เตรียมตัวกันหรือยัง! เจาะลึก 5 เทรนด์การทำธุรกิจมาแรง บนแพลตฟอร์ม Instagram ในปี 2019

Social Media ปัจจุบันมีการเติบโตของผู้ใช้ค่อนมากและหลั่งไหลเข้ามารวดเร็ว ถือเป็นโลกคู่ขนาดที่ดำเนินไปพร้อมกับชีวิตเลยก็ว่าได้ จึงไม่แปลกที่ Social Media จะกลายเป็นแพลตฟอร์มเนื้อหอมหนึ่งช่องทางการทำการตลาดลำดับต้นๆ ที่กำลังฮิตอยู่ในขณะนี้ สำหรับประเทศไทยคงหนีไม่พ้น Facebook ที่บรรดานักการตลาดและเอเจนซี่ ชอบใช้ในการลงโฆษณา โปรโมทแบรนด์ รวมถึงสร้างแคมเปญต่างๆ แต่ที่ผ่านมาช่วงหลังๆ Facebook มีการปรับปรุงระบบใหม่ ส่งผลให้ผู้คนทั่วไปเห็น Ads หรือ เพจ ได้น้อยลง ดังนั้นการหา Social Media ช่องทางอื่นๆ เพิ่มเสริมศักยภาพ ก็ถือเป็นทางเลือกที่ฟังดูดี

Instagram เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่มีการพัฒนาจากอดีตมากพอสมควร เห็นได้จากฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามานอกจากจะใช้เพื่ออัพเดทวิถีชีวิตในแต่ละวันแล้ว จะสามารถพลิกแพลงนำมาทำการตลาดได้เหมือนกัน โดยปัจจุบัน Instagram มีผู้ใช้ 1,000 ล้านรายต่อเดือน มีการกดหัวใจมากกว่า 4 พันล้านต่อเดือน และรูปภาพแต่ละภาพได้รับค่าเฉลี่ยการมีส่วนร่วมมากกว่า 23 เปอร์เซ็นต์มากกว่าของ Facebook เสียอีก วันนี้จึงของมากางเทรนด์ธุรกิจของ Instagram ที่มาแน่ๆ ในปี 2019 เพื่อใช้เป็นแนวทางสำหรับดำเนินธุรกิจในอนาคตอันใกล้

IGTV วิดีโอแนวตั้ง เทรนด์ที่ถูกคำนวนไว้แล้ว

IGTV เปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยถูกออกแบบให้เหมาะสมกับพฤติกรรมผู้ชมวิดีโอผ่านมือถือ แน่นอนว่าต่างจาก Youtube และแพลตฟอร์มอื่นๆ เพราะเป็นการรับชมแบบแนวตั้ง ในแง่ของการทำการตลาดวิดีโอแนวตั้งน่าสนใจจริงหรือ? Chipotle เป็นบริษัทรายแรกๆ ที่ได้ลองเผยแพร่คอนเทนต์ผ่าน IGTV เปิดเผยว่า “ถ้าคุณยังไม่ได้อยู่ที่ IGTV ถึงเวลาแล้วที่จะกระโดดลงไปบนรถไฟเหาะ” ใน 3-5 ปีข้างหน้า  IGTV จะเทียบชั้นกับ Youtube อย่างแน่นอน โดยจุดของมันคือสามารถลงวิดีโอแบบยาวได้ ส่งผลให้นักการตลาดมีตัวเลือกในการส่งคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบยิ่งขึ้น ซึ่งในอนาคต Instagram ได้เตรียมแผนกระตุ้นธุรกิจให้ใช้ IGTV และกลุ่มธุรกิจจะตอบสนองต่อวิดีโอรูปแบบยาวเหล่านี้แน่นอน

Micro-brands คือส่วนสำคัญ

Micro-brands หรือกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก เป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้ตลาดใน Instagram คึกคัก โดนแบรนด์เล็กเหล่านี้มักใช้ Instagram เป็นช่องทางสำหรับการซื้อ-ขาย จะเห็นได้ว่ามีกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้า ผลุดสร้างร้านกันอย่างดอกเห็ด ด้วยคุณสมบัติคือสามารถสร้างการรับรู้แบรนด์ได้เร็ว การเปิดหน้าร้านขาย สามารถดึงดูดคนจำนวนมากๆ ให้มาเข้าชมในเวลาอันสั้น สำหรับคนที่เข้ามาใช้บริการก็มีจำนวนอยู่ไม่น้อยที่ซื้อสินค้าผ่านทาง Instagram

ยกตัวอย่างแบรนด์ MVMT นักออกแบบนาฬิกาแฟชั่นระดับแนวหน้า หลังจากเปิดตลาดใน Instagram พบว่า มีอัตรายอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 2 เท่า และยังได้รับ 75 เปอร์เซ็นต์ สำหรับ brand awareness และ brand recall มากกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ

Stories Ads มาแรง

Stories Ads จะช่วยให้คุณสามารถแทรกแบนเนอร์ระหว่างภาพนิ่งของเรื่องราวของผู้ใช้คนอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ กลายเป็นแบนเนอร์ขนาดใหญ่ลักษณะเต็มจอ ในด้านของผู้ใช้งาน Instagram Stories จะมีโอกาสได้เห็นโฆษณาระหว่างใช้งาน ปัจจุบันธุรกิจต่างใช้ประโยชน์จาก Instagram ในการโฆษณามากขึ้นกว่าเดิม สัดส่วนของตำแหน่งโฆษณาบน Instagram เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนถึง 43 เปอร์เซ็นต์ในเดือนมีนาคม

Influencer marketing: การตลาด Influencer บน Instagram เมื่อทำอย่างถูกต้อง จะสร้างรายได้อย่างมหาศาล การใช้ผู้มีอิทธิพลทางความคิด จะช่วยให้แบรนด์เข้าถึงผู้ชมใหม่ๆ สร้างโอกาสในการขายที่มีคุณภาพสูงและเพิ่ม ROI อย่างมาก

Video ads: การศึกษาคาดการณ์ว่าวิดีโอจะเป็นคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในปี 2021 คิดเป็น 81 เปอร์เซ็นต์ของการเข้าชมอินเทอร์เน็ต และมีแนวโน้มพบสื่อวิดีโอทั้งแบบสร้างไว้แล้วและแบบเรียลไทม์จะเพิ่มขึ้น

Format types: อนาคตแบรนด์จะใช้ Stories Format มากขึ้น คาดการณ์จากการใช้ Instagram Stories ในปีนี้ ส่วนรูปแบบจะเปลี่ยนไปเป็น Engagement-Based แทน Promotional Posts

ตลาดอีคอมเมิร์ซ ที่กำลังเติบโตบน Instagram

แม้ปัจจุบัน Instagram จะยังไม่มีฟังก์ชันแบบร้านค้าอีคอมเมิร์ซอย่างเต็มตัว แต่จากตลาดซื้อ-ขายที่เติบโตขึ้นภายในแพลตฟอร์มจะส่งผลให้มีการพัฒนาเรื่องนี้อย่างแน่นอน โดยทุกวันนี้เริ่มเห็นมีการโพสต์ขายสินค้าผ่านระบบของ Instagram มาแล้วบ้าง ที่เรียกว่า Shoppable Posts สังเกตง่ายๆ ที่รูปภาพจะมีไอคอนถุงช้อปปิ้งในมุมภาพ เมื่อแตะเข้าไปจะพบรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ เมื่อแตะที่ปุ่ม “ซื้อเดี๋ยวนี้” ผู้ใช้จะถูกนำไปที่หน้าผลิตภัณฑ์ในเว็บไซต์ของผู้ขายโดยทันทีซึ่งสามารถซื้อสินค้าได้จริง Instagram จึงเป็นช่องทางโซเชียลมีเดียที่ช่วยให้คุณสามารถเพิ่มยอดขายและทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Engagement Features ของนักการตลาด

Instagram จะมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้นักการตลาดใช้งานได้ง่ายขึน อาทิ including questions, emoji slider, รวมถึงการสร้าง Polls ถือเป็นเครื่องมือที่ดีในการสร้างปฏิสัมพันธ์การรับรู้ถึงแบรนด์ สามารถเปิดการสนทนาโดยตรงกับผู้ติดตามของแบรนด์ เรียนรู้สิ่งที่ผู้ติดตามสนใจ ผ่านการแบ่งปันเรื่องราวของพวกเขา ซึ่งข้อมูลที่ได้จะกลายเป็นข้อมูลเชิงลึก ที่สามารถนำมาสร้างเป็นคอนเทนต์หรือผลิตภัณฑ์ในอนาคต เพื่อสร้าง brand loyalty และ engagement อย่างยั่งยืน

ที่มาบทความและรูปภาพ : ADWEEK