ช่วงเทศกาลหยุดยาวถือเป็นช่วงเวลาแห่งการท่องเที่ยว หลายคนเลือกเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ ยิ่งคนที่เดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ ปัญหาหนึ่งที่มักจะพบเจอคือการแลกเงินในจำนวนที่ต้องเตรียมไป บางคนแลกไปจำนวนมากเพื่อความคล่องตัวการใช้จ่ายในต่างประเทศ บางคนแลกไปเท่าที่จำเป็น แต่จะแย่ยิ่งกว่าถ้าต้องใช้เงินแต่เงินที่แลกไปกลับไม่พอ คราวนี้ปัญหาใหญ่คือการหาที่แลกเงิน ซึ่งบางครั้งอาจต้องแลกด้วยอัตราแลกเงินที่แพงกว่า ยังไม่นับกับความเสี่ยงที่ต้องแลกเงินไปจำนวนมาแล้วทำหาย หรือตกอยู่ในสายตาของมิจฉาชีพ
นี่คือ Pain Point หลักของนักท่องเที่ยวไทยที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งธนาคารกสิกรไทย ผู้นำด้านนวัตกรรมทางการเงินก็มองเห็น Pain Point ดังกล่าว ทำให้เกิดความร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง Orbix Technology และ StraitsX ในการพัฒนาระบบชำระเงินข้ามประเทศที่ช่วยเพิ่มอำนาจการใช้จ่ายให้กับลูกค้าธนาคารที่ช่วยให้สามารถใช้จ่ายผ่านแอปฯ ในประเทศสิงคโปร์ โดยไม่ต้องแลกเงินไปจากประเทศไทย
ความร่วมมือของ 3 พันธมิตรสู่อำนาจการใช้จ่ายไร้พรมแดน
เนื่องจาก Pain Point ทำให้การใช้จ่ายในต่างประเทศสำหรับนักท่องเที่ยวไทยเป็นอุปสรรคอย่างมาก ในฐานะที่ธนาคารกสิกรไทยซึ่งเรียกได้ว่าเป็นผู้นำนวัตกรรมทางด้านการเงินที่พัฒนาและปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกรรมทางการเงินแบบดั้งเดิม ให้มีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยยิ่งขึ้น เพื่อช่วยแก้ Pain Point ที่เกิดขึ้นจึงได้นำเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) เข้ามาช่วยยกระดับการชำระเงินระหว่างประเทศให้สามารถชำระเงินได้แบบเรียลไทม์
โดยเป็นการร่วมมือกับอีก 2 พันธมิตรที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ทั้ง Orbix Technology ผู้พัฒนา Quarix โครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีบล็อกเชน ที่เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของแอปพลิเคชัน Q-money by KBank ที่ช่วยให้สามารถทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย รวมทั้งเป็นตัวเชื่อมต่อเข้ากับระบบของ StraitsX ทำให้สามารถชำระเงินข้ามพรมแดนผ่านระบบบล็อกเชนเหมือนกับการสแกนจ่ายในไทย
อีกหนึ่งพันธมิตรที่เข้าร่วมมือในครั้งนี้อย่าง StraitsX ผู้นำด้าน Stablecoin ที่เป็นหัวใจสำคัญในการใช้จ่ายเงินภายในประเทศสิงคโปร์ โดย StraitsX ทำหน้าที่เป็นตัวกลางการแลกเปลี่ยนเงินจากสกุลเงินดิจิทัล XSGD ไปเป็นสกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์ ก่อนจะชำระเงินให้กับร้านค้าในสิงคโปร์ด้วย QR Code ซึ่งระบบของ StriatsX ยังทำให้เกิดการชำระเงินแบบเรียลไทม์ โดยร้านค้าปลายทางสามารถได้รับยอดเงินในทันที ช่วยให้การชำระเงินระหว่างประเทศไทยและสิงคโปร์มีความมั่นคงและสะดวกขึ้น ช่วยให้นักท่องเที่ยวและร้านค้าที่รับชำระเงินมั่นใจมากขึ้น
ยกระดับการชำระเงินข้ามพรมแดนในระดับภูมิภาค
เรียกว่าความร่วมมือนี้ถือเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้การใช้จ่ายเงินในต่างประเทศสะดวก ไม่ต้องวุ่นวายกับการแลกเงิน และไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีเงินใช้ในต่างประเทศ ปัจจุบันความร่วมมือนี้ยังอยู่ในช่วงของเฟสแรก ซึ่งตั้งเป้าให้นักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางไปประเทศสิงคโปร์สามารถชำระเงินด้วยการสแกน QR Code เพื่อซื้อสินค้าและบริการกับร้านค้าในประเทศสิงคโปร์ได้
โดยขยายความได้ว่า ยังอยู่ในการทดลองภายใต้ของเขตที่จำกัด เพื่อให้สอดคล้องกับกรอบการกำกับดูแล ที่จะสามารถส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมเกี่ยวกับการให้บริการทางการเงิน และเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงินของลูกค้า รวมถึงให้สามารถรองรับความต้องการใช้ให้มากขึ้น ซึ่งการสาธิตวิธีการใช้งานเพื่อให้นักท่องเที่ยวไทยหรือลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยสามารถใช้งานได้จริงในอนาคตอันใกล้
สำหรับการใช้จ่ายสามารถสแกนชำระได้ทั้งการซื้อสินค้าและบริการ โดยจะขึ้นอยู่กับร้านค้าที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งร้านค้าที่สามารถรองรับการสแกนชำระผ่าน QR Code จะต้องเป็นร้านค้าที่มีระบบ PayNow และ Grab Merchant QR Code สำหรับรองรับการแสกนชำระ
หากระบบดังกล่าวสามารถดำเนินการผ่านเฟสแรกไปแล้ว ในเฟสต่อมาจะเป็นการพัฒนาระบบให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถใช้แอปฯ Q-money by KBank ในการชำระเงินกับร้านค้าในประเทศไทยได้ โดยที่จุดมุ่งหมายสูงสุดคือการขยายการบริการให้ครอบคลุมทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยนวัตกรรมข้างต้น อยู่ระหว่างการพิจารณาของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อให้บริการใน Regulatory Sandbox
ทำความรู้จัก Q-money by KBank
สำหรับบริการ Q-money by KBank จะเป็นแอปฯ ที่ให้บริการด้านเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีการนำเทคโนโลยีบล็อกเชน Quarix เข้ามาใช้ โดยเป็นนวัตกรรมทางการเงินที่อาจเรียกได้ว่ามีความปลอดภัยที่สุดในช่วงเวลานี้ ซึ่งหน้าที่หลักของ Q-money by KBank จะเน้นการนำไปใช้โอนเงินหรือชำระค่าสินค้าและบริการผ่าน QR code ซึ่งร้านค้าที่รับชำระเงินจะต้องรองรับระบบการชำระด้วย Q-money by KBank
โดยจุดเด่นของ Q-money by KBank ในการชำระเงินต่างประเทศ จะช่วยลดข้อจำกัดและช่วยเสริมอำนาจการใช้จ่าย ที่สำคัญสามารถชำระเงินระหว่างประเทศได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง และยังลดระยะเวลาการทำธุรกรรมจากเดิมที่กว่าจะรอให้เงินเข้าบัญชีร้านค้าในต่างประเทศอาจใช้เวลาถึง 72 ชั่วโมงหรือราว 3 วัน เหลือแค่เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น ช่วยให้การใช้จ่ายในต่างประเทศสะดวกและสร้างความเชื่อมั่นทุกการใช้จ่าย
*Q-money เป็นผลิตภัณฑ์ซึ่งอยู่ระหว่างการให้บริการภายใต้กรอบ Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)*
โอกาสสู่การใช้งานจริงในอนาคต
เพื่อให้เห็นภาพความร่วมมือที่ชัดเจน ทั้ง 3 พันธมิตร ไม่ว่าจะเป็น ธนาคารกสิกรไทย, Orbix Technology และ StraitsX ในการพัฒนาโซลูชันการชำระเงินระหว่างประเทศด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางไปประเทศสิงคโปร์ จึงได้มีการโชว์สาธิตการชำระเงินในรูปแบบดังกล่าวที่งาน Singapore FinTech Festival 2024 ที่จัดขึ้นไป
โดยในงานนี้ ยังได้รับเกียรติจาก คุณขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย พร้อมด้วย ดร.ดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ ดร.กรินทร์ บุญเลิศวณิชย์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับ คุณญาณวิทย์ รักษ์ศรี กรรมการผู้จัดการ Orbix Technology และ Mr. Tianwei Liu ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร StraitsX เข้าร่วมการสาธิตในครั้งนี้
โดยการสาธิตครั้งนี้เป็นการโชว์วิธีการชำระเงินด้วยแอป Q-money by KBank ผ่านการสแกน QR code ของร้านค้าที่สิงคโปร์เพื่อจ่ายเงินในสกุลเงินบาท ซึ่งเมื่อผู้ใช้งานตกลงรับอัตราแลกเปลี่ยน FX rate ระบบ Quarix และ StraitsX จะทำงานเชื่อมต่อร่วมกันระหว่างบล็อกเชนเพื่อแปลงสกุลเงินบาทในรูปแบบ Q-money เป็นสกุลเงินดิจิทัลสิงคโปร์ในสกุล XSGD ของ StraitsX
ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนทำให้การชำระเงินระหว่างเงินบาทและ XSGD เกิดขึ้นโดยทันทีแบบ Real-time และหลังการชำระเสร็จสิ้น ร้านค้าในสิงคโปร์จะได้รับเงินในสกุล SGD โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดการค่าเงินเอง ช่วยให้การชำระเสร็จสิ้นภายในไม่กี่นาทีโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาแลกเงิน สามารถใช้เงินในบัญชีรูปของเงินบาทได้ทันที
เรียกว่าเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวไทยสะดวกสบายในการใช้จ่ายอย่างเต็มประสิทธิภาพที่สิงคโปร์ เหมือนการใช้จ่ายที่ประเทศไทย ตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นผู้นำที่มุ่งเป็นผู้ให้บริการทางการเงิน และเป็นผู้ริเริ่มการพัฒนาและสร้างนวัตกรรมที่ทันสมัยเพื่อช่วยเสริมศักยภาพการใช้จ่ายและสะดวกสบาย แน่นอนว่าหากใช้งานจริง อนาคตการใช้งานในประเทศอื่นๆ ด้วยสกุลเงินบาทไม่ใช่เรื่องที่วุ่นวายหรือยุ่งยากอีกต่อไป
