ถอดรหัส “Let’s Get M.A.D.” กับ คุณกระทิง “เรืองโรจน์ พูนผล” เบื้องหลังความสำเร็จของ KBTG สู่ AI-First Company

  • 1.7K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

หากจะพูดถึงบริษัทในประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในการทำ Digital Transformation แล้ว บริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป หรือ KBTG คงเป็นชื่อแรกๆที่คนในแวดวงเทคโนโลยีจะนึกออก เพราะ KBTG เป็นผู้อยู่เบื้องหลังผลงานอย่างแอปพลิเคชั่น K PLUS แอปพลิเคชั่นของธนาคารกสิกรไทย แอปฯ ธนาคารอันดับหนึ่งของประเทศไทยที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 20 ล้านคน มี Chatbot สุดล้ำอย่าง “ขุนทอง” ที่ช่วยบริหารจัดการทางการเงินให้คนไทยนับล้านคน รวมไปถึง MAKE by KBank แอปบริหารจัดการทางการเงินและนั่นยังไม่นับรวมถึง LINE BK บริการสินเชื่อเข้าถึงง่ายที่มีผู้ใช้งาน 4 ล้านคนเข้าไปแล้ว

หลายๆ องค์กรอยากรู้ว่าเคล็ดลับความสำเร็จของการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ของ KBTG คืออะไร? โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยี Artificial Intelligence หรือ AI พัฒนาไปแบบก้าวกระโดด ล่าสุดคุณกระทิง“เรืองโรจน์ พูนผล” Group Chairman ของ KBTG ได้ให้ “คำตอบ” เอาไว้แล้วด้วยคำเชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมกัน “Let’s Get M.A.D” เพื่อเปลี่ยนมุมมองแห่งอนาคตและเดินหน้าสู่ยุคสมัยของ AI ด้วยความสำเร็จไปพร้อมๆ กัน

 

 

จาก Mobile-First สู่ AI-First

ก่อนจะพูดถึงเคล็ดลับความสำเร็จของ KBTG คุณกระทิงเล่าถึงรากฐานในการ Transform ของ KBTG ว่ามาจากการเป็นผู้นำในการทำ Mobile-First โดยมีหลักฐานสำคัญจากแอปพลิเคชั่น K PLUS  ที่มียอด Transaction ในปี 2022 คิดเป็นมูลค่ามากถึง 23 ล้านล้านบาท ใหญ่กว่าขนาด GDP ของประเทศไทยและคิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของมูลค่า Transaction ของทั้งประเทศ

ล่าสุด KBTG กำลังทำ AI-First Transformation ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่เนื่องจาก KBTG เคยประกาศวิสัยทัศน์การเป็น Cognitive Banking ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา โดยเริ่มต้นตั้งแต่การทำ Data-Driven Transformation วางรากฐานด้าน Data ให้แข็งแกร่ง มีการทำ Automation-First Transformation นำระบบ Automation มาอยู่ในทุกกระบวนการทำงานตั้งแต่การพัฒนา การทดสอบ และการออกผลิตภัณฑ์หรือซอฟท์แวร์ใหม่ๆ สู่การทำ AI-First Transformation ที่มีเดินหน้าเรื่อยมาไม่ว่าจะเป็นเรื่อง “Marketing & Credit Intelligence” ที่ช่วยเพิ่มอัตราการซื้อได้ 3 เท่า มีการทำ “K NLP” มาใช้จริง รวมถึงการพัฒนาเรื่อง Facial Technology ที่กลายเป็นระบบยืนยันตัวตนที่ได้รับมาตรฐานระดับโลก

 

Let’s Get M.A.D. ที่ไม่ได้หมายถึง “บ้าคลั่ง”

แล้วเส้นทางการ Transform บริษัท KBTG สู่ความสำเร็จคืออะไร คุณกระทิงบอกว่ามันคือ M.A.D. ซึ่งไม่ได้มีความหมายว่า “ความบ้าคลั่ง” แต่หมายถึงรากฐานสำคัญ 3 อย่างก็คือ Machine Learning, AI และ Data

 

 

M คือ Machine Learning – คือการนำเทคโนโลยี Machine Learning มาใช้กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดย KBTG นำเทคโนโลยี Machine Learning มาใช้กับระบบ “เสนอเงินกู้ผ่านแอปพลิเคชั่น” ที่สามารถสร้างอัตราการปิดการขายได้มากขึ้นถึง 4 เท่า สร้างยอดการกู้ยืมเพิ่มขึ้นถึง 10,000 ล้านบาทใน 3 ปี นอกจากนี้ยังมีการนำ Machine Learning มาใช้กับการ “แนะนำบริการทางการเงิน” ด้านต่างๆที่สามารถเพิ่มการตัดสินใจซื้อได้ถึง 2 เท่าคิดเป็นยอดขายถึง 450 ล้านบาท และ KBTG ยังนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ “แนะนำโปรโมชั่น” ในแอปพลิเคชั่นและผลลัพธ์คือสามารถทำให้การตัดสินใจซื้อเพิ่มขึ้น 4 เท่าทำให้มูลค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นกว่า 200 ล้านบาทในปี 2022

A คือ Artificial Intelligence – หรือการนำเทคโนโลยี AI มาพัฒนาไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่สร้างความเติบโตให้กับบริษัท โดยคุณกระทิงเล่าว่า KBTG นำมาใช้ในการทำ “Verification Technology” หรือระบบการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าและการทดสอบ liveness ที่มีความปลอดภัยมากที่สุด นอกจากนี้ยังนำไปพัฒนา Car AI ที่จะนำไปใช้กับการเคลมประกันภัยรถยนต์ได้โดยใช้ AI ประเมินแทนตัวแทนประกัน สามารถลดต้นทุนการเคลมของบริษัทประกันลงได้ครั้งละ 800 บาท อีกทั้งทาง KBTG ได้รับรางวัลของ Asian Technology Excellence Awards 2023 สาขา AI ด้าน Car AI​ และ KBTG ยังมี “AI Chatbot” ที่ช่วยตอบคำถามแทนพนักงานบริการลูกค้า และผลลัพธ์ก็คือสามารถลดเวลาการรอของลูกค้าไปแล้วแล้ว 300,000 ชั่วโมง ประหยัดต้นทุนไปได้ราว 130 ล้านบาท

 

 

นอกจากนี้ KBTG ยังพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับ MIT Media Lab ออกมาเป็นผลงานที่ใกล้จะนำออก commercial ในปี  2024 ก็คือ “คู่คิด” เป็นระบบที่มีพื้นฐานที่เรียกว่า Knowledge GPT ที่มีความเชี่ยวชาญภาษาไทย เข้าใจวัฒนธรรมท้องถิ่น มีจริยธรรม สามารถเป็นเพื่อนช่วยคิดและตอบคำถามในเรื่องต่างๆเป็น 2 มุมมองผ่าน character อย่าง “คะน้า” และ “คชา” เพื่อให้การตัดสินใจในเรื่องต่างๆเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และอีกผลงานที่ KBTG ร่วมพัฒนากับ MIT Media Lab ก็คือ “Future You” การสร้าง Digital Twin ของผู้ใช้งานในอนาคตในวัย 60 ปีผ่านโมเดลภาษา GPT ให้มาสนทนากับผู้ใช้งานเพื่อสร้างแรงจูงใจ ทำให้มีแนวคิดเชิงบวกเพื่อให้เดินทางสู่เป้าหมายในอนาคตได้

นอกจากนี้ยังมีงานที่กำลังศึกษาคือการสร้าบ “AI character” เช่น ไอน์สไตน์ หรือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ให้มาสอนให้ความรู้เด็กในวิชาต่างๆ รวมไปถึง Explainable AI ที่สามารถบอกเหตุผลของตัวเองในการให้คำตอบแต่ละคำตอบได้ ซึ่งความพยายามในการพัฒนาเทคโนโลยีไปในทิศทางนี้สอดล้องกับความเชื่อของ KBTG ที่ว่าในอนาคต AI จะไม่มาแทนมนุษย์แต่ AI จะมาช่วยมนุษย์ให้ทำงานด้านต่างๆได้มากกว่าเดิม 10 เท่า หรือในอนาคตเจ้าของธุรกิจ SME อาจจะสามารถมี Chief Financial Officer (CFO) ที่เป็น AI มาให้คำปรึกษาด้านการเงินหรือ ธนาคารสามารถส่ง AI ให้คำแนะนำด้านการลงทุนแบบเดียวกับลูกค้า wealth ได้เป็นต้น

D คือ Data – คือเรื่องพื้นฐานสำคัญที่จะต้องแข็งแกร่งมั่นคงและปลอดภัยในเวลาเดียวกัน โดย Data ที่นำมาใช้กับ AI ของ KBTG ทั้งหมดนั้นได้ถูก De-Identify แล้วเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของลูกค้า โดย Data ต่างๆที่จะนำไปเข้าสู่กระบวนการเทรน AI จะต้องทำให้ถูกต้องตามกฎ Data Privacy และไม่ละเมิดกฎหมาย PDPA ของประเทศด้วย เช่นเดียวกับการทำ Explainable AI ที่ KBTG ทำวิจัยและตีพิมพ์บน Google Cloud Blog แล้วที่ AI ในระบบ “Car AI” สามารถอธิบาย Logic และความคิดของตัวมันได้ว่าการตัดสินภาพถ่ายเป็นภาพรถที่ได้รับความเสียหายนั้นเพราะอะไร หรือ การตัดสินว่าภาพรถที่ถ่ายนั้นไม่ใช่รถยนต์จริงๆนั้น เพราะอะไร? เป็นต้น

 

 

คุณกระทิงระบุว่าความสำเร็จของ KBTG ในการเข้าสู่กระบวนการ M.A.D นั้นยังทำให้เวลานี้ KBTG มีผลิตภัณฑ์ที่มี AI อยู่เบื้องหลังหลายตัวที่พร้อมออกสู่ตลาดให้องค์กรต่างๆ นำไปใช้กับระบบของตัวเองได้แล้วเช่น “AINU” ระบบยืนยันตัวตนที่แม่นยำและปลอดภัยมีทั้ง OCR Technology เปลี่ยนข้อความในรูปให้ไปอยู่ในรูปแบบข้อความ ระบบ Face Recognition และ Liveness Technology ที่สามารถแยกแยะหน้ามนุษย์จริงๆ กับหน้ากาก หุ้น หรือรูปภาพได้ นอกจากนี้ยังมีระบบ “Asset Intelligence” ระบบประเมินราคาที่ดินจากแผนที่ดาวเทียมด้วย AI การนำ Generative AI มาใช้ตกแต่งทรัพย์ขายทอดตลาดเพื่อเพิ่มโอกาสในการขาย มี CCTV Analytics ที่สามารถนำไปใช้ประเมินพื้นที่ร้านค้าจัดโซนจากภาพในกล้องวงจรปิดเพื่อการขายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมไปถึงระบบ “Car AI” ที่มีบริษัทประกันภัยนำไปใช้แล้วเป็นต้น

 

สร้างคนสู่ AI Ecosystem

คุณกระทิงปิดท้ายว่า นอกจากการสร้างองค์กรให้เติบโตด้วยเทคโนโลยีด้วย M.A.D แล้วอีกสิ่งที่สำคัญก็คือการสร้างคนให้เข้าสู่ AI Ecosystem ด้วย KBTG Kampus ที่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาสามารถเปิดคอร์ส Reskill ด้านเทคโนโลยีจำนวนมากกว่า 20 คอร์ส มีคนเข้าร่วมเรียนมากถึง 14,000 คน มีผู้ชมผ่าน KBTG Life มากถึง 273,000 วิว และมีชั่วโมงการ Reskill ไปแล้วถึง 30,000 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังเปิดหลักสูตร 2+2 สามารถเรียน 2 ปีแล้วเข้ามาทำงานรับเงินเดือน full-time กับ KBTG 2 ปีกลับไปแลกหน่วยกิจจบการศึกษาได้เลยก็มี

คุณกระทิงเล่าว่าการจะนำ M.A.D. ไปใช้ในทุกกระบวนการได้นั้นจะต้องมีศูนย์กลาง KBTG จึงตั้งมี center of excellence ที่เรียกว่า “KBTG MAD” อยู่ที่ KBTG Labs เพื่อทำเรื่องนี้โดยเฉพาะรวมไปถึงมีหน่วยงาน “KX” ที่เป็น AI Venture Builder เพื่อลงทุนสร้างสตาร์ทอัพด้าน AI ของตัวเองเพื่อเสริม AI Ecosystem ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นด้วย

“การที่เราจะ Let’s Get M.A.D. ได้นั้นจะต้องมีเรื่องของการ Co-Imagine ร่วมกันจินตนาการถึงโลกวันข้างหน้าอย่างไร เราจะ Co-Exploring ค้นหาสิ่งใหม่ๆกับ AI อย่างไร มนุษย์ต้องวิวัฒนาการไปสู่การเป็นนักตั้งคำถาม Co-Thingking ร่วมกันกับ AI และสุดท้ายคือ Co-Creating ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆกับ AI ต่อไป” คุณกระทิง ปิดท้าย

 

#KBTG #KBTGAIFirst #LetsGetMAD #BeyondBanking #AITechnology

 


  • 1.7K
  •  
  •  
  •  
  •