอง แต่ทำอย่างไรที่จะผนวกรวมจินตนาการเข้าด้วยกันและเป็นความหวังของประเทศ เรารู้แล้วว่าโควิด 19 ทำให้คนมาเที่ยวประเทศไทยน้อยลง แต่อย่างหนึ่งเราสามารถทำได้ คือการมีความคิดสร้างสรรค์ และสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อช่วยขับเคลื่อนประเทศ”
ซึ่งสำหรับเวทีนี้ ดร.ณรงค์ ย้ำว่าการแพ้ชนะไม่สำคัญ เพราะเป้าหมายสำคัญคือการมองลึกถึงความพยายามและเป็นเวทีฝึกฝนความแข็งแกร่งเยาวชนไทย
“ตั้งแต่เราร่วมทำงานกับคิง เพาเวอร์ ทำให้เราสนใจคนที่แพ้ด้วย ว่าเมื่อแพ้แล้ว เขาต้องกลับไปฝึกให้เก่ง แล้วกลับมาแข่งอีกครั้ง”
เชื่อในการหยิบยื่นโอกาส
นับตั้งแต่ปี 2560 คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ได้มอบโอกาส สร้างรอยยิ้ม และสร้างความเข้มแข็งในกว่า 4,000 โรงเรียน 400 ชุมชนทั่วประเทศ ครอบคลุม 3 แกนหลัก ได้แก่ กีฬา (Sport Power) ดนตรี (Music Power) และชุมชน (Community Power) ผ่านโครงการต่างๆ มากมาย อาทิ โครงการล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย ที่ตั้งเป้ามอบลูกฟุตบอลมาตรฐานให้กับเยาวชนในพื้นที่ห่างไกลทั่วทั้งประเทศ 1 ล้านลูก, โครงการ 100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย ที่สร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียมขนาดมาตรฐานระดับโลกและมอบให้กับโรงเรียน หรือชุมชนที่ขาดแคลน, โครงการประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติเพื่อเป็นเวทีให้นักดนตรีจากทั่วโลกได้มีพื้นที่ในการแสดงความสามารถ และโครงการส่งเสริมสินค้าชุมชนไทยก้าวไกลไปเวทีโลก ชูจุดแข็งและภูมิปัญญาของชาวบ้าน และต่อยอดสินค้าให้ตอบโจทย์ตลาดต่างประเทศ พร้อมเป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้าชุมชนในระดับสากล “ผมเชื่อมั่นในพลังคนไทยเสมอมา หากนำพลังคนไทยมารวมกัน ทำในสิ่งที่ดีให้กับสังคม
ซึ่งจากการสนับสนุนมาต่อเนื่อง ล่าสุด ‘คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย’ โครงการเพื่อสังคมโดยกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ยังได้รับมอบรางวัลอันทรงเกียรติต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จากงานประกาศรางวัล ‘Asia Responsible Enterprise Awards 2020’ หรือ AREA 2020 ที่จัดขึ้นโดย Enterprise Asia ด้าน Social Empowerment หรือ การสร้างความเข้มแข็งให้สังคม ซึ่งมีจำนวนผู้ส่งโครงการเข้าประกวดทั้งสิ้น 200 โครงการ จาก 19 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย ซึ่ง Enterprise Asia เป็นองค์กรอิสระที่สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจ และสังคมแบบองค์รวมในเอเชีย และมุ่งส่งเสริมการพัฒนาความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรต่างๆ ในภูมิภาค เพื่อยกระดับสถานภาพทางเศรษฐกิจ และสังคมให้ยั่งยืน
สำหรับผู้สนใจสมัครเข้าร่วมการประกวด THE POWER BAND เพียงส่งคลิปไฟล์วิดีโอและเตรียมเพลงสำหรับการประกวดจำนวน 2 เพลง แบ่งเป็น เพลงเร็ว 1 เพลง และ เพลงช้า 1 เพลง ตามเงื่อนไขที่กำหนด
สมัครที่ www.music.mahidol.ac.th/tiwsc ตั้งแต่ 9 พ.ย. – 5 ม.ค. 2564 โทร. 02-800-2525 ต่อ 3109 หรือ เฟซบุ๊ก: Thailand International Wind Symphony Competition
