ผนึกกำลังระดับโลก KAsset – J.P. Morgan Asset Management สร้างการลงทุนที่มั่นคงด้วย Multi-Asset ลดความเสี่ยงสร้างผลตอบแทนที่มั่นคง

  • 1.3K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

หนึ่งในเรื่องที่นักลงทุนรู้ดีที่สุดคือการลงทุนมีความเสี่ยง โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่มองไปที่ไหนก็มีแต่ความไม่แน่นอน การลงทุนในตลาดต่างประเทศที่ยังขาดข้อมูลของตลาด ส่งผลให้การเข้าไปลงทุนในตลาดต่างประเทศกลายเป็นความเสี่ยงที่สูงกว่าการลงทุนในตลาดประเทศไทย นั่นจึงทำให้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด หรือ KAsset ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ดึงพันธมิตรระดับโลกอย่าง J.P. Morgan Asset Management (JPMAM) เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งในการลงทุนตลาดต่างประเทศ

 

 

ดึงผู้เชี่ยวชาญระดับโลก J.P. Morgan Asset Management

 

เรียกว่าชื่อชั้นของ J.P. Morgan Asset Management หรือ JPMAM สำหรับนักลงทุนแล้วเป็นที่ทราบกันดีว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนระดับโลกที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการกว่า 2.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเข้ามาลงทุนในตลาดประเทศไทยตั้งแต่ปี 2014 และเป็นพันธมิตรที่สำคัญของ KAsset โดยครั้งนี้จะเป็นความร่วมมืออย่างจริงจัง โดยเป็นความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงนวัตกรรมด้านการลงทุน ที่จะเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพและพัฒนาขีดความสามารถในการจัดสรรสินทรัพย์ทั่วโลกเพื่อยกระดับการลงทุนของไทย

จุดแข็งอย่างหนึ่งของ JPMAM คือการเข้าลงทุนในตลาดต่างประเทศทุกภูมิภาคทั่วโลก นั่นหมายความว่า JPMAM รู้จักตลาดในหลายประเทศ รวมไปถึงยังมองเห็นโอกาสและความเสี่ยงในการลงทุนตลาดต่างประเทศแต่ละแห่งทั่วโลก ที่สำคัญด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานของ JPMAM เมื่อรวมกับความเชี่ยวชาญของ KAsset ที่มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการกว่า 1.49 ล้านล้านบาท จะส่งผลให้การลงทุนในตลาดต่างประเทศมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การร่วมมือกันในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากได้ทำงานร่วมกันในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ทำให้ทั้ง KAsset และ JPMAM ต่างเชื่อมั่นในศักยภาพของแต่ละฝ่าย และเชื่อว่าเมื่อร่วมมือกันจะช่วยให้นักลงทุนไทย สามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีความผันผวน

 

คลาย Pain Point นักลงทุน 3E

หนึ่งใน Pain Point ของนักลงทุนที่จะไปลงทุนในตลาดต่างประเทศคือการไม่รู้จักตลาด ส่งผลให้หลายนักลงทุนไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามที่ต้องการ กลายเป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีสำหรับการไปลงทุนในต่างประเทศ และจะสร้างความลังเลการไปลงทุนในตลาดต่างประเทศในอนาคต การร่วมมือกันของ KAsset และ JPMAM จึงเป็นการเข้ามาแก้ Pain Point ของนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็น

 

 

  • Expertise ที่ JPMAM มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในตลาดการลงทุนของหลายประเทศทั่วทุกมุมโลก ที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการให้คำแนะนำและที่ปรึกษาการลงทุน
  • Experience ส่งผลให้นักลงทุนไทยที่ต้องการไปลงทุนในตลาดต่างประเทศสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างมั่นคง ผ่านโมเดลที่ JPMAM เคยประสบผลสำเร็จมาแล้ว
  • Empower ช่วยเสริมศักยภาพให้กับ KAsset และช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนที่ใช้บริการของ KAsset ในการลงทุนตลาดต่างประเทศ

โดย คุณอดิศร เสริมชัยวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด หรือ KAsset อธิบายสถานการณ์การลงทุนของไทยว่า ปัจจุบันนักลงทุนไทยมีประมาณ 60% กำลังเผชิญปัญหาพอร์ตการลงทุนมีความผันผวน โดยในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ตลาดได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดและวิกฤตเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้นักลงทุนประเมินสถานการณ์ได้ยากยิ่งขึ้น

 

Multi-Asset การลงทุนกระจายความเสี่ยง

หนึ่งในพฤติกรรมของนักลงทุนไทยคือ ความต้องการลงทุนในตลาดที่มีโอกาสสูงและสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูง นักลงทุนจึงนิยมลงทุนในตลาดเดียวเพื่อสร้างผลตอบแทนสูงสุด แต่อย่างที่ทราบการลงทุนมีความเสี่ยง ถ้าตลาดดีผลตอบแทนยิ่งได้รับสูง ในทางกลับกันหากตลาดผันผวนโอกาสขาดทุนก็มีสูงเช่นกัน และส่วนใหญ่ที่นักลงทุนจะไม่ทราบข้อมูลของตลาดต่างประเทศ ความเสี่ยงจึงยิ่งมากกว่าปกติ

 

 

ความร่วมมือกันของ KAsset และ JPMAM จะเน้นไปที่การลงทุนแบบ Multi-Asset หรือการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง นั่นหมายความว่าไม่ใช่การลงทุนเพียงตลาดใดตลาดหนึ่ง แต่จะเป็นการลงทุนในตลาดหลายประเทศที่ JPMAM มองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ซึ่งจะช่วยให้การลงทุนมีประสิทธิภาพและมีความมั่นคงในการได้รับผลตอบแทน หากมีตลาดใดที่ผันผวนก็ยังมีตลาดอื่นๆ ที่สามารถสร้างผลตอบแทนมาทดแทนได้

ดังนั้นการลงทุนในรูปแบบ Multi-Asset แม้จะไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูง แต่โอกาสที่จะขาดทุนก็ลดลง โดยมีการประเมินไว้ว่าจะสามารถสร้างผลตอนแทนได้เฉลี่ยปีละ 4%-5% ซึ่งจะแตกต่างจากการลงทุนในตลาดเดียวที่ผลตอบแทนสูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน ดังนั้นนักลงทุนจึงจำเป็นต้องมองเป้าหมายของการลงทุนของตัวเองก่อนว่า ต้องการลงทุนโดยมีเป้าหมายอย่างไร

 

ติดอาวุธนักลงทุนพิชิตตลาดต่างประเทศ

สิ่งที่นักลงทุนจะได้แน่นอนจากความร่วมมือกันในครั้งนี้ คือการให้คำแนะนำและความเชี่ยวชาญในการเป็นที่ปรึกษาทางด้านการลงทุน และเพื่อให้นักลงทุนที่จะเข้ามาใช้บริการ KAsset หรือนักลงทุนที่ใช้บริการอยู่แล้วมั่นใจในทุกการลงทุนตลาดต่างประเทศ นักลงทุนจะได้ความพิเศษที่มากขึ้นจาก JPMAM ไม่ว่าจะเป็น

  • Research Guide to Market ที่รวบรวมและจัดทำขึ้นโดย JPMAM โดยจะเป็นข้อมูลของตลาดต่างประเทศทั่วโลกที่น่าสนใจ ซึ่งจะมีการทำเวอร์ชั่นภาษาไทยในอนาคต
  • Products Sharing ซึ่งเป็นการให้คำปรึกษาถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ ที่มีแนวโน้มได้รับผลตอบแทนสูง เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาของนักลงทุน
  • Training ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการลงทุนจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกอย่าง JPMAM รวมถึงการพัฒนาทีมงานที่ช่วยให้คำปรึกษากับนักลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

 

ไม่เพียงเท่านี้คู่ค้าที่ร่วมทำงานกับทาง KAsset ก็จะได้รับความพิเศษเหล่านี้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้นักลงทุนยังได้รับโซลูชั่นทางด้านการลงทุนที่จะเป็นรูปแบบ Integrated Solution ที่จะช่วยให้การลงทุน มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ประกอบไปด้วย

  1. การลงทุนในรูปแบบ Multi-Asset ที่จะช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างความมั่นคงในการได้รับผลตอบแทน ลดความเสี่ยงที่จะขาดทุนลง
  2. ข้อมูลเชิงลึกสำหรับการลงทุน Investment Intelligence ซึ่งจะเป็นข้อมูลการลงทุนที่มีการอัปเดต เข้าใจได้ง่ายในบริบทของคนไทย
  3. ที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญ Smart Advisory โดยที่ปรึกษารวมถึงคู่ค้าของ KAsset สามารถนำข้อมูลต่างๆ ที่ได้ไปให้คำปรึกษากับนักลงทุนในทุกช่วงสถานการณ์

 

เป้าหมายความร่วมมือสู่การเปลี่ยนแปลง

สำหรับความร่วมมือกันในครั้งนี้ KAsset ตั้งเป้าที่จะมีเม็ดเงินการลงทุนในรูปแบบ Multi-Asset สูงถึง 1 แสนล้านบาทภายใน 3  ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในความท้าทายอย่างมาก เนื่องจากเป้าหมายหลักของความร่วมมือกันในครั้งนี้ คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการลงทุนของนักลงทุนไทยที่ส่วนใหญ่เน้นลงทุนในตลาดเดี่ยว ที่มีความเสี่ยงสูง แม้จะมีผลตอบแทนสูงมาเป็นแรงจูงใจ

แต่นักลงทุนในระดับโลกจะเน้นการลงทุนในรูปแบบ Multi-Asset ที่ช่วยให้ความเสี่ยงในการขาดทุนลดลง แม้ว่าผลตอบแทนอาจไม่สูงเหมือนการลงทุนในตลาดเดี่ยว ซึ่งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการลงทุนของนักลงทุนไทยมีความท้าทายสูงกว่า เนื่องจากนักลงทุนไทยยังชอบการลงทุนที่เน้นเห็นผลเร็ว ซึ่งในสถานการณ์ที่มีความผันผวนไปทั่วโลก การลงทุนในรูปแบบ Multi-Asset อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนมากกว่า

แน่นอนว่าไม่มีใครสามารถบอกได้ว่า การลงทุนแบบไหนดีที่สุด ได้ผลตอบแทนสูงสุด เพราะปัจจัยทั้งหมดขึ้นอยู่กับสภาพตลาดของแต่ละแห่งและเป้าหมายของนักลงทุน ดังนั้นนักลงทุนจึงต้องมองเป้าหมายการลงทุนให้ชัดเจน ซึ่ง KAsset มีผู้เชี่ยวชาญที่จะเข้ามาช่วยให้เป้าหมายของนักลงทุนสำเร็จ บนข้อมูลเชิงลึกของตลาดทั่วโลกและความเชี่ยวชาญของ 2 ยักษ์ใหญ่ด้านการลงทุน ทั้ง JPMAM ยักษ์ใหญ่ด้านการลงทุนระดับโลก และ KAsset ยักษ์ใหญ่ด้านการลงทุนของไทย


  • 1.3K
  •  
  •  
  •  
  •