ไม่ใช่เรื่องง่ายที่แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งจะสามารถตอกย้ำความเชี่ยวชาญในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของตัวเองได้โดดเด่น เพราะแบรนด์นั้นจะต้องทุ่มเทตั้งใจจัดการกับปัญหาที่ผู้บริโภคเผชิญอย่างรอบด้าน จนสามารถวางตำแหน่งตัวเองเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นแบบครบวงจรได้สำเร็จ
“จระเข้” บริษัทวัสดุก่อสร้างของคนไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่แบรนด์ที่ทำได้ ที่ผ่านมา น้อยคนที่จะรู้ว่าบริษัทที่ทั้งผลิตและจำหน่ายสินค้านวัตกรรมเพื่องานก่อสร้างซ่อมแซม และตกแต่งบ้านอย่างจระเข้ นั้นไม่ได้เป็นเพียง No.1 ในกลุ่มสินค้ากาวซีเมนต์และกาวยาแนวมานานกว่า 32 ปีเท่านั้น แต่วันนี้จระเข้พร้อมตอบโจทย์ทุกงานก่อสร้างด้วยผลิตภัณฑ์เคมีก่อสร้างที่ครอบคลุมทั่วบ้าน ตั้งแต่โครงสร้างหลังคาไปถึงพื้นถนน และตัดสินใจประกาศให้โลกรู้ด้วย TVC ใหม่ล่าสุด
สิ่งที่น่าสนใจของ TVC ตัวใหม่นี้คือการรวม 4 กลยุทธ์การตลาดเข้าไว้ด้วยกันอย่างแนบเนียน โดยแกนหลักของทุกกลยุทธ์คือการฉายถึงความเยอะของปัญหาบ้านที่แก้ไม่จบ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นบ้านใหม่ หรือการซ่อมแซมรีโนเวท จระเข้ก็มีผลิตภัณฑ์เคมีก่อสร้างที่ช่วยแก้ไขทุกปัญหาบ้านได้ทั้งหมด
พี่เข้แก้ได้
TVC ตัวใหม่ล่าสุดของจระเข้ เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ “ปัญหาบ้านเยอะ… จระเข้เยอะกว่า” ตัว TVC โชว์ถึงความเยอะของปัญหาบ้านที่แก้ไม่จบ โดยการดึงอินไซต์จากการตรวจรับบ้าน ซึ่งเป็นภาพที่เห็นชินตาว่าจะมีทีมตรวจบ้านคอยแปะโพสต์อิทตามจุดที่ไม่เรียบร้อยในบ้าน
ภาพการติดกระดาษโพสต์อิทนี้เกิดขึ้นทั้งการตรวจรับบ้านใหม่ และการซ่อมแซมรีโนเวทบ้าน แต่แน่นอนว่าทุกปัญหาล้วนรับมือได้ ด้วยพลังของ “พี่เข้” ซึ่งเป็นตัวเทนแบรนด์จระเข้ที่มีผลิตภัณฑ์เคมีก่อสร้างครอบคลุมรับจบทุกปัญหางานก่อสร้าง โดย TVC มีการสื่อว่าพี่เข้สามารถงาบได้ทุกปัญหาแยะ ด้วยสินค้าที่เยอะกว่า สะท้อนว่าจระเข้รับจบได้ทุกงานซ่อมและสร้างได้จริง
ภาพที่สื่อใน TVC นี้ยังย้ำถึงอินไซต์ลึกลงไปอีก ว่าผู้รับเหมาและเจ้าของบ้านอาจจะเจอทั้งปัญหาโครงสร้าง – หลังคา ดาดฟ้า – ผนัง – พื้น ถนน ซึ่งไม่ว่าจะหลากหลายเพียงใด จระเข้ก็สามารถรับจบหมดทุกเรื่อง และเพียงใช้ผลิตภัณฑ์ของจระเข้ร่วมกัน ก็จะสามารถปกป้องทั่วบ้าน ทั้งหมดเป็นการหยิบความเยอะของปัญหาตรวจความเรียบร้อยก่อนรับบ้านของคนที่มีบ้านใหม่ มาเล่าอย่างเข้าใจ
TVC นี้ไม่ได้มุ่งสื่อสารที่ธุรกิจก่อสร้างเท่านั้น แต่ยังโฟกัสที่ผู้บริโภค ซึ่งส่วนใหญ่อาจจะไม่ได้มีความเชี่ยวชาญหรือความรู้ในการตรวจสอบความเรียบร้อยของงานก่อสร้าง และหากว่าเจอผู้รับเหมาดี ทำงานเรียบร้อย ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร แต่หากโชคร้ายก็จะต้องเจอกับปัญหาจุกจิกมากมายในตัวบ้าน ทั้งงานไม่เรียบร้อย มีจุดให้แก้งานเยอะ ถึงแม้ว่าในสัญญาจะมีการระบุว่าผู้รับเหมาจำเป็นต้องแก้งานเมื่อตรวจรับบ้านไม่ผ่านก็จริง แต่บางครั้งงานที่แก้ก็อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้งบบานปลายกว่าที่ตั้งไว้ตอนแรก ดังนั้นนอกจากจะหาช่างที่รู้ใจและเชี่ยวชาญแล้ว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ตรงโจทย์และมีคุณภาพ ใส่ใจต่อผู้อยู่อาศัย รวมถึงมีนวัตกรรมที่ช่วยแก้ Pain Point ของผู้ใช้จริงอย่างจระเข้ จึงมีความสำคัญที่สุด
4 กลยุทธ์อัดแน่นใน TVC
การหยิบอินไซต์จริงจากคนมีบ้านและคนรักบ้าน มาเป็นกิมมิคในการสื่อสารผ่านแคมเปญหนังโฆษณาสุดเรียลของจระเข้นั้นเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจมาก เพราะสามารถโชว์ความครอบคลุมของไลน์อัปผลิตภัณฑ์เพื่องานก่อสร้างได้หลายมิติ
ไล่ตั้งแต่กลุ่มนวัตกรรมการปูกระเบื้อง กลุ่มนวัตกรรมกาวยาแนว กลุ่มนวัตกรรมเคมีก่อสร้าง และสีจระเข้ ทั้งหมดนี้ครอบคลุมทุกเรื่องงานก่อสร้าง ซ่อมแซม ตกแต่ง ตั้งแต่ฐานรากไปจนถึงหลังคา ซึ่งทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ของจระเข้ล้วนผ่านกระบวนการคิดค้นและพัฒนาภายใต้สโลแกน “Innovation for your family’s happiness” ซึ่งเป็นนวัตกรรมก่อสร้างความสุขเพื่อทุกคนและครอบครัว
1 ใน 4 กลยุทธ์การตลาดที่จระเข้มัดรวมลงใน TVC ใหม่ คือการไฮไลต์ว่าจระเข้มีโซลูชั่นที่ครอบคลุมเห็นได้จากการยอมรับว่าปัญหาเรื่องบ้านนั้นมีจำนวนมากก็จริง แต่แบรนด์จระเข้มีผลิตภัณฑ์ที่มากกว่าปัญหาบ้านที่เกิดขึ้น
ตรงนี้ทำให้จระเข้แสดงจุดยืนได้ว่ามีข้อมูลเชิงลึกที่เกิดขึ้นจริง และบริษัทเข้าใจประเด็นปัญหาที่เกิดระหว่างการตรวจสอบบ้าน รวมถึงปัญหาทั่วไปที่เจ้าของบ้านต้องเผชิญ ดังนั้นผลิตภัณฑ์ของจระเข้จึงสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้
กลยุทธ์ที่ 2 คือการแสดงภาพแบรนด์ว่าจระเข้มุ่งจัดการกับปัญหา ทำให้ความท้าทายในการก่อสร้างและซ่อมแซมบ้าน ซึ่งเชื่อมโยงกับประสบการณ์ของเจ้าของบ้านและผู้สร้างบ้าน สามารถส่งให้แบรนด์จระเข้เป็นที่รู้จักและน่าเชื่อถือมากขึ้น จากการเรียนรู้ รับฟังอย่างใกล้ชิดกับพาร์ทเนอร์ ทีมช่าง และผู้บริโภคมาตลอด 32 ปี และด้วยแนวคิดการพัฒนานวัตกรรมที่ไม่หยุดนิ่งและยังมีโจทย์ในด้านของการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและผู้อยู่อาศัย จนสามารถพัฒนาสินค้านวัตกรรมก่อสร้างที่ Beyond customer pain point ได้อย่างครอบคลุมและตรงจุด จนสามารถเป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ในใจของผู้รับเหมา ผู้บริโภคทั้ง B2B และ B2C ตลอดจนโครงการพื้นฐานขนาดใหญ่ ที่เป็นอีกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของจระเข้ด้วย ด้วย 4 ไลน์อัปผลิตภัณฑ์ไฮไลต์ที่ครอบคลุมทุกปัญหางานก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็น 1. งานปกป้องฐานรากและโครงสร้าง ที่มีทั้งผลิตภัณฑ์ซีเมนต์กันซึมสำหรับพื้นผิวต่าง ๆ โดยนำเสนอสินค้าใหม่อย่าง จระเข้ จีพี เกร้าท์ และ จระเข้ อีพ็อกซี่ ซีล 2. งานปกป้องพื้นและถนน อย่างจระเข้ ฟลอร์ สมูท แพทช์ และ จระเข้ โรด ฟิกซ์ เอ็กซ์เพรส 3. งานปกป้องผนัง มีตั้งแต่ปูนฉาบ-ตกแต่ง ตลอดจนบุร่องต่างๆ โดยมีผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่น่าสนใจคือจระเข้ สกิมโค้ท สมูท สุดท้ายจบด้วย 4. งานปกป้องดาดฟ้า – หลังคา โดยสินค้าเด่นในปีนี้คือจระเข้ เฟล็กซ์ ชิลด์, จระเข้ รูฟ ชิลด์ และ จระเข้ เทปซีล
กลยุทธ์ที่ 3 คือการสื่อถึงวิสัยทัศน์ของแบรนด์ที่เน้นถึงความสุขของครอบครัว ผ่านสถานการณ์และอารมณ์ความรู้สึกจริงของการได้เป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งผลิตภัณฑ์ของจระเข้มีส่วนช่วยให้สภาพแวดล้อมภายในบ้านมีความสุขและปลอดภัย ไม่ว่าจะเจอกับปัญหาบ้านจุดไหนจระเข้ก็มีผลิตภัณฑ์ที่พร้อมเข้ามาช่วยแก้ปัญหาและดูแลบ้านได้ครอบคลุมเสมือนเพื่อนที่รู้ใจ
กลยุทธ์ที่ 4 คือแนวทางการเผยแพร่แคมเปญแบบบูรณาการ หนังโฆษณานี้สามารถเข้าถึงผู้ชมทั้งแบบ ออนไลน์และออฟไลน์ได้ในวงกว้าง เพิ่มการมองเห็นและการมีส่วนร่วมได้ผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อเป็นการสร้างอารมณ์ร่วมกับผู้บริโภคได้ทุกช่องทาง เพื่อนำไปสู่การตลาดแบบ O2O หรือ Online to Offline Marketing ของจระเข้ที่มีหลากหลายช่องทางการขายเพื่อเข้าถึง End User และสอดรับกับชีวิตยุคใหม่ ผ่านโมเดล “จระเข้ช็อป” (Jorakay Shop) ผ่านผู้แทนจำหน่ายเพื่อกระจายสินค้าให้ทั่วถึงและรองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น และยังมีการจำหน่ายในช่องทาง E-Commerce รวมถึงการดึงกลุ่มลูกค้าหลักที่เป็นกลุ่มผู้ใช้งานเข้ามาไว้ในแพลตฟอร์ม Loyalty Program ที่ชื่อ “JORAKAY FAMILY”เพื่อติดต่อสื่อสารกับลูกค้า รวมถึงการมอบสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มเป้าหมาย
ใครอยากชมลีลาของพี่เข้ที่สามารถปกป้องทั่วบ้าน ขอเชิญคลิกไปชมอินไซต์คนรักบ้าน ที่จระเข้หยิบมาเป็นกิมมิคในหนังโฆษณาสุดเรียลได้เลย