จุดเริ่มต้นของธุรกิจ “กะทิสดสเตชั่น” ของ NGV เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2561 จากความต้องการหาธุรกิจใหม่เพื่อตอบสนองลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในสถานีบริการ NGV ที่ต้องใช้รับบริการ จึงเกิดเป็นไอเดียธุรกิจไอศกรีมกะทิ และนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่มีวัตถุดิบจากผู้ผลิตน้ำกะทิสดจากมะพร้าวทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สถานที่ซึ่งมีชื่อเสียงด้านมะพร้าวมากที่สุดแห่งหนึ่งของไทย มีผลผลิตที่ขึ้นชื่อเรื่องความหอม หวานมัน
ซึ่งหลังจากพัฒนาผลิตภัณฑ์จนได้รสชาติที่ถูกปากแล้วก็เริ่มเปิดขายสาขาแรกที่สถานีบริการ NGV กำแพงเพชร 2 ถ.กำแพงเพชร กรุงเทพฯ ปตท. ในปี 2564
รีแบรนด์ดิ้ง กะทิสดสเตชั่น
แบรนด์ “กะทิสดสเตชั่น” วางจุดเด่น “เน้นความเป็นไทย” มีแรงบันดาลใจมาจากวัตถุดิบที่ดีของประเทศไทยอย่างกะทิสดจากมะพร้าวทับสะแก ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าทางการเกษตรที่เป็นวัตถุดิบจากท้องถิ่น ที่มีความหอมหวานและได้รับการยอมรับว่าเป็นมะพร้าวที่ดีที่สุดในประเทศไทย พร้อมตั้งสโลแกนของแบรนด์ว่า “รสชาติมรดกไทย”
เน้น Product พิชิตใจกลุ่มเป้าหมาย
ทีมการตลาดของ “กะทิสดสเตชั่น” เน้นกลยุทธ์ไปที่ตัว Product ในการเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค ได้พัฒนา Product ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ Dairy ที่มีส่วนประกอบของนม และ Non Dairy ที่ไม่มีส่วนประกอบของนม เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่รักสุขภาพและใส่ใจผู้บริโภคที่แพ้ผลิตภัณฑ์ประเภทนม รวมไปถึงการคิดค้นรสชาติใหม่ๆอยู่เสมอ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นส่วนผสมที่ได้จากผลไม้ที่ปลูกได้ในชุมชน ประกอบด้วยไอศกรีม Hard Serve 4 รสชาติหลัก คือ กะทิ รสขนุน ไรซ์เบอร์รี่ มะม่วง เพิ่มความหลากหลายด้วย รสเค้กกล้วยหอม เสาวรส กระเจี๊ยบ เก๊กฮวย ฯลฯ พร้อมกับ Product Line ไอศกรีม Soft Serve ด้วยรสชาติ มะพร้าวน้ำหอม ช็อกโกแลต ทุเรียน และชาไทย โดยออกรสชาติใหม่เป็นประจำทุกเดือน
ช่องทางจำหน่ายที่เข้าถึงลูกค้าทั้งแบบ B2B และ B2C
นอกจาก กะทิสดสเตชั่น จะมีรสชาติที่หลากหลายและนำเสนอรสชาติใหม่ๆ ทุกๆ เดือนแล้ว ด้านช่องทางการจำหน่ายยังมีทั้งในรูปแบบ Flagship Store และออนไลน์ ทั้งแบบ B2B และ B2C อีกด้วยไม่ว่าจะเป็น
o กะทิสด สเตชั่น 2 สาขา ได้แก่ สถานีบริการ NGV กำแพงเพชร 2 ถ.กำแพงเพชร และ ปตท. สำนักงานใหญ่ ถ.วิภาวดีรังสิต
o Line OA : @Kathisodstation , App Robinhood : กะทิสดสเตชั่น
o Facebook : กะทิสดสเตชั่น – ไอติมกะทิสดแท้
นี่คือผลิตภัณฑ์ใหม่ของ PTTNGV ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์แปรรูปจากวัตถุดิบท้องถิ่น ซึ่งเป็นผลผลิตทางการเกษตร ตามแนวทางการสนับสนุนวิสาหกิจชุมชน เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ทุกถ้วยที่เราได้ทานจะเป็นการคืนกำไรให้กับเกษตรกรชาวไทย และกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่เลือกคัดสรรและใส่ใจในทุกรายละเอียดเป็นอย่างดี สมกับสโลแกนของแบรนด์ว่า “รสชาติมรดกไทย”